ปัญญาเกิดได้ท่ามกลางอกุศล
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ผู้อาศัย "มิจฉัตต ๑๐ " จึงพลาดจากสวรรค์และมรรคผล
มิจฉัตต ๑๐ คือ เห็นผิด ดำริผิด เจรจาผิด การงานผิด เลี้ยงชีพผิด เพียรผิด ระลึกผิด ตั้งมั่นผิด รู้ผิด หลุดพ้นผิด
ความเห็นผิดเป็นหัวหน้าของอกุศลทั้งหมด นำไปสู่การประพฤติปฏิบัติผิดทั้งมวล
ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรม เหมือนอยู่ในความมืด เพราะไม่ได้เข้าใจความจริงและมีความเห็นผิด
ศึกษาพระธรรมเพื่อเข้าใจความจริงที่มี ทีละเล็กทีละน้อยและละเอียดในแต่ละคำ
อกุศลแม้เกิดขึ้น ปัญญาสามารถรู้ตามความเป็นจริง ว่าเป็นธรรมะไม่ใช่เรา
ปัญญาเกิดได้ท่ามกลางอกุศล
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง
ประโยชน์ของการฟังธรรมะ คือ รู้ว่าอะไรเป็นกุศล อะไรเป็นอกุศล
อกุศล ควรละ กุศล ควรเจริญ
แทนที่จะติ แนะให้ทำสิ่งที่ถูกแทนก่อน ดีไหม?
ปัจจัยที่ทำให้เกิดกุศลหรืออกุศล ขึ้นกับการสะสมมาในอดีต
วิบากไม่สำคัญ สำคัญที่เหตุ
สนทนาพระสูตร ๒๗ มิ.ย. ๕๘
www.dhammahome.com
พระสูตรวันเสาร์ที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๕๘ อุปกสูตร (พระพุทธองค์ทรงโต้วาทะกับอุปกมัณฑิกาบุตร) จากพระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต
ข้อความโดยสรุป พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงธรรม ปราบวาทะความคิดความเห็นของอุปกมัณฑิกาบุตรผู้เป็นอุปัฏฐากของพระเทวทัต ด้วยบัญญัติ ๔ ประการว่า บท พยัญชนะ และ พระธรรมเทศนา มีมากมาย ประมาณไม่ได้ ที่แสดงว่า ๑. นี้เป็นอกุศล ๒. อกุศล ควรละ๓. นี้เป็นกุศล ๔. กุศล ควรเจริญ
ธรรมใดเกิดแต่เหตุ ตถาคตแสดงเหตุ
และความดับแห่งธรรมนั้น
เวลาที่สติเกิด ระลึกลักษณะของสิ่งที่กำลังปรากฏ จะเป็นทางตา หรือทางหู หรือทางจมูก หรือทางลิ้น หรือทางกาย หรือทางใจก็ได้ เพื่อที่จะศึกษา คือ น้อมพิจารณาจนกว่าจะรู้ชัดในลักษณะที่ไม่ใช่ตัวตน เพราะว่าเป็น นามธรรม หรือรูปธรรม แล้วก็ลองคิดดูว่า จะรู้เร็วนี่ ย่อมรู้ไม่ได้ เพราะเหตุว่าหลงลืมสติมากกว่ามีสติ และในช่วงที่หลงลืมสติทั้งหมดยังยึดถือว่าเป็นตัวตนทั้งนั้น เพราะฉะนั้น
การพิจารณาจึงต้องละเอียด
ลองคิดถึงฝั่งมหาสมุทรที่สุดสายตา ทุกท่านกำลังอยู่ในฝั่งซึ่งเต็มไป
ด้วยกิเลสและการยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นตัวตน เพราะฉะนั้นกว่าจะถึงอีกฝั่งหนึ่งซึ่งละคลายดับการเห็นผิดที่ยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นตัวตน จะต้องเจริญสติปัฏฐานและปัญญามากเพียงไร