พระภิกษุให้ทานได้ไหม
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น
พระภิกษุให้ทานได้ไหม?
เป็นคำถามของลูกชาย ๗ ขวบ กระผมได้กล่าวอธิบายดังนี้ ตามความเข้าใจ ได้พูดเรื่องของทาน ๓ ประเภท ซึ่งเป็นการให้เพื่อประโยชน์แก่บุคคลอื่น คือ
- อามิสทาน (การให้อามิสเป็นทาน ได้แก่ สิ่งของทั้งภายในภายนอก ก็ดี)
- อภัยทาน (การให้ความปลอดภัยเป็นทาน ได้แก่ การปกป้องบุคคลอื่น การไม่โกรธตอบ เมื่อถูกว่ากล่าวก็ดี ถูกรังแกก็ดี ศีลที่ท่านเรียกว่าเป็น มหาทาน)
- ธรรมทาน (การให้ธรรมเป็นทาน เป็นทานสูงสุดที่พระพุทธเจ้าสรรเสริญ เพราะสามารถทำให้บุคคลผู้นั้นเห็นถูกได้ เพราะทานแม้ประเภทอื่น ก็ไม่สามารถทำให้บุคคลที่ได้รับเห็นถูกจนกระทั่งสูงสุดคือ ดับกิเลสได้)
และพระภิกษุท่านก็สามารถที่จะมอบจีวรก็ดี การมอบบริขารของตนเองก็ดี กับภิกษุรูปอื่นได้ หรือแม้ตอนที่ท่านพระสารีบุตรนำอาหารมาให้สามเณรบัณฑิตก็ดี สุขสามเณรก็ดี นั่นก็เป็นอามิสทาน เมื่อพระภิกษุท่านไม่โกรธ เมื่อมีบุคคลว่าร้าย กล่าวร้าย นั่นก็เป็นอภัยทาน และเมื่อพระภิกษุ เช่น ท่านพระสารีบุตร ท่านพระอานนท์ เป็นต้น แสดงธรรมอยู่ นั่นก็เป็น ธรรมทาน
ก็ถามเขาว่าได้คำตอบหรือยัง เขาบอกว่า พระภิกษุสามารถให้ทานได้ทั้ง ๓ ประเภทเลย (จากนั้นก็มีการพูดเรื่องอื่นๆ ของทาน ได้แก่ เจตนา ๓ กาล ของทาน ทานุปนิสัย คนตระหนี่ให้ทานไม่ได้ และอสทิสทานของพระนางมัลลิกา เป็นต้น)
ลูกชาย ถามว่า "พระอรหันต์แสดงธรรมกับพระอนาคามีได้" (คล้ายจะถามว่า ผู้ที่คุณธรรมสูงกว่า แสดงธรรมกับผู้ที่คุณธรรมต่ำกว่าได้เท่านั้นหรือ) ก็เลยบอกเขาว่า ธรรมที่ถูกต้องก็เป็นธรรมของพระพุทธเจ้าทั้งนั้น ไม่จำกัดว่าผู้ใดเป็นผู้ที่แสดง แม้ผู้แสดงเป็นบุคคลที่คุณธรรมต่ำกว่า เช่น สมัยที่ท่านพระอานนท์ยังเป็นพระโสดาบัน อยู่ ท่านก็แสดงธรรมของพระพุทธเจ้า แม้พระอรหันต์ทั้งหลายก็ฟัง เป็นต้น
ขอท่านอาจารย์วิทยากร เพิ่มเติมความเข้าใจ ในข้อปัญหา "ภิกษุให้ทานได้ไหม?" ด้วยครับ
ขอกราบอนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
เป็นการสนทนาที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งระหว่างคุณวิทวัตกับบุตรชาย ซึ่งคุณวิทวัตได้กล่าวชัดเจนแล้ว พระภิกษุ ท่านสามารถให้ทานได้ เช่น แบ่งปันสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่เพื่อนสหธรรมิกได้ และ ทานที่ประเสริฐ คือ ธรรมทาน และแม้ท่านพระสารีบุตร ท่านก็ยังเคยได้ถวายทาน เพื่ออุทิศคุณความดีแก่เปรต ตามข้อความในพระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เปตวัตถุ เล่ม ๒ ภาค ๒ - หน้า ๑๓๓ ดังนี้ ...
ท่านพระสารีบุตรเถระผู้มีใจอนุเคราะห์ รับคำของนางเปรตนั้นแล้ว จึงถวายข้าวคำหนึ่ง ผ้าประมาณเท่าฝ่ามือผืนหนึ่ง และน้ำดื่มขันหนึ่งแก่ภิกษุรูปหนึ่งแล้ว อุทิศส่วนบุญไปให้นางเปรตนั้น พอท่านพระสารีบุตรเถระอุทิศส่วนบุญให้ ข้าว น้ำและเครื่องนุ่งห่มก็บังเกิดขึ้นทันที นี้เป็นผลแห่งทักษิณา ภายหลังนางเปรตนั้นมีร่างกายบริสุทธิ์ นุ่งห่มผ้าอันสะอาด มีค่ามากยิ่งกว่าผ้าแคว้นกาสี มีวัตถาภรณ์อันวิจิตรงดงาม เข้าไปหาท่านพระสารีบุตรเถระ
... ยินดีในกุศลของคุณวิทวัตพร้อมด้วยบุตรชายและทุกๆ ท่านด้วยครับ