ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๖๓๘
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจเพื่อศึกษา และพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นข้อความที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์ พอที่จะเข้าใจได้ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้
ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๖๓๘
~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประจักษ์แจ้งความจริงของธรรม แล้วก็ทรงเห็นประโยชน์อย่างยิ่งที่จะให้คนอื่นได้รู้ความจริงด้วย จึงทรงแสดงพระธรรม ๔๕ พรรษา เรารู้กี่คำ ได้ยินกี่คำ เข้าใจกี่คำ เห็นความลึกซึ้งกี่คำ ต้องอยู่ที่ไม่ละเลยและไม่ประมาทที่จะรู้ว่าแม้คำเดียวเข้าใจถ่องแท้หรือเปล่า เช่นคำว่า "ธรรม" สิ่งที่มีจริงทั้งหมด เป็นธรรมแต่ละหนึ่ง
~ การที่ได้ฟังพระธรรมในวันนี้ ไม่ใช่เหตุบังเอิญ แต่ว่าสะสมการเห็นประโยชน์มากน้อยแค่ไหน ก็ต้องตามเหตุตามปัจจัย เพราะเหตุว่า พระธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังดำรงอยู่ สามารถที่จะฟังอีกได้ ไตร่ตรองอีกได้ ค่อยๆ เพิ่มขึ้นทีละเล็กทีละน้อยจนมั่นคง
~ ขณะไหนที่เริ่มเข้าใจ จะให้ไม่รู้สิ่งที่เข้าใจแล้ว ก็เป็นไปไม่ได้ แต่ความลึกซึ้งมีมาก เพราะฉะนั้น จะรู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเมื่อฟังคำของพระองค์แล้วเข้าใจ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนให้ไปนั่งเฉยๆ แล้วรู้นิพพาน (สภาพธรรมที่ไม่เกิดไม่ดับ สภาพธรรมที่ดับทุกข์ ดับกิเลส) หรือเปล่า? หรือว่าไปเดิน ๒ - ๓ ก้าว ไปจ้องนั่นดูนี่แล้วถึงนิพพานหรือเปล่า? นั่นไม่ใช่คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะไม่มีการรู้ความจริงเดี๋ยวนี้
~ แต่ละคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นคำที่ทำให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง ซึ่งไม่สามารถจะคิดเองได้เลย
~ แม้ว่าจะกล่าวถึงเหตุที่นำความสุขมาให้ ก็ไม่ใช่ว่าให้มีความหวังที่จะให้เรามีความสุขจากเหตุนั้น แต่มีความเข้าใจอย่างถูกต้องตรงตามความเป็นจริง ว่า นั่นเป็นเหตุและเป็นผล ธรรมอย่างนี้นำมาซึ่งผลอย่างนั้น หรือผลอย่างนี้เป็นธรรมที่เป็นผล ก็เกิดจากเหตุอย่างนั้น ไม่มีเรา
~ ความดีแม้เพียงเล็กน้อย ถ้าไม่ทำ หรือ อกุศลแม้เพียงเล็กน้อย ถ้าไม่เว้น ขณะนั้นก็พอกพูนอกุศล
~ ถ้าพูดถึงกุศลที่เว้นทุจริต ให้รู้ว่าขณะนั้นเป็นการขัดเกลากิเลส โดยการเว้นทุจริตสละอกุศลที่มีอยู่ในจิตโดยการที่เป็นกุศล
~ ความหวังยังมีอยู่ตราบใด ความหวังก็เพิ่มขึ้นตราบนั้น ไม่มีทางที่จะขัดเกลาได้เลย
~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงธรรม คือ ความจริง ต้องเป็นความจริง กุศลนำมาซึ่งอะไรบ้างซึ่งเป็นผลที่ดีตามความเป็นจริง แต่ไม่ใช่ว่าให้หวังที่จะได้สิ่งที่ดี ด้วยความเป็นเรา
~ ถ้ารู้ว่าผลต้องตามมาแน่มาจากเหตุ แล้วต้องหวังไปทำไม
~ ทำอะไรอะไรก็ตามที่เป็นกุศล โดยไม่หวัง เพราะรู้ว่าเป็นการขัดเกลาอกุศล
~ เข้าใจแล้วก็เข้าใจอีก ปัญญาทำหน้าที่ของปัญญา ไม่มีใครไปทำอะไรเลย
~ พระธรรมจะนำไปสู่ความเข้าใจที่ถูกต้อง เพราะปัญญารู้ว่าขณะนั้นแต่ก่อนนี้เคยเป็นคนที่ไม่สนใจที่จะทำดีเลย แต่พอได้ฟังพระธรรมแล้ว ก็เข้าใจว่า ถ้าไม่ทำดี ขณะนั้นก็เป็นอกุศล
~ เพราะได้เข้าใจพระวินัยและเข้าใจพระธรรมด้วย ก็ทำให้สามารถที่จะเกื้อกูลบุคคลอื่นไม่ให้ผิดยิ่งไปกว่านี้
~ การเกิดเป็นทุกข์ ไม่มีอะไรเสียเลย มิดีกว่าหรือ? ลองคิดดีๆ กับการที่อยากมีทุกสิ่งทุกอย่าง กำลังมีแล้วก็ยังอยากมีต่อไป แล้วสิ่งต่างๆ เหล่านั้นก็ไม่เหลือเลยสักอย่างเดียว มี เพื่อทุกข์ มี เพื่อติดข้อง มี เพื่อลำบาก
~ สภาพธรรมที่จะละความติดข้อง ก็เป็นความเห็นถูกความเข้าใจถูก เพราะว่า ความติดข้องทั้งหมด เกิดจากความไม่รู้
~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเรื่องตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ในกี่พระสูตร ซ้ำแล้วซ้ำอีก เพราะว่าฟังครั้งเดียวไม่พอ
~ รู้ว่ามีกิเลสมาก แต่ไม่ฟังพระธรรม จะบรรเทาละคลายกิเลสได้อย่างไร?
~ ขณะที่ชื่นชมในความดีของบุคคลอื่น ขณะที่ช่วยเหลือเกื้อกูลบุคคลอื่นนั่นเพราะสติเกิดขึ้นระลึกเป็นไปในกุศล
~ ขณะที่เข้าใจธรรม จิตผ่องใสจากความไม่รู้ เพราะฉะนั้น แต่ละคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะฟังต่อไปไหม ถ้าฟังต่อไป นั่นคือ ผู้มีศรัทธา
~ ถ้ายังคงเห็นผิดต่อไป กาย วาจา ก็ต้องผิดต่อไป แต่ถ้าเริ่มมีความเข้าใจเล็กน้อยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็จะมีการที่สามารถเข้าใจถูกต้องและทำสิ่งที่ถูกต้องเพิ่มขึ้น
~ ขณะนี้เห็นเป็นธรรม แข็งเป็นธรรม จำเป็นธรรม ขุ่นเคืองใจเป็นธรรม สบายดีไม่เดือดร้อน ก็เป็นธรรม ไม่พ้นจากธรรมเลย เพราะมีจริงๆ เมื่อเกิดขึ้น ถ้าไม่เกิด ไม่มี เห็นยังไม่เกิด ไม่มีเห็น เห็นเกิดแล้วเปลี่ยนเห็นให้เป็นอย่างอื่นไม่ได้ นี่คือ เริ่มเข้าใจการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะว่า ต้องเริ่มคิด เริ่มไตร่ตรองทุกคำของพระองค์
~ ชาตินี้เป็นใครก็ตาม หลังจากที่สิ้นชีวิตแล้วจะเป็นคนนี้ต่อไปอีกไม่ได้เลย ไม่กลับมาอีกเลยในสังสารวัฏฏ์
~ ไม่มีใครที่เกิดแล้วไม่ตาย เดี๋ยวนี้ตายได้ไหม?
~ ความเป็นเพื่อน มีใครบ้างที่ไม่ต้องการ? เขาจะเป็นคนร้ายมาสักเท่าไหร่ก็ตาม เขาต้องการคนที่เห็นใจเขาบ้างไหม? เป็นมิตรกับเขาสักนิดสักหน่อยได้ไหม? ไม่ได้ทำร้ายเขาเลย และไม่ได้ทำร้ายใจของตัวเองด้วย
~ ความดีมีหลายอย่าง ทั้งทางกาย ทางวาจา ทางใจ แต่สำคัญที่สุดการจะดีขึ้นจนจะหมดความไม่ดี ก็คือ ความเข้าใจถูกต้องในความจริงของสิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้
ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่นี่ครับ
ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๖๓๗
... กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ที่เคารพยิ่ง
และยินดีในกุศลของทุกๆ ท่านครับ ...
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง
ยินดีในกุศลจิตครับ
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
และยินดีในกุศลของ อ.คำปั่น และทุกๆ ท่านค่ะ
กราบนอบน้อมพระรัตนตรัยด้วยเศียรเกล้า
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
อนุโมทนายินดีในกุศล อ.คำปั่น และทุกท่านค่ะ
~ ความเป็นเพื่อน มีใครบ้างที่ไม่ต้องการ? เขาจะเป็นคนร้ายมาสักเท่าไหร่ก็ตาม เขาต้องการคนที่เห็นใจเขาบ้างไหม? เป็นมิตรกับเขาสักนิดสักหน่อยได้ไหม? ไม่ได้ทำร้ายเขาเลย และไม่ได้ทำร้ายใจของตัวเองด้วย ...
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่งอนุโมทนายินดีในกุศล อ.คำปั่น