คนรวย ... .กับคนจน
เหตุที่คนมีน้ำใจที่แตกต่างกัน เพราะการสะสมมาของแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน ถ้าคนที่สะสมมา เป็นคนดีมีน้ำใจ แม้จะเกิดเป็นคนยากจน ก็เป็นคนมีน้ำใจดีงาม ถ้าคนที่สะสมมา เป็นคนตระหนี่แล้งน้ำใจ แม้จะเป็นคนรวย ก็แล้งน้ำใจ แต่ทั้งหมดอยู่ที่การสะสมทั้งสิ้น
คนที่ไม่ได้ศึกษาธรรมะ บางคนเป็นคนดีกว่าคนที่ศึกษาธรรมะอีก แต่ความดีของคนที่ไม่ศึกษาธรรมะ ไม่แน่นอน วันหนึ่ง เขาอาจจะกลาย เป็นคนไม่ดีก็ได้ ส่วนคนที่ศึกษาธรรมะ ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนไม่ดี แต่เมื่อเขาเข้าใจธรรมะมากขึ้น เขาก็สามารถเปลี่ยนเป็นคนดีได้ค่ะ คนที่เขาเกิดมารวย เป็นผลของทาน ศีล ที่เขาเกิดทำไว้ในอดีต แต่กิเลสที่สะสมมาในสังสารวัฏฏ์ ไม่ได้หายไปไหน มีเหตุมีปัจจัยก็เกิด ทำให้เป็นคนไม่มีน้ำใจได้ ทุกคนมีอุปนิสัย อัธยาศัย ที่สะสมมาต่างกันค่ะ เช่น บางคนมีเมตตา บางคนชอบให้ทาน บางคนชอบช่วยเหลือคนอื่น ด้วยกำลังแรงกาย ฯลฯ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
น้ำใจเป็นนามธรรม เป็นธรรมฝ่ายดี ที่เป็นกุศล คนมีเงินด้วยกันก็สะสมต่างกัน มีน้ำใจต่างกันได้ หรืออาจจะมีน้ำใจทั้งคู่ก็ได้ แล้วแต่ว่า ใครจะมีมากกว่ากัน ขึ้นอยู่กับการสะสมมา ที่จะเป็นคนไม่ตระหนี่ ช่วยเหลือ เป็นต้น แม้คนจน ก็ทำนองนี้ เช่นกันสะสมมาไม่เท่ากัน ทุกคนลองเห็นสิ่งใดสิ่งหนึ่ง คิดเหมือนกันไหม ไม่เหมือนเลย ดังนั้น การคิด ก็สะสมทำให้คิดต่างกัน ความมีน้ำใจก็ต่างกัน ตามการสะสม เห็นขอทาน รู้สึกอย่างไร เป็นผู้ตรง เห็นคนถือของบนรถเมล์ รู้สึกอย่างไร เห็นคนอื่นกำลังทำงานคนเดียว คิดอย่างไร ก็แล้วแต่การสะสม แต่ทุกอย่างสามารถอบรมได้ แม้ความมีน้ำใจด้วยการฟังพระธรรม ในการอบรมเจริญกุศลทุกประการ บารมี ๑๐ และพร้อมๆ กับการเจริญอบรมสติปัฏฐาน เพื่อเข้าใจความจริงว่า ความมีน้ำใจและไม่มีน้ำใจ ก็เป็นธรรมอย่างหนึ่ง เพื่อละความยึดถือว่าเป็นเราหรือคนอื่นที่มีหรือไม่มีน้ำใจครับ หนทางดียวที่จะดับกิเลสครับ
ขออนุโมทนา ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
สภาพธรรมเท่านั้นที่ต่างกันครับ สภาพของอกุศลต่างจากสภาพของกุศลโดยสิ้นเชิง
"อกุศล" เกิดกับจิตของใคร จะรวยจะจน จิตก็ต้องเป็นชาติ "อกุศล"
"กุศล" เกิดกับจิตของใคร จะจนจะรวย จิตก็ต้องเป็นชาติ "กุศล"จะรวยหรือจน เราเปลี่ยนชาติของจิตไม่ได้ แต่เปลี่ยนที่จะให้กุศลเกิดกับจิต เพิ่มขึ้นได้ด้วยการฟังพระธรรม เพื่อที่ปัญญาจะทำหน้าที่ขัดเกลาอกุศล ให้ค่อยๆ เบาบางลงไปครับ
ท่านเป็นผู้หนึ่ง ที่มีน้ำใจและแล้งน้ำใจได้เสมอ ขึ้นอยู่ที่ สังขารขันธ์ปรุงแต่ง
ท่านเป็นผู้หนึ่ง ที่จะได้รับน้ำใจและแล้งน้ำใจได้เสมอ ขึ้นอยู่แต่กรรมที่ได้กระทำแล้ว
ความมีน้ำใจ ไม่ได้อยู่ที่ว่า คนนั้นรวย หรือจน แต่อยู่ที่อุปนิสัย ที่สั่งสมมาของผู้นั้นเอง ซึ่งเป็นสภาพธรรม
ได้ใกล้ชิดกับคนมีเงินมามาก แต่ส่วนใหญ่ที่พบ เป็นคนที่เห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตน ตระหนี่ ความมีน้ำใจมีน้อย ถ้าจะมีน้ำใจ เขาจะคำนึงถึงผลประโยชน์ที่ตามมามากกว่า ไม่ได้อคติ คนมีเงินที่มีน้ำใจก็มีมาก พอพบคนมีเงินที่แล้งน้ำใจ ได้แต่สงสารว่ามีเงินมากมาย น่าจะได้สะสมบุญต่อ แต่เขากลับไม่สนใจในการทำบุญ หรือให้ความช่วยเหลือคนที่จนกว่าเลย ส่วนคนจนที่ไม่มีเงิน มีน้ำใจมากกว่า พยายามที่จะช่วยตัวเอง และช่วยเหลือคนอื่นๆ ทั้งแรงกายแรงใจ เช่น คนจนเวลาเจ็บป่วย ไม่มีเงินมารักษา พยายามดิ้นรนหาเงินมารักษา แต่คนรวยที่มีเงิน มีความรู้ บางครั้งไม่อยากเสียเงิน ไปขอสงเคราะห์ เพราะรู้ว่ารัฐมีงบช่วย หรือกรณีผู้ที่เบิกค่ายาได้ ตามสิทธิปีละ ๓๐๐๐ บาท แต่ไม่ได้เจ็บป่วยเลย กลัวเสียสิทธิ ก็มาขอเบิกยาไปเก็บไว้ ดูแล้วน่าสงสารจัง ทั้งๆ ที่ไม่ได้เจ็บป่วยอะไร ก็ไม่ยอมเสียสิทธิ มีแต่ความโลภ กรณีแบบนี้ ถือว่าผิดศีลข้อ ๒ หรือไม่ เจตนาทุจริต
เรื่องเบิกยา ถ้าเขาแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ แล้วเจ้าหน้าที่ทำหลักฐานอนุญาตให้เบิกได้ ก็ไม่ผิดศีลข้อ ๒ ครับ เพราะไม่ได้มีเจตนาที่จะลักทรัพย์ของผู้อื่น แต่ถ้าความจริงตัวเองไม่ได้เป็นอะไร แล้วเจตนาโกหกว่า ตนป่วย ก็ผิดศีลข้อ ๔ ครับเขาจะเป็นอย่างไร? เขาเกิดมาตามกรรมที่เคยก่อ เขาก็ไปตามกรรมที่เคยก่อนั้น เราจะเป็นอย่างไร? เราเกิดมาตามกรรมที่เคยก่อ เราก็กำลังไปตามกรรมที่เคยก่อนั้น
ก็เมตตากันไว้เถอะครับ ตามรักษาจิตของเรา ไม่ให้อกุศลกำเริบในขณะนี้ ดีที่สุด