อภิเษกตนเองด้วยใจ

 
nattawan
วันที่  30 มิ.ย. 2567
หมายเลข  48017
อ่าน  145

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ใครที่คิดว่าตนเองสามารถทำธรรมะให้ง่ายๆ หรือสร้างรูปแบบการปฏิบัติที่ตนคิดไปเองเชื่อไปเอง โดยไม่ตรงกับพระพุทธพจน์ ผู้นั้นเป็นผู้ที่อภิเษกตนเองด้วยใจ

ธรรมะเตือนใจ

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
nattawan
วันที่ 30 มิ.ย. 2567

ถ้าไม่มีพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ไม่มีพระธรรมคำสอน และก็ไม่มีผู้ที่จะรู้ตามความจริงได้เลย ดังนั้นพระพุทธรัตนะ จึงเลิศที่สุด

ธรรมะเตือนใจ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
nattawan
วันที่ 30 มิ.ย. 2567

การที่จะประจักษ์แจ้งธรรมะนั้น ต้องเป็นในขณะที่ธรรมะนั้นกำลังปรากฏ ให้รู้ตามความจริงด้วยปัญญาของผู้นั้นเอง ดังนั้นธรรมะจึงเป็นสิ่งที่ผู้บรรลุจะพึงเห็นเอง

ธรรมะเตือนใจ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
nattawan
วันที่ 30 มิ.ย. 2567

ถ้าจะศึกษาพระไตรปิฎก และอรรถกถา จะไม่พ้นจากเรื่องของตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ซึ่งพระผู้มีพระภาคทรงแสดงความจริง ลักษณะที่แท้จริงของธรรมต่างๆ เหล่านี้ไว้โดยละเอียดที่จะให้พิสูจน์ ให้รู้ความจริงจนกระทั่งสามารถที่จะประจักษ์แจ้งลักษณะของสภาพธรรม และดับกิเลสได้เป็นลำดับขั้น

แนวทางเจริญวิปัสสนา

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
nattawan
วันที่ 30 มิ.ย. 2567

ทางเดียวที่จะรู้ คือ ศึกษา ในขณะที่กำลังพิจารณานั้น คือ ขณะที่สติ
เกิดระลึก ถ้าสติไม่เกิด ไม่ระลึกที่ลักษณะของนามธรรมและรูปธรรม ปัญญาก็จะศึกษาไม่ได้เลย ด้วยเหตุนี้จึงเป็นสติปัฏฐาน เพื่อสติจะต้องระลึกได้ แล้วปัญญาก็จะค่อยๆ พิจารณาสังเกตจนกว่าจะรู้ลักษณะที่ต่างกันของนามธรรมและรูปธรรม ไม่ใช่ทำอย่างอื่น แต่เวลานี้ไม่รู้อะไร ไม่รู้ว่านามธรรมมีลักษณะอย่างไร รูปธรรมมีลักษณะอย่างไร เพราะเหตุว่าได้ยินได้ฟังแต่ว่าไม่มีตัวตนมีแต่นาม มีแต่รูป แต่ถึงจะได้ยินอย่างนี้ ก็ไม่ใช่ว่าจะรู้ว่า นามธรรมคือลักษณะอย่างนี้ แม้จะได้ทราบว่า เป็นธาตุรู้ เป็นลักษณะรู้ ก็จะรู้ขึ้นได้จริงๆ

แนวทางเจริญวิปัสสนา

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ