นิมิตของธรรมะ

 
nattawan
วันที่  1 ก.ค. 2567
หมายเลข  48027
อ่าน  203

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ที่มีการคิดถึง รูปร่าง สัณฐาน และ ส่วนละเอียดของสิ่งต่างๆ นั้น ก็เพราะ มีสภาพธรรมะเกิดดับสืบต่ออย่างรวดเร็ว คือ สิ่งที่ปรากฏทางตา และ จิตเห็น หรือที่มีคำพูดก็เพราะมีเสียง ที่ปรากฏสืบต่อ แต่เนื่องจากไม่ได้ อบรมปัญญา ที่ประจักษ์สภาพธรรมะ แต่ละอย่างตามความเป็นจริง จึงติด ในนิมิต หรือสาวนหยาบ และอนุ พยัญชนะ หรือส่วนละเอียด โดยข้ามการรู้ตรงลักษณะสภาพธรรมะแต่ละอย่าง

จากการสนทนาพระธรรมวินัย วันอาสาฬหบูชา ที่ มศพ. 2 ส.ค. 55

คำว่านิมิตอนุพยัญชนะหมายความว่า อะไรคะคุณคำปั่น "คำว่านิมิตะก็หมายถึงรูปร่าง สัณฐานต่างๆ ส่วนคำว่าอนุพยัญชนะโดยศัพท์ก็หมายถึง สิ่งที่เป็นเครื่องยังกิเลสให้เกิดขึ้น หรือปรากฏเวลาที่ติดข้อง ก็สติดข้องทั้งนิมิตและในอนุพยัญชนะ ซึ่งก็เป็นส่วนละเอียด"

ถ้าไม่มีสภาพธรรมะที่เกิดดับสืบต่อจะมีนิมิตไหม? อยู่ดีๆ ก็มีนิมิตโดยที่ไม่มีสภาพธรรมะได้อย่างไร? นี่คือความเป็นเหตุเป็นผลอย่างยิ่งของธรรมะ เป็นความจริงที่ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงได้ ไม่ว่าอะไรก็ตามที่ปรากฎว่าเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด ความจริงคืออะไร?

ความจริงต้องมีธรรมะอย่างหนึ่งซึ่งเกิดดับสืบต่อ จนกระทั่งปรากฏเป็นรูปร่างสัณฐาน หรือความจำอย่างหนึ่งอย่างใด เช่น คำว่า "เช่น" เป็นนิมิตหรือเปล่าคะ? ถ้าเป็นเสียงเล็กน้อยเพียงกระทบหูปรากฏแล้วดับ

ที่ทรงแสดงไว้นะคะว่า จิตเกิดดับอย่างรวดเร็วนับประมาณไม่ได้ ก็คือเดี๋ยวนี้ค่ะ ทันทีที่เห็นก็เป็นคนเยอะเลย ทำไมนิมิตมามากมายอย่างนี้ ทั้งสิ่งที่ปรากฏที่เกิดดับและจิตที่ไปรู้ด้วยว่าเป็นรูปร่างสัณฐานต่างๆ นี่ก็แสดงให้เห็นว่าการเกิดดับเร็วมาก แล้วก็เพราะการเกิดดับอย่างเร็ว จึงไม่สามารถที่จะรู้เพียงหนึ่งที่เกิดแล้วดับ แต่เมื่อหลายๆ ขณะเกิดสืบต่อทั้งสิ่งที่ปรากฏก็ปรากฏเป็นนิมิต และจิตก็เป็นนิมิตด้วย เช่น เห็นขณะนี้ค่ะ เห็นหนึ่งขณะหรือเปล่าคะ? ที่กำลังเห็นอยู่เดี๋ยวนี้ ... หลายขณะจนรู้ว่าเห็น นี่คือนิมิตของจิตเห็น

เพราะฉะนั้น นิมิตทุกอย่างนะคะ ... รูป รูปนิมิตไม่ว่าจะเป็นสีที่ปรากฏทางตา รูปร่างสัณฐานต่างๆ หรือเสียง หรือกลิ่น หรือรส ทั้งหมดเป็นนิมิตแล้วค่ะ เพราะว่าไม่ได้เพียงเกิดแล้วดับๆ จึงสามารถที่จะรู้ว่านั่นไม่ใช่นิมิตแต่เป็นธรรมะ แต่เพราะเหตุว่าเกิดดับอย่างเร็ว เพราะฉะนั้นตลอดเวลารู้นิมิตหมด ยังไม่ได้รู้การเกิดดับเพียงหนึ่ง เพราะว่าเกิดดับเร็วสุดที่จะประมาณได้

ด้วยเหตุนี้ก็จะเข้าใจความหมายของนิมิต ไม่ใช่ว่าเพียงแต่ฟังแล้วก็ลืมไปแล้วว่ายังไง แต่นิมิตของสิ่งที่มีจริง ... เพราะสิ่งที่มีจริงเกิดดับเร็ว จึงปรากฏเป็นรูปร่างหรือนิมิตแต่ละทาง เช่น นิมิตของสิ่งที่ปรากฏให้เห็นได้เป็นอย่างนี้นะคะ เป็นคิ้ว เป็นตา เป็นจมูก เป็นโต๊ะ เป็นเก้าอี้ นั่นคือรูปร่างสัณฐานของสิ่งที่เกิดดับปรากฏให้เห็นได้

นิมิตของเสียงก็เป็นเรื่องเลยค่ะ ทันทีเป็นคำออกมาแต่ละคำได้ยินเสียงหรือว่าได้ยินคำคะ? ถ้าไม่มีเสียงจะมีคำได้ยังไงคะ? แต่เพราะเสียงนั้นนะคะต่างกันหลากหลายเป็นนิมิตของแต่ละเสียง ทำให้คิดถึงแต่ละคำ ด้วยเหตุนี้เวลาคิด ... คิดคำใช่ไหมคะ? ทั้งๆ ที่ถ้าไม่มีเสียงก็ไม่มีคำ แต่ไม่ได้จำเสียง แต่จำคำซึ่งเป็นนิมิตของเสียง

เพราะฉะนั้น ทุกครั้งที่คิดแต่ละคำ ก็คือกำลังคิดถึงนิมิต ไม่ใช่จำเสียงนะคะ แต่หมายความว่า รู้ว่าเสียงนั้น ... นิมิตอย่างนั้นน่ะหมายความถึงอะไร ... ก็จำและก็คิดถึงความหมายนั้นทันที

ด้วยเหตุนี้ก็จะเห็นว่า กว่าจะเข้าใจแต่ละคำจริงๆ อย่างมั่นคง ติดในนิมิตอนุพยัญชนะ ก็ต้องรู้ว่านิมิตคืออะไร? อนุพยัญชนะคืออะไร?

เชิญชม ...

นิมิตของธรรมะ

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลวิริยะของ อ. อรรณพ หอมจันทร์


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 1 ก.ค. 2567

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ