ไม่เข้าใจเพราะคิดเอง

 
nattawan
วันที่  24 ต.ค. 2566
หมายเลข  46855
อ่าน  389

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ณ กาลครั้งหนึ่ง สนทนาธรรม ที่บ้านซ.พัฒนเวศม์ 29 ก.ย. 66

เข้าใจมั่นคงว่า "ไม่มีเรา"ทีละเล็กทีละน้อย ... ทีละเล็กทีละน้อย เพื่อให้เข้าใจความจริงว่า "ไม่มีเรา"

คนชาติก่อนอยู่ไหน ไม่มีเลย แล้วชาตินี้เป็นชาติก่อนของชาติหน้า มันหายเกลี้ยง ... ไม่เหลือ และชาตินี้ถ้าเราไม่จำไว้มันก็ไม่มี เพราะฉะนั้นตัวสัญญาความจำนี่มันสำคัญมาก เหนียวแน่น หนาแน่น วิปลาสคลาดเคลื่อน ฟังไปเท่านั้น ... เข้าใจขึ้น ... แล้วเขาทำหน้าที่ของเขาเอง

"ดับหมดแล้ว แต่สะสมอยู่ที่จิต" อยู่ไหน ... อยู่ที่จิตทุกขณะ ป้ายติดอยู่ในจิตเลย เหมือนสีเอาไปย้อมผ้าไว้ใครเอาออกได้ ... เอาสีออกมาจากผ้าที่ย้อมสิ ... ลึกซึ้งมาก ... ถ้าไม่ลึกซึ้งอย่าเรียกว่าพระพุทธเจ้า

ยากแสนยากที่จะเข้าใจความจริง พระองค์ตรัสละเอียดยิบ เดี๋ยวนี้อะไรบ้าง มีมากมายแต่ปรากฏหรือเปล่า ให้รู้ว่าที่ปรากฏจริงๆ แค่ 5 ทาง ... 5ทางนี้ก็หนักหนา ยังไปคิดต่อทางที่ 6 อีกมากมาย ... มีทางเดียว ... ฟังไป ใครไม่ฟังคือไม่มีทางรู้ความจริง

โลภะคุโณ โลภะเป็นชั้นๆ และถ้าเราไม่สะสมความเข้าใจนี้ไว้ เวลามันปรากฏจะรู้ไหม!! แต่ทั้งๆ ที่มันกำลังปรากฏ ... สะสมแค่ไหน มันพร้อมที่จะเข้าใจไหม ถ้ายังไม่พร้อมก็เป็นอย่างนี้ไป แล้วก็ค่อยๆ เข้าใจขึ้นไปทีละนิดทีละหน่อย

ต้องหาคำตอบจากคำถาม เพราะฉะนั้นคำถามหัดให้เริ่มเป็นคนคิด เพราะว่าไม่เคยคิดละเอียด เราเข้าใจคำถามมุมนั้นมุมนี้ แม้แต่คำถามว่าถามว่าอย่างไร ... เราเข้าใจคำถามไหม ... แล้วเข้าใจที่จะตอบไหม!!

"ไม่อยู่ต่อไปได้ไหม" แค่นี้ถ้ารู้ว่าไม่ได้หมายความว่าเข้าใจคำถาม เพราะเดี๋ยวนี้มันก็อยู่ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ จะไม่ให้อยู่ได้ไหม เพราะฉะนั้นอยู่ต่อไปน่ะอยู่แบบไหนเท่านั้น เลือกไม่ได้แต่เข้าใจได้ แค่นี้ก็ต่างกันแล้ว ไม่ใช่ให้ไปเลือกแต่ให้เข้าใจ และความเข้าใจเขาทำหน้าที่เขา ธรรมะทุกอย่างเขาทำหน้าที่ให้รู้ว่า ธรรมะทำหน้าที่ไม่ใช่เรา

เชิญคลิกฟัง ...

ณ กาลครั้งหนึ่ง “สนทนาธรรมที่ บ้าน ซ. พัฒนเวศม์” วันศุกร์ที่ ๒๙ ก.ย. ๖๖ (ช่วงบ่าย)

🟥 youtu.be/vi8zjwO_mrQ?si=RB0jQq_gqKi0Lmdd

🟦 fb.watch/nT3DGEcvKn/?mibextid=NnVzG8

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
nattawan
วันที่ 24 ต.ค. 2566

เราฟังแต่ความเข้าใจเรายังไม่พอ เพราะฉะนั้นเราเลยสงสัย ... ไม่หมด ความสงสัยถ้าไม่เข้าใจจริงๆ ทุกคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าลึกซึ้ง ทำให้เราเริ่มเป็นคนละเอียด ถ้าไม่ละเอียดไม่รู้จักพระองค์ ไม่เข้าใจคำที่พระองค์ตรัส แล้วเราก็พูด ... และปัญญาห่างกันลิบ เช่น พระองค์ตรัสคำว่า "ธรรมะ" แต่เราพูดแล้วก็ไม่รู้เรื่อง เราควรไหมที่จะเป็นอย่างนั้น!!

เพราะฉะนั้นฟังและไตร่ตรอง รอบคอบ ละเอียด ลึกซึ้งจนสามารถเข้าใจ คำนั้นหมายความถึงสิ่งที่มีจริงที่เป็นอย่างนั้น เช่น เจตนาเจตสิก

ที่เราไม่เข้าใจเพราะเราฟังเผิน ไม่ไตร่ตรองและคิดเองด้วย พระองค์ตรัสว่าอะไร ... เราคิดเองหมด

รู้หรือที่เราคิด!! ... เราไม่รู้เราก็คิดอย่างไม่รู้ มันก็ออกมาเป็นความไม่รู้ เพราะฉะนั้นต้องฟังดีๆ ... เริ่มต้นใหม่ ... ทุกคำไม่พลาดที่มีความลึกซึ้ง เพราะเราไม่รู้ว่าเรียนอะไร เราจะเรียนชื่อกับคำ คิดเองเพราะเราประมาท ไม่ลึกซึ้ง เราคิดว่าเราถูก แต่เราเป็นใครแล้วเราฟังพระพุทธเจ้าทำไม ... ทำไมไม่ฟังคนอื่น!! เพราะฉะนั้นไม่เข้าใจเพราะคิดเอง

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
nattawan
วันที่ 24 ต.ค. 2566

แต่ละคำของพระองค์ลึกซึ้ง ต้องค่อยๆ เข้าถึงความเป็นจริงซึ่งเป็นธรรมะ ศึกษาให้ถึงความ "ไม่ใช่เรา" ฟังแล้วเข้าใจเป็นความเข้าใจของตนเอง ฟังซ้ำเพื่อเข้าใจ เพื่อไตร่ตรองเป็นความเข้าใจของเราเอง ... นี่เป็นประโยชน์ของการฟัง!!!

ให้รู้ว่า "เรา" ทั้งหมดที่เกิดมา ถ้าไม่มีพระพุทธเจ้า เราก็เชื่อมั่นว่า "เรา" แน่ๆ จะไม่ใช่เราได้ยังไงเพราะไม่รู้อะไรเลย แต่พอฟังแล้วรู้ว่า "นั่นเป็นนั่น ... นั่นเป็นเราไม่ได้" ... กว่าจะมั่นคง "ปริยัติ" รอบรู้ในพระพุทธพจน์ ... ไม่ใช่คำของคนอื่น

แต่ละคำเราไม่รู้มาก่อน ฟังแล้วค่อยๆ รู้ เพราะไม่ใช่ฟังเผินๆ ฟังแล้วไตร่ตรองว่า มันกำลังมีเดี๋ยวนี้แต่ทำไมเราไม่รู้ ... และพระองค์ทรงตรัสรู้และทรงแสดงความจริงทั้งหมดให้เริ่มคิดด้วยความเข้าใจว่าถูกหรือผิด ถ้าถูกก็เปลี่ยนไม่ได้เพราะเป็นความจริงอย่างนั้น ใครจะมาเปลี่ยนก็ไม่ได้ ใครจะมาบอกเราว่า เห็นไม่เกิดไม่ดับ ... ก็ไม่ได้ ก็มันมีเดี๋ยวนี้ ถ้ามันไม่เกิดก็ไม่มี แล้วมันก็หายไปเวลาได้ยิน

ตำราตั้งเยอะทั้งพระวินัย พระสูตร พระอภิธรรม เพื่อเข้าใจสักหนึ่งก็ยังดี ไม่ใช่ไปเก่งรู้หมดแต่ไม่เข้าใจ และถ้าเข้าใจสอบพร้อมกันทั้งหมด เพราะเป็นความจริง ถ้าไม่จริงมันต้องขัดกันตรงนั้นตรงนี้ แต่นี่มันจริงเปลี่ยนไม่ได้เลย ไม่ว่าโดยนัยอะไร จริงหมดแต่ละเอียดขึ้นทุกด้าน

ถ้าเป็นคำของพระองค์ พูดถึงสิ่งที่มีจริงให้เข้าใจตามลำดับ อย่างตรัสว่า "ถ้าไม่มีการเกิดขึ้นเห็น ก็ไม่มีเดี๋ยวนี้" เห็นมีแล้วเพราะเห็นเกิดแล้ว เห็นเป็นเห็นไม่เป็นอื่น เวลาที่เห็นเกิดต้องไม่มีอย่างอื่น แต่โลกไม่ได้ปรากฏตามความเป็นจริง ถึงเต็มไปด้วยความไม่รู้ ความหลง ความบ้าได้หมดทุกอย่าง ก็เป็นเรื่องเป็นราวไม่จบสิ้นตลอดชาติ

พอหมดชาตินี้จบไม่เหลือเลย ... มันไม่เหลือมาแล้ว แต่ความจำมันไม่ยอมหมด ตราบใดที่ยังเป็นคนนี้ พอหมดความเป็นคนนี้ จำที่เป็นคนนี้ก็ไม่เหลือเลย

ฟังธรรมะเพื่อให้คิดให้ไตร่ตรองไม่เหมือนที่เคยฟังจำนวนเท่านั้นเท่านี้สอบได้แต่ไม่รู้อะไร

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
nattawan
วันที่ 24 ต.ค. 2566

ธรรมเตือนใจ ... เก็บไว้ในหทัย ... ณ กาลครั้งหนึ่ง สนทนาธรรมที่บ้านซ.พัฒนเวศม์ 29ก.ย. 66

เข้าใจแม้นิดเดียวแต่ถูกต้อง นั่นถึงจะ ... นำไปถึงความเข้าใจต่อไปได้

ไม่ใช่ให้จำชื่อ แล้วจำว่าเกิดกับจิตอะไร แต่ให้รู้ลักษณะของเขา

ฟังแล้วไตร่ตรอง รอบคอบ ละเอียดลึกซึ้ง จนสามารถเข้าใจคำนั้นหมายความถึงสิ่งที่มีจริงที่เป็นอย่างนั้น

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
nattawan
วันที่ 24 ต.ค. 2566

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัยด้วยเศียรเกล้า

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
chatchai.k
วันที่ 24 ต.ค. 2566

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ