ถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
ท่านอาจารย์ ถ้าเป็นผู้ที่ถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ และเข้าใจถูกต้อง ถ้าเพียงแต่ถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ แต่ยังไม่เข้าใจโดยถูกต้อง ก็ยังไม่ถึง ยังไม่บรรลุ
ผู้ฟัง ศรัทธา สมมติว่าต่างศาสนาล่ะ เขาศรัทธาในศาสดาของเขา ชื่อว่าศรัทธาไหม
ท่านอาจารย์ ไม่ชื่อ
ผู้ฟัง ต้องในพระพุทธศาสนา
ท่านอาจารย์ ศรัทธาเป็นโสภณสาธารณเจตสิก เพราะฉะนั้น ก็เกิดกับกุศลจิต โดยที่ไม่จำกัดเชื้อชาติและศาสนา ไม่ได้หมายความว่า คนที่นับถือศาสนาอื่นหรือว่ามีความเห็นผิด จะไม่มีกุศลจิตเลย เพราะเหตุว่ากุศลจิตก็ต่างขณะกับที่กำลังมีความเห็นผิด แต่ในขณะใดที่มีความเชื่อในลัทธิในความเห็นที่ไม่ตรงต่อลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริง ไม่ว่าจะเป็นชาติศาสนาใด ก็เป็นอกุศลจิตในขณะนั้น คือ เป็นโลภมูลจิตทิฏฐิคตสัมปยุตต์
ผู้ฟัง ทีนี้มาถึงพุทธศาสนา ถ้าเราเลื่อมใสในพระรัตนตรัย และศรัทธาในพระพุทธเจ้า ในสมัยพุทธกาล มีคนเลื่อมใส ศรัทธาในพระผู้มีพระภาค แล้วก็บวช เลื่อมใสในพระผู้มีพระภาค ศรัทธานี้เสื่อมได้
ท่านอาจารย์ ถ้ายังไม่ถึงไตรสรณคมน์ ที่เป็นโลกุตตระก็เสื่อมได้ ก็ควรเป็นผู้ไม่ประมาทจริงๆ เพราะว่าเรื่องของจิตใจเป็นเรื่องที่เกิดมาชั่วขณะที่มีสังขารขันธ์ปรุงแต่งที่จะเป็นกุศล อกุศลเพียงเล็กน้อยแล้วก็ดับ เพราะฉะนั้น ความมั่นคงจริงๆ ในการที่จะเข้าใจในเหตุผลของสภาพธรรม จนไม่หวั่นไหว ก็เป็นสิ่งที่ลองพิสูจน์ว่า ในวันหนึ่งๆ จะไขว้เขวไปบ้างหรือเปล่า เหตุกับผลจะตรงกันไหม
ขณะใดที่ไขว้เขว ขณะนั้นก็ไม่ใช่ศรัทธา ศรัทธานั้นไม่มั่นคง อกุศลจิตจึงทำให้ไขว้เขว เพราะฉะนั้น ศรัทธาที่จะมั่นคงจริงๆ จะต้องเป็นศรัทธาของผู้ที่เป็นพระอริยบุคคล ได้ประจักษ์ลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริง และก็เป็นผู้ที่รู้จักสภาพธรรมที่เกิดขึ้นกับตน แม้แต่ศรัทธาก็สามารถที่จะรู้ได้ว่า เจริญขึ้นหรือว่าเสื่อมลงในประการใด เพราะว่าเรื่องของกุศลก็มีมากมายหลายประการ ทั้งในเรื่องของทาน ในเรื่องของศีล ในเรื่องของภาวนา
ก็เป็นเรื่องของเหตุการณ์และกาลเวลา แต่ถ้าเป็นผู้ที่มั่นคงในการเจริญสติปัฏฐานจะช่วยได้มากทีเดียว เพราะเหตุว่าเมื่อไม่หวั่นไหว ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์อย่างใด จิตใจอาจจะขุ่นเคือง เศร้าหมอง หมกมุ่น หรือว่าเต็มไปด้วยโลภะในรูปบ้าง ในเสียงบ้าง แต่ว่าการระลึกได้ที่จะศึกษาลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏในขณะนั้น ก็ยังเกิดได้ เมื่อมีเหตุปัจจัย ซึ่งผู้ที่จะเป็นพระอริยบุคคล จะเลือกเวลาหรือเลือกอารมณ์ของการที่จะระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมไม่ได้เลย เพราะฉะนั้น ทุกขณะที่เป็นวิถีจิต สติปัฏฐานควรที่จะเกิดระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ
เชิญฟัง ...
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง
ยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ