ถ้าไม่ตั้งต้นให้ถูกต้อง ไม่ได้ละอะไรเลย
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ถ้าเห็นความลึกซึ้ง ... เพิ่มแล้ว ... เพิ่มปัญญาที่เห็นความลึกซึ้ง แค่ฟังว่า " ธรรมะ " ยังไม่เข้าใจในความลึกซึ้ง คือเดี๋ยวนี้เราฟังธรรมะ เราฟังสิ่งที่มีเดี๋ยวนี้ ... ใครคิดบ้าง ... มัวแต่จะฟังเรื่องนั้นเรื่องนี้ ทั้งจิตทั้งเจตสิกอะไรต่างๆ แต่ลืมว่าฟังให้เข้าใจสิ่งที่มีเดี๋ยวนี้ ... ซึ่งไม่เคยรู้และลึกซึ้งเพราะมีก็ไม่รู้ ... นี่เริ่มเห็นความลึกซึ้งของธรรมะ ... นี่เริ่มละการที่เคยยึดถือเพราะไม่รู้ว่าลึกซึ้ง
ต้องฟังด้วยดีเพราะกำลังมีสิ่งนั้นให้รู้ ไม่ใช่ไปรู้สิ่งอื่น ไม่ใช่จะไปพิจารณา ไม่งั้นพระองค์จะทรงแสดงจิตกับเจตสิกหรือ?? แต่ละหนึ่ง ... ไหนตัวเราพิจารณา??
ถ้าไม่ตั้งต้นให้ถูกต้อง ไม่ได้ละอะไรเลย แล้วเมื่อไหร่จะถูก ... ฟังแล้วต้องเข้าใจธรรมะไม่ใช่เรื่องราว เพราะฉะนั้นกว่าจะเป็นธรรมะ คิดดูว่าเราสะสมความเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดมานานเท่าไหร่ แล้วจะเอามันออกไปเร่งด่วน ... ไม่มีทาง
ไม่ต้องมีวิธี ฟังเข้าใจเท่านั้น ไม่ต้องทำอะไรแล้ว เข้าใจแล้วจะทำไหม? เข้าใจแล้วจะหาวิธีไหม? เห็นความลึกซึ้งขึ้นๆ นั่นแหละหนทางละ ไม่ใช่ไปทำอะไรเลย แต่ความจริงลึกซึ้งและเห็นความลึกซึ้ง ... จึงถูกต้อง
ไม่เดือดร้อนเลย ... อีกสี่อสงไขยแสนกัปก็ไม่เดือดร้อน ... เพราะเป็นความเข้าใจสิ่งที่กำลังมีซึ่งแสนยาก ... ไม่ใช่ต้องไปทำอะไร แต่ความเข้าใจนั้น ยิ่งเข้าใจยิ่งลึกไหม เพราะขณะนี้มันกำลังลึกจริงๆ เกิดดับจริงๆ แต่ไม่ปรากฏเลยเพราะไม่รู้ แต่ถ้าค่อยๆ เข้าใจ ค่อยๆ เข้าใจขึ้น ความเข้าใจแต่ละหนึ่งที่กำลังมี ก็คือว่ารู้ว่าเพราะได้ฟังและเห็นความลึกซึ้ง
ต้องมั่นคงในความเป็นธรรมะ เป็นอนัตตา จึงจะเข้าใจอธิษฐานบารมี ไม่เผิน ตรงต่อความเป็นจริง ... กำลังมีก็ไม่รู้ ตลอดทุกขณะในชีวิตประจำวันถ้าไม่รู้ไม่มีทางละ จนกว่าจะรู้ชีวิตประจำวันทั้งหมด ไม่เหลือความเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด นั่นคือดับความไม่รู้และความยึดมั่นว่าเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด
เชิญชม ...
ณ กาลครั้งหนึ่ง “สนทนาธรรมที่ บ้าน ซ. พัฒนเวศม์” วันพุธที่ ๑๐ ม.ค. ๖๗ (ช่วงเช้า)
🔵 fb.watch/pvvmMz3pyl/?mibextid=cr9u03
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง
ยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ
