อกหักทำอย่างไรให้หายเศร้า

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เป็นธรรมดาของผู้ที่ยังมีโลภะติดข้องยินดีพอใจอยู่ ซึ่งเป็นธรรมดาจริงๆ เป็นธรรมที่เกิดขึ้นเป็นไปเพราะเหตุปัจจัย ตามที่ได้สะสมมา ที่จะติดข้องในสิ่งหนึ่งสิ่งใด เมื่อติดข้องแล้ว พอพลัดพรากจากสิ่งนั้นไป สิ่งที่ตามมา ก็คือ ความโศกเศร้าเสียใจ คร่ำครวญถึงสิ่งนั้น ด้วยจิตที่เป็นอกุศล เพราะตามความเป็นจริงแล้ว ผลของความติดข้อง คือ นำมาซึ่งทุกข์เมื่อพลัดพรากสิ่งนั้นไป นี้คือ ความจริง

ถ้าจะพิจารณาจริงๆ แล้ว แม้ไม่ได้จากกันตอนนี้ ในที่สุดก็ต้องจากกันอยู่ดีด้วยความตายที่เกิดขึ้น และก็ลองพิจารณาต่อไปว่า ก่อนจะมีสามี เราไม่มีสามี แต่พอเลิกกันไป ก็คือ ไม่มี เหมือนตอนที่เรายังไม่มีสามีหรือเปล่า ตอนนั้นเรายังเป็นอยู่ได้ แล้วตอนนี้ทำไมจะเป็นอยู่ไม่ได้ ก็ต้องเป็นอยู่ได้เหมือนกัน

เคยโศกเศร้าเสียใจมานับชาติไม่ถ้วนแล้ว ไม่ใช่แต่เฉพาะชาตินี้ชาติเดียว เพราะฉะนั้นแล้ว สิ่งที่จะเป็นประโยชน์จริงๆ เป็นที่พึ่งจริงๆ ก็คือ ความเข้าใจพระธรรม เมื่อมีความเข้าใจถูกเห็นถูกไปตามลำดับ เข้าใจความเป็นจริงมากขึ้น ความเศร้าโศกเสียใจ ก็จะค่อยๆ เบาบางลง แม้ว่าตอนนี้อาจจะฟังไม่รู้เรื่อง เพราะยังถูกความเศร้าโศกถูกอกุศลครอบงำ แต่ก็ขอให้ได้ค่อยๆ ฟังต่อไป ศึกษาต่อไป ครับ

ขอเชิญศึกษาเพิ่มเติมจากคำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่หัวข้อด้านล่างนี้

อกหัก ธรรมช่วยได้ไหม

... ยินดีในกุศลของทุกๆ ท่านด้วยครับ ...

สำหรับเรื่องของชีวิตของแต่ละบุคคล โดยเฉพาะชีวิตของมนุษย์ เป็นชีวิตที่เล็กน้อยและสั้นมาก เมื่อเป็นชีวิตที่สั้น เล็กน้อย ก็ควรจะหาประโยชน์จากชีวิตนี้ให้มากที่สุดที่จะมากได้ และที่จะเป็นชีวิตที่มีค่าได้ ก็ด้วยการเจริญกุศล ขัดเกลาเพื่อการดับกิเลสเป็นสมุจเฉท แต่ถ้าจะมีชีวิตอยู่ด้วยการประกอบอกุศลกรรม เป็นต้นว่า การฆ่า ก็ไม่ใช่ชีวิตที่มีค่าเลย

ที่มา อ่าน และฟังเพิ่มเติม ...

ชีวิตที่เล็กน้อยและสั้นมาก

กราบขอบพระคุณในกุศลจิตของอาจารย์ค่ะ

พระธรรม ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงคือยารักษาโรคทางใจที่ไม่มีแพทย์ใดเทียบได้ ขออนุโมทนาท่านผู้ถามที่จะได้เป็นประโยชน์ต่อบุคคลอื่นที่ได้อ่สนและมาฟังธรรมที่ละเอียดอ่อน ลึก และซาบซึ้งเพื่อขัดเกลาความทุกข์อกุศลภายในตนได้แน่นอน ถ้าบุคคลท่านน้อมนำคำสอนมาไตร่ตรองให้เข้าใจ