การเกิดของสัตว์โลก

กำเนิด หรือโยนิ มี ๔ ดังข้อความในพระไตรปิฎกและอรรถกถาดังนี้
ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่ ... กำเนิด [โยนิ ๔]

สัตว์โลกเป็นที่ดูผลของบุญและบาป

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย เรื่อง การเกิดที่ประเสริฐที่สุด คือ เกิดด้วยปัญญาที่ดับกิเลสได้หมด

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต เล่ม ๔ - หน้าที่ 357

ข้อความบางตอนจาก เวรัญชสูตร

ทรงแสดงความนี้ว่า ดูก่อนพราหมณ์ ก็ลูกไก่นั้นทำลายกะเปาะฟองไข่แล้วออกจากกะเปาะฟองไข่นั้น เกิดครั้งเดียวเท่านั้น แต่เราทำลายกะเปาะฟองไข่ คือ

อวิชชาอันปิดขันธ์ที่อาศัยอยู่ในก่อน เกิดครั้งแรกด้วยวิชชา คือบุพเพนิวาสานุสสติญาณก่อน จากนั้นก็ทำลายกะเปาะฟองไข่คือ อวิชชาอันปิดจุติและปฏิสนธิของสัตว์ทั้งหลาย เกิดครั้งที่ ๒ ด้วยวิชชา คือทิพยจักษุญาณ ต่อไปทำลายกะเปาะฟองไข่ คืออวิชชาอันปิดสัจจะทั้ง ๔ เกิดครั้งที่ ๓ ด้วยวิชชาคืออาสวักขยญาณ เราเกิด ๓ ครั้ง ด้วยวิชชา ๓ อย่างนี้ และการเกิดของเรานั้น เป็นของประเสริฐงาม บริสุทธิ์. ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

โอปปาติกะนั้น เกิดเฉพาะเทวดาเท่านั้นหรือไม่

โอปปาติกกำเนิดได้ทั้งในนรก เปรต อสุรกาย เดรัจฉาน มนุษย์บางกาล เทวดาและ

พรหม

โอปปาติกะที่ว่าเกิดในเดรัจฉาน และมนุษย์บางกาล เกิดอย่างไรค่ะ ช่วยอธิบายด้วยยังไม่เข้าใจค่ะ ในเมื่อมนุษย์ก็เกิดจากครรภ์มารดา เดรัจฉานในที่นี้หมายถึงสัตว์ทั่วๆ ไปหรือไม่ ถ้าใช่ก็ไม่น่าจะเกิดแบบโอปปาติกะ

มนุษย์สมัยต้นกัป เกิดขึ้นด้วยโอปปาติกำเนิด พวกครุฑและนาคเป็นต้น ซึ่งเป็น

สัตว์ดิรัจฉานเกิดขึ้น ด้วยโอปปาติกำเนิด

ขอบพระคุณค่ะ ที่ช่วยตอบให้หายข้องใจ

ยินดีในกุศลจิตค่ะ