ปริยัติไม่ใช่จำเรื่อง

 
nattawan
วันที่  2 ก.ค. 2567
หมายเลข  48032
อ่าน  142

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ปริยัติคือรอบรู้ขั้นการฟัง แต่ถ้าเป็นความอยากจะรู้สภาพธรรมะที่ยังไม่ปรากฏ จะเป็นความรอบรู้หรือไม่? หรือถ้าคิดจะไปทำอะไรที่ไม่ใช่การรู้สิ่งที่กำลังมีปรากฏขณะนี้ จะเป็นความรอบรู้ได้ไหม?

จากการสนทนาเรื่องปฎิบัติธรรมที่ มศพ. 10 มิ.ย. 55

ถ้าเข้าใจจริงๆ นะคะ ละเอียดขึ้น รอบรู้ใช่ไหมคะ? ... ภาษาไทย ... ภาษาบาลีก็ปริยัติ แต่ถ้าไม่รู้ว่าคือการที่สามารถเข้าใจรอบรู้ในความเป็นจริงของสิ่งที่กำลังปรากฏในขั้นการฟังด้วยดี ไตร่ตรองจนกระทั่งเป็นการเห็นถูก จะไม่ใช่ปริยัติถ้าไม่เข้าใจ

ฟังเรื่องจิตทั้งหมดมีเท่าไหร่? 89 ... โดยพิเศษนะคะก็จิต 121 ฟังแล้วเดี๋ยวนี้ไม่รู้เลยว่าเป็นจิต ชื่อว่ารอบรู้หรือเปล่า หรือว่าจำเรื่อง เป็นวิชาที่จำ แต่ไม่ใช่เป็นการเข้าใจลักษณะของสภาพธรรมะที่มีจริงๆ เดี๋ยวนี้ที่กำลังปรากฏ

เพราะฉะนั้น ก็ต้องฟังให้เข้าใจนะคะว่า ปริยัติศึกษาอะไร สิ่งที่มีจริงในขณะนี้ ฟังเพื่อเข้าใจ ฟังแล้วรอบรู้ คือสามารถที่จะเห็นความเป็นธรรมะ ซึ่งไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคลไม่ใช่ของใครยิ่งขึ้น แม้แต่ตา ... จักขุปสาทะขณะนี้ ไม่ใช่ของเรา เกิดแล้วและก็กำลังดับด้วย ทั้งเกิดทั้งดับแล้วจะเป็นของใคร ดับแล้วก็ไม่กลับมาอีกเลยซักอย่างเดียว

ตั้งแต่เกิดมานี่ค่ะ จะหาสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่เข้าใจว่าเป็นเรากลับมาอีกไม่ได้เลย

แต่สิ่งที่เข้าใจว่าเป็นของเราอยู่ที่บ้านคงไม่ลืมเมื่อเช้านี้นะคะ เห็นของที่อยู่ที่บ้านเมื่อเช้านี้ กลับไปเห็นอีก เห็นนั้นก็ไม่ใช่เห็นเมื่อเช้านี้ เพราะฉะนั้น สิ่งที่ถูกเห็น ก็ไม่ใช่สิ่งที่ปรากฏให้เห็นเมื่อเช้านี้

นี่คือเข้าใจนะคะ ค่อยๆ เข้าใจจนรอบรู้ความจริงว่าเป็นอย่างนี้เองทั้งหมด พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงพระธรรม ไม่ให้ใครทำอะไรขึ้นมานะคะ เพราะว่าทำไม่ได้ ไม่ได้สอนไม่ได้บอกให้ทำ แต่ให้เข้าใจความจริงจากการฟัง รู้ว่าความจริงเป็นอย่างนี้คือ ขณะนี้ทุกอย่างที่ปรากฏคือเกิดแล้วทั้งนั้นตามเหตุตามปัจจัยด้วย แต่ไม่รู้สิ่งที่เกิดแล้ว แต่พยายามไปทำให้รู้อะไรที่ยังไม่เกิด ... ได้ยังไงคะ?? ในเมื่อสิ่งที่เกิดแล้วไม่รู้!!! ก็เป็นสิ่งซึ่งต้องเป็นผู้รอบรู้จากการฟัง ต้องฟังด้วยดี พิจารณาให้ถูกต้อง

เพราะฉะนั้น ไม่ใช่คำหรือภาษาที่เราจะเรียนเป็นเรื่อง แต่ต้องรู้แม้แต่คำว่ารอบรู้คืออย่างไร? ไม่เข้าใจเลยว่าเดี๋ยวนี้เป็นธรรมะ แต่จำได้ว่ามีจิต 89 ประเภท ... ชื่อว่ารอบรู้หรือเปล่า? ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ขณะนี้เป็นสิ่งที่มีจริงกี่ประเภทก็ตามแต่ แต่ไม่พ้นจาก 89

ความรอบรู้ คือ ความเข้าใจจริงๆ แม้นิดแม้หน่อยก็มากขึ้นๆ ซึ่งไม่ผิด แต่ถ้าไม่เข้าใจจริงๆ เข้าใจนิดเดียวนะคะ เข้าใจเผินๆ บางคนก็อยากจะรู้ธาตุน้ำเสียแล้วสิ ... ใช่ไหมคะ? อย่างอื่นก็ปรากฏ เสียงก็ปรากฏ กลิ่นก็ปรากฏรสก็ปรากฏ เย็นหรือร้อนอ่อนหรือแข็งก็ปรากฏ ... อยากจะรู้ธาตุน้ำ ... เป็นไปได้มั้ยคะ?

จากคำถามของผู้ที่หวังจะรู้สิ่งที่ไม่ปรากฏ วิการรูปนี่อยากรู้ไหม? รูปที่เบา ที่อ่อน ที่ควรแก่การงาน ซึ่งเป็นลักษณะวิการ ... วิการะของรูป ... อยากรู้ไหม?

แต่ถ้าไม่รู้มหาภูตรูปก่อน จะรู้ความวิการของมหาภูตรูปได้ไหม? เพราะฉะนั้น มหาภูตรูปรู้ได้ทางกาย และวิการรูปจะรู้ได้ทางไหน? เห็นมั้ยคะ ... นี่ค่ะคือรอบรู้ ไม่ไปฝืน ไม่ไปพยายามทำสิ่งซึ่งเป็นไปไม่ได้ ไม่ใช่ฐานะที่จะเป็นไปได้ เพราะเหตุว่าสิ่งที่ปรากฏยังไม่รู้ เตือนตัวเองได้เลยค่ะ แล้วจะไปรู้สิ่งที่ไม่ปรากฏได้ยังไง? หวังไปที่จะรู้ก็ไม่มีทางที่จะรู้ได้นะคะ เพราะเหตุว่ายังไม่ได้ปรากฏ

แต่เมื่อปรากฏแล้วรู้เพราะอะไรคะ? เพราะได้ฟังจนกระทั่งเป็นความรอบรู้ ไม่สงสัยในลักษณะของสภาพธรรมะเพราะฉะนั้น ขณะนี้นะคะ ฟังเหมือนว่าสภาพธรรมะกำลังปรากฏ ธรรมะปรากฏแน่นอนค่ะ แต่ปรากฏกับอะไร? ปรากฏกับความไม่รู้ ไม่เข้าใจ หรือว่าปรากฏกับความรู้ และความรอบรู้ระดับไหนด้วย

เพราะฉะนั้น ก็แสดงให้เห็นว่าทั้งหมดนี่นะคะ เข้าใจผิดว่าจะไปทำ แต่ความจริงไม่ได้เข้าใจเลยว่าทำไม่ได้!! บางทีคำพูดที่ชินปากนี่นะคะ จากการที่ไม่เข้าใจ ก็จะทำให้พูดคำที่ไม่เข้าใจ ... จนกว่าเข้าใจเมื่อไหร่นะคะ ก็จะเลิกใช้คำที่ไม่เข้าใจ เช่น คำว่า "ทำความเข้าใจ" กับ "เข้าใจ"

ฟังแล้วเข้าใจ ... ต้องไปทำหรือเปล่า? เราไม่ได้ทำอะไรเลยทั้งสิ้นเพราะไม่มีเราค่ะ แต่ธรรมะทั้งหมดเกิดขึ้นทำกิจการงานของธรรมะไม่ว่างเว้นเลย ทุกขณะที่สภาพธรรมะใดเกิดขึ้นนะคะ สภาพธรรมะนั้นทำกิจของสภาพธรรมะนั้นๆ ... ไม่ทำได้ไหม? ไม่ได้เลยค่ะ!!!

เกิดแล้วความเป็นไป ... ความเป็นธรรมะซึ่งจะเป็นอย่างอื่นไม่ได้ คือ มีกิจหน้าที่ของธรรมะนั้นๆ ที่จะทำ แต่เมื่อไม่รู้แล้วรวมกันใช่ไหมคะ ... ก็เป็นเรา

นี่คือรอบรู้ทีละเล็กทีละน้อย จนกระทั่งมั่นคงค่ะ เพื่อละความไม่รู้และเพื่อละการที่คิดว่าจะไปทำอะไร ... จะไปทำอะไรล่ะคะ ... ก็ฟังแล้วก็ค่อยๆ เข้าใจมั่นคงขึ้น

เชิญชม ...

ปริยัติไม่ใช่จำเรื่อง

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

กราบอนุโมทนาในกุศลวิริยะของ อ.อรรณพ หอมจันทร์


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 2 ก.ค. 2567

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
Dechachot
วันที่ 2 ก.ค. 2567

กราบอนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ