สังเวชนีย
ผู้ที่มีโอกาสที่จะได้ไปนมัสการสังเวชนียสถาน ก็ไม่ควรที่จะเพียงไปเห็นเท่านั้น แต่ควรมีกุศลจิตที่ประกอบด้วยปัญญาที่จะพิจารณาเพื่อที่จะให้เห็นความเป็น สังเวชนียะของสถานที่เหล่านั้น
สำหรับพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ได้ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ และได้ทรงดับขันธปรินิพพานไปแล้ว มีพระธรรมเป็นศาสดาแทนพระองค์ นอกจากพระธรรมที่เป็นศาสดาแล้ว ในโลกนี้ยังมีสถานที่ซึ่งเป็นสังเวชนียสถาน เป็นสถานที่ที่พุทธบริษัทจะระลึกถึงพระผู้มีพระภาคด้วยจิตที่เป็นกุศล เพราะว่าได้เข้าใจธรรม คือ ธรรมทั้งหลายเมื่อเกิดขึ้นแล้วต้องดับไป
ผู้ที่มีโอกาสที่จะได้ไปนมัสการสังเวชนียสถาน ก็ไม่ควรที่จะเพียงไปเห็นเท่านั้น แต่ควรมีกุศลจิตที่ประกอบด้วยปัญญาที่จะพิจารณาเพื่อที่จะให้เห็นความเป็น สังเวชนียะของสถานที่เหล่านั้น
ที่ประสูติครั้งสุดท้าย คือ ลุมพินีวัน ท่านที่จะได้ไปนมัสการที่นั่น ก็จะได้น้อมระลึกถึงพระบารมีที่ได้ทรงบำเพ็ญ ๔ อสงไขยแสนกัป
สถานที่ที่ทรงตรัสรู้ในอดีต คือ ในวันเพ็ญเดือน ๖ ถ้าท่านผู้ฟังจะน้อมระลึกถึงสถานที่ที่ทรงตรัสรู้ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่พุทธคยา พระโพธิสัตว์ ผู้ทรงเป็นปุถุชนเพราะเหตุว่ากิเลสทั้งหลายยังไม่ได้ดับเป็นสมุจเฉท แต่เมื่อได้ย่างพระบาท ไปประทับอยู่ ณ โคนต้นพระศรีมหาโพธิ์ ในวันนั้นทรงสามารถที่จะสิ้นสุดความเป็นปุถุชนดับกิเลสหมดเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า
สถานที่ทรงแสดงปฐมเทศนาที่สารนาถ เป็นการที่ทรงถึงพร้อมด้วยสัตตูปการะ คือ การอุปการะแก่สัตว์โลก เป็นการเทศนาครั้งแรก
และสถานที่ดับขันธปรินิพพานที่กุสินารา ณ ที่นั้นทุกท่านคงจะระลึกถึงที่ซึ่งเมื่อพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงดับขันธ์แล้วจะไม่มีการเกิดอีกเลย ทุกคนที่เกิดแล้วก็ตาย เกิดแล้วก็ตาย ที่ตายของแต่ละคนย่อมเป็นของธรรมดา เพราะเหตุว่าเมื่อตายแล้วก็เกิดอีก แต่ที่ดับขันธปรินิพพาน คือ ที่ที่จะไม่เกิดอีกเลยของผู้ที่ได้ทรงบำเพ็ญบารมีถึง ๔ อสงไขยแสนกัป
รับฟัง และ อ่านรายละเอียด