ละกิเลสของใคร

 
nattawan
วันที่  28 ต.ค. 2566
หมายเลข  46875
อ่าน  298

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงความละเอียดลึกซึ้งของธรรมะไว้ เพื่อที่จะเข้าใจสิ่งที่มีจริงๆ ทุกๆ ขณะในชีวิตว่าเป็นธรรมะทั้งหมดไม่ใช่เรา เพื่อนละคลายความไม่รู้ และความเห็นผิดในสิ่งที่กำลังปรากฏ

ถ้ายังมีความไม่รู้และความเห็นผิดในสิ่งที่ปรากฏอยู่ตราบใด ก็นำมาซึ่งกิเลสนับไม่ถ้วน ฟังแล้วเริ่มรู้ตัวแล้วใช่ไหมว่าไม่รู้ ยังมีความเห็นผิดว่าเป็นเราอยู่อย่างมากมายมหาศาล และมีกิเลสด้วย เพราะฉะนั้นอะไรละกิเลสและจะละกิเลสของใคร ... เชิญคลิกชมหาคำตอบได้ค่ะ ...

รายการบ้านธัมมะ 19 มีนาคม 2565 เรื่อง ละกิเลสของใคร

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
nattawan
วันที่ 28 ต.ค. 2566

ธรรมะอันงาม ... จะเริ่มมีธรรมะอันงามเพิ่มขึ้นได้อย่างไร ... ก็ต้องเป็นธรรมะที่ดีงาม ถ้าเป็นธรรมะที่ไม่ดี จะงามไม่ได้ ในบรรดาสิ่งที่งาม ที่ดีทั้งหลาย "ปัญญา" งาม ต้องมีความเข้าใจถูกก่อน กายถูกไหม วาจาถูกไหม คิดทำแต่สิ่งที่ดีเป็นประโยชน์ทั้งนั้น ไม่ว่าร้ายใคร ไม่ประทุษร้ายใคร ไม่เบียดเบียนใคร เพราะปัญญาเห็นโทษของธรรมะที่ไม่ดี

ค่อยๆ มีปัญญาขึ้นก็ต้องศึกษาธรรมะ แล้วคนที่ไม่ฟังธรรมะเลย จะมีโอกาสที่จะมีธรรมะอันงามขึ้นไหม ... ไม่เข้าใจธรรมะแล้วจะมีโอกาสมีธรรมะที่งามไหม? ... งามจริง ... กายดี ... วาจาดี ... แต่งามแค่ไหนก็อาจจะแค่มีกุศลเล็กๆ น้อยๆ ... ความประพฤติดีแต่เข้าใจผิด ... คำพูดจากความเข้าใจผิด ... งามไหม ... ก็ไม่งาม เพราะฉะนั้นความเข้าใจหรือปัญญาก็งามตั้งแต่เบื้องต้นจนถึงที่สุด

เป็นประโยชน์อย่างมากที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสถึงพุทธบริษัททั้ง 4 เพราะฉะนั้นอุบาสก อุบาสิกาแม้ไม่ใช่บรรพชิตก็ทำบริษัทให้งามได้ ถ้าภิกษุผู้ใหญ่ที่เข้าใจถูกก็จะนำพาศิษย์ให้ถูกต้องได้ แม้เราเองไม่ได้อยู่ในเพศบรรพชิตก็ศึกษาและแสดงสิ่งที่ถูกต้องได้

อุบาสกอุบาสิกาจะดำรงพระศาสนาและทำพุทธบริษัทให้งามได้อย่างไร .. ก็ตามกำลังของปัญญา ซึ่งก็ไม่ได้อยู่ในเพศบรรพชิต ... ไม่เป็นไรเพราะงามคือปัญญา ขณะนั้นมีปัญญา มีคำพูดที่ทำให้เกิดปัญญา คำนั้นงามไหม? คำถามกับคำที่ไม่ทำให้เกิดปัญญา เปรียบเทียบกันดู ... งามไหม? เพราะฉะนั้นสำคัญที่ปัญญา

ธรรมะที่ดีงามพระองค์ประกาศว่าเป็นโสภณธรรม คือ จิตและเจตสิกที่เกิดร่วมด้วยที่ดีงามเป็นโสภณธรรม ปัญญาเป็นธรรมะที่งาม ... อย่างไรจะเห็นความงามของปัญญา ... ปัญญาคืออะไร ทุกคำผ่านไม่ได้ เพราะถ้าผ่านไปก็สงสัย พูดแต่คำว่าปัญญา แล้วปัญญาคืออะไร ... ปัญญาคือเข้าใจถูกต้องตามความเป็นจริง ไม่เข้าใจคลาดเคลื่อน

เข้าใจถูกคือเข้าใจอะไร ... พูดถึงอะไรก็ต้องเข้าใจสิ่งนั้นทั้งหมดทุกอย่าง ความจริงของสิ่งนั้นคืออะไร ... เป็นอย่างนี้แต่พูดอีกอย่าง ... ถูกไหม ... ถ้าไม่ถูกก็ไม่ใช่ปัญญา ... งามไหม ... ก็ไม่งาม

การที่จะเข้าใจความงามของปัญญา ต้องเข้าใจว่าปัญญาคืออะไร ความงามของปัญญาค่อยๆ เริ่มต้นถูกต้องได้อย่างไร ... ถ้าไม่มีการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ... ใครคิดว่าเข้าใจความจริงของสิ่งที่มีถูกต้องบ้าง ... ไม่มีทาง ... ต้องอาศัยคำของพระองค์!!!

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
nattawan
วันที่ 28 ต.ค. 2566

ปัญญางาม งามที่จะละความไม่รู้และความเห็นผิด ตั้งแต่ในขั้นต้น คือ ขั้นการฟังพระธรรม เป็นการฟังเพื่อเข้าใจความจริงของสิ่งที่มีจริงๆ ในขณะนี้ว่า ไม่มีอะไรเลยที่เป็นเรา แต่เป็นธรรมะทั้งหมด

ไม่มีใครสามารถละกิเลสแทนใครได้แต่ต้องเป็นปัญญาของผู้นั้นเอง ที่ฟังแล้วเข้าใจ ความเข้าใจเกิดเมื่อไหร่ ก็เริ่มละความไม่รู้ และความเห็นผิดว่าเป็นเรา

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
nattawan
วันที่ 28 ต.ค. 2566

... ในบรรดาสิ่งที่งามทั้งหลาย คือ สิ่งที่ดีทั้งหลาย ... "ปัญญา" งาม ถ้ามีความเข้าใจถูกแล้ว กายถูกไหม วาจาถูกไหม คิดทำแต่สิ่งที่ดีเป็นประโยชน์ทั้งสิ้น ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
nattawan
วันที่ 28 ต.ค. 2566

... กาลเวลา ย่อมกลืนกินสรรพสัตว์ พร้อมกับตัวของมันเอง ...

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
nattawan
วันที่ 28 ต.ค. 2566

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
nattawan
วันที่ 28 ต.ค. 2566

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
chatchai.k
วันที่ 28 ต.ค. 2566

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ