ความจริงปรากฏกับปัญญา

 
nattawan
วันที่  8 มี.ค. 2567
หมายเลข  47589
อ่าน  172

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เป็นโอกาสในสังสารวัฏฏ์ที่จะได้ฟังในสิ่งที่ไม่เคยฟัง เพราะเป็นโอกาสที่จะไตร่ตรองด้วยตัวเอง เป็นประโยชน์ไหม? เพราะต้องเกิดอีกไม่มีวันจบตราบใดที่มีเหตุให้เกิดต้องเกิด แล้วจะเกิดเป็นอะไร หนอน จิ้งจก ตุ๊กแก ไส้เดือน ลิง ปลาได้หมดทุกอย่าง ไม่มีโอกาสจะได้ฟังอีก ถึงเป็นคนถ้าไม่มีความสนใจตั้งแต่ในชาตินี้เป็นพืชเชื้อ ไม่เข้าใจ ไม่สนใจ เยอะแยะไป เพราะฉะนั้นเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดในสังสารวัฏฏ์ จากความมืดสนิทไม่รู้อะไรเลย แล้วก็มีแสงพอที่จะส่องให้เห็นว่า เดี๋ยวนี้มันมืดด้วยความไม่รู้ แล้วความไม่รู้มากมายระดับไหน ขณะกำลังเห็นไม่ได้ปรากฏตามความเป็นจริง

เห็นกับคิดอะไรมากกว่ากัน? คิดมากกว่า เวลาคิดมีเห็นไหม? ไม่มี คิดมืดหรือสว่าง? มืด ... แล้วเดี๋ยวนี้ปรากฏอย่างนั้นไหมว่าคิดมากกว่าเห็นที่มันจะต้องอยู่ในโลกของความมืดทุกทาง เว้นขณะที่ปรากฏแสงสว่างนิดเดียวทางตา กว่าจะรู้ว่าผิดตรงไหน ... อะไรผิด ... ความรวดเร็วของสภาพธรรมะที่เกิดดับ ปกปิดความจริงไม่ให้รู้ แม้แต่ปรากฏก็ไม่ได้ปรากฏอย่างที่เป็นจริง

ถ้าอย่างที่เป็นจริงที่ผู้ที่ตรัสรู้รู้แล้วจะต่างกับเดี๋ยวนี้แค่ไหน? ความเป็นเรายังมีอยู่ได้ไหมในเมื่อมันไม่มีอะไรนอกจากสิ่งเดียวที่ปรากฏที่สว่างก็คือแค่นี้เหมือนอยู่ในความมืดแต่มีปัญญา ... ต่างกันตรงไหน??

ความจริงอยู่ในโลกของความมืดสนิทแต่ปรากฏเป็นสว่างทั้งวัน ... นั่นรู้ความจริงหรือเปล่า?? ไม่ปรากฏตามความเป็นจริงเพราะไม่รู้ความจริง

ต้องรู้ว่าความจริงต้องจริง เปลี่ยนไม่ได้ เห็นน้อยกว่าคิด แล้วเวลาคิดมันมืด แล้วเห็นมันจะสว่างแค่นี้ไหมเพราะฉะนั้นโลกปรากฏตามความเป็นจริงหรือเปล่า? มีปัญญาที่จะไปรู้ความจริงได้ไหม? ต้องมั่นคงในความจริง

พระพุทธเจ้าตรัสรู้สิ่งที่ปรากฏตามความเป็นจริงเพราะฉะนั้นเรายังไม่รู้อย่างพระองค์จึงฟังเพื่อให้รู้ความจริงเพราะปัญญาเรายังไม่พอที่จะรู้ ... ความจริงปรากฏกับปัญญา

ความเข้าใจผิดทำให้ปัญญาไม่ปรากฏ ความเข้าใจผิดมาจากความไม่รู้ความจริง นี่คือความตรง สัจจะต่อความจริง ไม่อย่างนั้นไม่ตรง!! ใครจะไปรู้โดยไม่ปรากฏ!!! ฟังเพื่อเข้าใจ ความเข้าใจเป็นปัญญา เพราะเข้าใจถูกในสิ่งที่ได้ฟัง

ไม่มีวันรู้จักพระพุทธเจ้าเลยตราบใดที่เป็นเรา ไม่ฟังด้วยความละเอียด รอบคอบ ลึกซึ้ง เริ่มฟัง เข้าใจความจริง ค่อยๆ มั่นคง มั่นคงแล้วเปลี่ยนได้ไหม?? ... ไม่ได้ ... นี่คือเริ่มตรง รู้จักว่าสัจจะคือความจริง ถ้าไม่ตรงต่อความจริงจะไม่พบความจริงเลย

เริ่มรู้ว่าโง่แค่ไหน ... บรมโง่นี่เป็นประโยชน์ที่สุด ไม่ประมาทเลยว่าโง่ไปอีก โง่ไปเท่าไหร่แล้วยังโง่ไปอีกทุกขณะ ถ้าไม่มีพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง คือฟังจนกระทั่งมีความเข้าใจถูก ธรรมะลึกซึ้ง ขณะค่อยๆ เข้าใจความลึกซึ้งค่อยๆ ละความไม่ตรง และค่อยๆ หยั่งถึงความลึกซึ้งที่ลึกซึ้งกว่านี้เท่าไหร่เมื่อปรากฏตามความเป็นจริง

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 1 เม.ย. 2567

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ