ชีวิตมีค่าเมื่อมีปัญญานำทาง
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
พระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้ ไม่ใช่สำหรับสวดหรือท่องโดยไม่รู้และไม่เข้าใจ แต่สำหรับศึกษามีความเข้าใจถูกต้องและประพฤติปฏิบัติตาม
เมื่อมีความเข้าใจสามารถที่จะประพฤติปฏิบัติตามได้แล้ว ก็เป็นชีวิตที่มีค่าเมื่อเข้าใจธรรมะถูกต้อง นำไปสู่ความประเสริฐอย่างยิ่ง คือ ปัญญาที่รู้ความจริงจนถึงการดับกิเลส
รายการบ้านธัมมะ 4 มิถุนายน 2565 ชีวิตมีค่าเมื่อปัญญานำทาง
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง
ยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ
พุทธมนต์ คือ พระปัญญาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
สวดและสาธยาย เป็นการกล่าวเป็นลำดับด้วยดี ด้วยความเข้าใจ
การสาธยายเป็นบ่อเกิดหรือเป็นเหตุนำมาซึ่งความเป็นพหูสูตร แสดงว่าการทบทวนบ่อยๆ ความเข้าใจเพิ่มมากขึ้น จากการได้ฟังพระธรรมแล้วไม่ลืม ก็จะทำให้เป็นผู้ที่มั่นคงในความเป็นจริงของธรรมะมากยิ่งขึ้น เป็นผู้ที่สามารถจะทรงจำพระธรรมวินัยด้วยความเข้าใจที่ถูกต้อง
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ ว่าเมื่อภิกษุได้ฟังธรรมะ แล้วก็มีการสาธยายธรรมะ เมื่อเธอสาธยายธรรมะ ก็จะเป็นเหตุให้ความรู้ความเข้าใจเจริญขึ้น เป็นเหตุหนึ่งที่จะนำไปสู่วิมุตติ คือ ความหลุดพ้น เพราะว่ามีความเข้าใจในพระธรรมคำสอนที่พระองค์ทรงแสดง
ในทางตรงกันข้าม เมื่อภิกษุไม่ฟังธรรมะ ไม่สาธยายธรรมะ ก็คือไม่มีการทบทวนธรรมะเลย นั่นแหละคือเหตุแห่งความเสื่อม
ถ้าไม่เคยฟังธรรมะเลย จะเอาอะไรมาสาธยาย คงไม่ต้องสาธยายทุกมนต์แต่ว่าเพียงแค่คำเดียว เคยทบทวนหลังจากที่ฟังแล้วหรือเปล่า ว่ามีความหมายละเอียดลึกซึ้งอย่างยิ่งแค่ไหน ถ้าขณะนั้นเป็นการที่ได้ฟังแล้ว และก็ไตร่ตรองสาธยาย ทบทวน ไม่ใช่ไม่มีอะไรเลย ไม่รู้อะไรเลย มีแต่คำที่ไม่รู้จัก และก็พูดคำที่ไม่เข้าใจด้วย
ถ้าจะถามคนที่สวดมนต์ว่า มนต์คืออะไร ... มนต์คือพระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ... ไม่รู้จักพระพุทธเจ้า ... รู้จักแต่คำที่ไม่รู้จัก!!! เข้าใจหรือเปล่า ... ถ้าไม่เข้าใจแล้วจะรู้จักคำนั้นหรือ!! นั่งพูดคำที่ไม่รู้จัก
สาธยายไม่ใช่ไม่มีปัญญา มนต์คือปัญญา เพราะฉะนั้น ได้ฟังธรรมะแล้วเกิดปัญญา ... พอไหม!!! เห็นความลึกซึ้งของธรรมะไหม!!! แม้ได้ฟังแล้วไม่ทบทวน ไม่ตรึกตรอง ไม่ระลึกถึงบ่อยๆ จะมีความเข้าใจหรือว่าลืม!!!
เพราะไม่เรียนพระพุทธพจน์ ไม่ฟังคำของพระองค์ ไม่ไตร่ตรองแล้วจะเข้าใจอะไร เพราะฉะนั้น ที่ว่าสวดมนต์ต้องเข้าใจ ไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจแล้วก็พูดแต่คำที่พูด ลืมนึกถึงความจริงของคำนั้น เพื่อที่จะไม่ลืมและจะได้เข้าใจลึกซึ้งยิ่งขึ้น
เดี๋ยวนี้มีธรรมะไหม!!! ศึกษาแล้วก็รู้ว่ามีเดี๋ยวนี้ แล้วก็ไปถามคนที่สวดมนต์สิว่าสวดว่าอะไร แล้วเขาเข้าใจหรือเปล่า "สัพเพ ธัมมา อนัตตา" เข้าใจคำไหน!!!
สัเพ สังขารา อนิจจา ... อนิจจาคืออะไร ... ไม่เที่ยง ... ไม่เที่ยงคืออย่างไร ... เที่ยงคืออะไรก่อน ... เที่ยงคือมีอยู่ตลอดไป เพราะฉะนั้นไม่เที่ยงหมายความว่าอะไร ... ทุกอย่างต้องแตกสลายไปตามกาลเวลา ... กาลเวลาคือเมื่อไหร่!!! วาจาสัจจะเปลี่ยนไม่ได้ เพราะฉะนั้น พูดคำที่รู้จักหรือเปล่า!! ที่จะสวดแค่สามคำ "สัพเพ สังขาราอนิจจา" ... แล้วนั่งสวด ก็นั่งพูดคำที่ไม่รู้จัก แล้วจะมีประโยชน์อะไร ... ทั้งหมดมาจากความไม่รู้ใช่ไหม!!! ถ้าไม่รู้แล้วไปทำอะไรๆ ต่างๆ ก็ทำด้วยความไม่รู้
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง
ยินดีในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ
ถึงแม้ว่าตอนนี้จะไม่สามารถสาธยายทุกคำในพระไตรปิฎกได้ แต่ว่าอย่างน้อยก็สามารถค่อยๆ ศึกษาไปตามลำดับได้
แต่ละคำๆ มีความละเอียดลึกซึ้งอย่างยิ่ง เมื่อศึกษาแล้วก็มีการสาธยาย ทบทวนด้วยความเข้าใจบ่อยๆ ความเข้าใจก็เพิ่มมากขึ้นนั่นเอง
... เพียงคำเดียว เคยทบทวนหลังจากที่ได้ฟังแล้วหรือเปล่า ว่ามีความหมายละเอียดลึกซึ้งอย่างยิ่งแค่ไหน ถ้าขณะนั้นเป็นการที่ได้ฟังแล้ว แล้วก็ไตร่ตรอง สาธยาย ทบทวน ...