ขอคำแนะนำครับ ไม่สบายใจมาก
ผมมีปัญหารุมเร้ามากมาย ทั้งเรื่องการเรียน เรื่องครอบครัว ยายไม่สบายมากเป็นมะเร็งผมไม่มีจิตใจที่จะทำอะไร แม่โทรมาหา ก็ร้องไห้ตลอด บางครั้ง ผมกำลังทำอะไรอยู่ผมจะทำต่อไม่ได้เลยครับ จิตใจมันว้าวุ่น คิดถึงเรื่องข้างหน้า กลัวไปหมดทั้งๆ ที่เวลานั้นยังมาไม่ถึง รู้สึกเหมือนโดดเดี่ยว ไม่รู้จะไปหาที่พึ่งทางใจที่ไหน เมื่อจิตใจไม่สบาย ร่างกายก็อ่อนแอตามไปด้วย นอนไม่หลับ คิดถึงแต่เรื่องเดิมๆ ผมไปทำบุญ ตักบาตร ก็ไม่ทำให้ผมจิตใจสงบได้ พอเริ่มมีสติ คิดถึงแม่ คิดถึงน้ำเสียงแม่ ผมก็ร้องไห้ จิตใจย่ำแย่มากครับ ผมขอคำแนะนำจากท่านผู้เจริญธรรม ผมจะแก้ปัญหาอย่างไร การสวดมนต์ ช่วยได้เพียงตอนสวดเท่านั้น พออยู่เฉยๆ ก็กลับคิดขึ้นมาอีก ช่วยด้วยครับ
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
เป็นธรรมดากับสิ่งที่เกิดขึ้น ทุกคนก็ต้องประสบปัญหากันทั้งนั้น ตราบใดที่ยังเป็นปุถุชน ก็ยังต้องหวั่นไหวเป็นธรรมดา ธรรมเป็นไปตามเหตุปัจจัย ตามระดับปัญญา ไม่ให้ทุกข์ก็ไม่ได้ครับ ตรงนี้เข้าใจ หนทางของสังสารวัฎยาวไกลมากกว่านั้น เราควรเข้าใจความจริงว่า ที่เราเป็นทุกข์เพราะยังมีกิเลส และเกิดขึ้นมาและที่สำคัญ ที่ต้องมีกิเลสและเกิดนั้น ก็เพราะความไม่รู้ อวิชชานั่นเอง ไม่รู้ในความเป็นจริงของโลกว่าคืออะไร เป็นธรรมหรือเป็นเรา เป็นสัตว์ บุคคล ดังนั้นอยากจะเป็นกำลัใจงให้ด้วย ขอให้อดทนที่จะฟังพระธรรม โดยเฉพาะในหนทางนี้ ซึ่งอยู่ในเว็บนี้ กุศลมีหลายประการแต่กุศลที่ดับกิเลสได้นั้นคือ สติปัฏฐาน ขอให้คุณ lokmom ฟังพระธรรมในหนทางนี้นะครับ ไม่ได้หมายความว่า ฟังแล้วจะหายทุกข์ เพราะเรายังเป็นปุถุชน พระโสดาบันยังทุกข์เลย นับประสาอะไรกับเรา แต่ที่ให้ฟังพระธรรม ก็เพื่อค่อยๆ เข้าใจความจริงของสภาพธัมมะที่เกิดขึ้น แม้ความทุกข์ว่า คืออะไรกันแน่ครับ อดทนต่อไปนะ ด้วยการฟังพระธรรม ชีวิตเหลือไม่มากแล้วครับ ขออนุโมทนา เป็นกำลังใจให้ครับ เชิญคลิกอ่านที่นี่เพิ่มเติมครับ ... บัณฑิตแม้ประสบทุกข์ก็ไม่ทิ้งธรรม อีกอย่างหนึ่งครับ ขอแนะนำให้ลองฟังเรื่อง บารมีในชีวิตประจำวันในเว็บนี้นะครับ ดีมากครับ
เรื่อง เพราะไม่รู้ความจริงของสภาพธัมมะที่มีในขณะนี้ จึงเป็นทุกข์และเวียนว่ายตายเกิด
ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่ ... ปฐมวัชชีสูตร ว่าด้วยการตรัสรู้และไม่ตรัสรู้อริยสัจ ๔
ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
คุณต้องเข้มแข็งอดทน ปัญหามีไว้ให้แก้ ไม่มีใครที่เกิดมาแล้วไม่เจอปัญหา เพียงแต่เราจะเผชิญปัญหานั้นอย่างไร ต้องมองตามความเป็นจริง ชีวิตของคนเราก็มีแต่ทุกข์ เพียงแต่ทุกข์มากหรือทุกข์น้อย คำสอนพระพุทธเจ้าที่ว่า ความเกิดเป็นทุกข์ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ขอให้คุณตั้งใจเรียน ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด คุณมานั่งคิดถึงแต่เรื่องอดีต มันไม่ได้ช่วยอะไรเลย และคิดถึงอนาคตที่ยังมาไม่ถึง ซึ่งไม่มีใครรู้ได้ว่าจะเป็นอย่างไร เพียงแต่ทำวันนี้ให้ดีที่สุด ผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร ต้องยอมรับความจริง ทำดีย่อมได้ดี ขอเอาใจช่วย ถ้าคุณพ้นภาวะวิกฤตตรงนี้ไปได้ ต่อไปคุณเจอปัญหาต่างๆ คุณจะทุกข์น้อยลง และสามารถอยู่กับปัญหาต่างๆ นั้น ได้อย่างไม่ทุกข์ใจ
ทุกเหตุการณ์ เกิดจากวิบากกรรมทั้งในอดีตและปัจจุบัน สิ่งทำได้คือ ปัจจุบันศึกษาพระธรรม แล้วจะเข้าใจทุกๆ เรื่อง น้อมรับในสิ่งที่เผชิญ ดูแลแก้ไขตามเหตุและปัจจัยมีใจเป็นกุศล ข้อสงสัยต้องสอบถามผู้รู้เฉพาะด้าน ทุกข์ใจ ไม่ช่วยให้ทุกอย่างนั้นดีขึ้น โรคร้ายบางครั้งรักษาหายได้ และไม่ได้ ต้องพร้อมรับ ขอเป็นกำลังใจให้ ผ่านเหตุการณ์นี้ด้วยดีค่ะ
ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ ขอให้คุณตั้งใจเรียน ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด อดทนต่อไป ด้วย
การฟังพระธรรม ให้เข้าใจยิ่งๆ ขึ้น
ทางรับผลของกรรมมี 5 ทาง คือทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ยกเว้นทางใจ เช่น กลุ้มใจ ไม่สบายใจ ไม่ใช่วิบาก ไม่ใช่ผลของกรรม แต่เป็นกิเลสที่เราสะสมความคิดมากอย่างนั้นมา ถ้าเราศึกษาธรรมเข้าใจ มีปํญญา ความทุกข์ใจก็จะบรรเทาลงค่ะ
บุคคลช่วยเหลือกันให้พ้นทุกข์ไม่ได้ เราจึงควรศึกษาพระธรรม มีพระรัตนตรัย เป็นที่พึ่ง ทางเดียวเท่านั้นจริงๆ เพราะบุคคลอื่นหาทางแก้อกุศลด้วยอกุศล แต่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์เดียวเท่านั้น ที่ทรงตรัสรู้ทางดับอกุศล โดยสิ้นเชิงครับ
ขณะคิดไม่มีเรื่อง ไม่มีใครทั้งสิ้น มีเพียงสภาพธรรม แต่เพราะไม่รู้จึงเป็นผม เป็นเรา เป็นยายเรา ครอบครัวเรา แต่ความจริงขณะนั้นมีเพียงนามธรรมที่คิด แล้วหมด แล้วมีสภาพธรรมใหม่เกิดขึ้น แล้วหมด หมด หมด แต่ก็ต้องเป็นปัญญาที่รู้ เพราะเราไม่มี...
คิดว่าเข้าใจในสถานะภาพของคุณในตอนนี้ค่ะ ขออนุญาตแนะนำนะคะว่าลองไปฟัง ธรรมของอ.สุจินต์ ชุด สนทนาธรรมที่รัฐสภา 1 ดูนะคะ น่าจะช่วยได้บ้าง อาจจะเยอะเลยค่ะ ขอให้ตั้งใจฟังนะคะ
ผมขอบคุณทุกท่านเลยนะครับ ที่ให้กำลังใจ แต่นี้ผมก็ฟังธรรมมากขึ้น ก็รู้สึกดีบ้างครับ
แต่ยังมีบางเวลาที่จะกลับไปคิดเรื่องเดิมตลอด ขอบคุณครับ
แม้ที่ฟังก็ไม่ควรหวังว่าจะดี (ขึ้น) แต่ที่ฟังก็เพื่อความรู้ความเข้าใจในธรรมมากขึ้น ทุกสิ่งเกิดขึ้นและดับไปตามเหตุตามปัจจัย ไม่มีใครบังคับไม่ให้เกิดหรือไม่ให้ดับได้แม้พระพุทธองค์ พึงทำเหตุที่ดี ที่ควรในทุกเมื่อที่มีโอกาส จักได้ไม่เสียใจในภายหลัง ซึ่งก็ควรรู้ว่าแม้ที่เสียใจก็ไม่ใช่เรา แต่เป็นธรรม