ปัญญาเกิดขึ้นได้อย่างไร

 
nattawan
วันที่  26 ก.ค. 2567
หมายเลข  48193
อ่าน  207

ถ. จะทราบว่าปัญญาเกิดได้อย่างไร

สุ. ต้องทราบว่าปัญญารู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฎในขณะนี้ จึงจะสามารถดับกิเลสได้ ขณะนี้ที่กำลังเห็น ก็ยึดถือว่าเป็นเราเห็น แต่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงว่าธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา ไม่ใช่ตัวตน สัตว์ บุคคล ฉะนั้น กำลังเห็นเดี๋ยวนี้ต้องไม่ใช่ตัวเรา และก็ไม่ใช่ตัวตน ด้วยเป็นเพียงจิตประเภทหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย

Photo cr. Beautiful Amazing World


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
nattawan
วันที่ 26 ก.ค. 2567

ที่อยู่ที่อาศัยนั้นก็เป็นแต่เพียงที่พักชั่วคราวในโลกนี้เท่านั้น และไม่ใช่แต่เฉพาะที่อยู่ที่อาศัยอาคารบ้านเรือน แม้แต่โลกทั้งโลก ไม่ว่าจะเป็นสุคติหรือเป็นทุคติก็ตาม ก็เป็นที่พักเพียงชั่วคราวเท่านั้น ไม่มีใครจะอยู่ในโลกนี้ตลอดไป จึงไม่ควรห่วงกังวลมากนัก เพียงแต่ว่าเมื่อยังจำเป็นในการดำรงชีวิต เลี้ยงชีพ บริหารชีวิตให้ดำเนินไปด้วยดี จำเป็นต้องซ่อมแซมรักษาอาคารบ้านเรือนให้อยู่ในสภาพที่ไม่เป็นอันตราย นั่นก็เป็นสิ่งที่ทำได้ โดยไม่จำเป็นต้องกังวล ห่วงใย ติดข้องมาก เพราะเป็นแต่เพียงที่พักเพียงชั่วคราวเท่านั้น หมดชีวิตในโลกนี้แล้วก็ไปสู่โลกอื่น มีที่พักอาศัยเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นทุคติ หรือสุคติก็ตาม

Photo cr. Beautiful Amazing World

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
nattawan
วันที่ 26 ก.ค. 2567

เข้าใจเรื่องกรรม เล่ม ๑

เข้าใจเรื่องกรรม เล่ม ๒

เข้าใจเรื่องกรรม เล่ม ๓

โดย สุจินต์ บริหารวนเขตต์

ตราบใดที่ยังมีกุศลย่อมให้ผลเป็น
กุศลวิบาก ทำให้เกิดในสุคติ ก็ยังไม่พ้นไปจากสังสารวัฏ ยังไม่พ้นไปจากทุกข์ได้ การเกิดเป็นมนุษย์ เป็นสุคติภูมิ มีความสุขมากไหม เกิดเป็นมนุษย์ หรือว่าบางท่านจะพอเห็นทุกข์บ้างแล้ว ของการเกิดเป็นมนุษย์ แต่ถึงแม้ว่าจะเห็นทุกข์บ้าง ก็ยังไม่ใช่ทุกข์แท้จริง เพราะฉะนั้นถึงแม้ว่าจะเกิดในมนุษย์ซึ่งเป็นสุคติภูมิ ก็ยังไม่พ้นจากทุกข์ในภพ ยังจะต้องมีการเกิดอีก ยังจะต้องมีการตายอีก อยู่เรื่อยๆ แม้ในสุคติภูมิก็ตาม หรือถึงแม้ว่าจะเกิดในสวรรค์ ก็จะต้องถึงกาลที่สิ้นสุดของการเป็นเทพในสวรรค์ เพราะเหตุว่ายังไม่พ้นจากอภิสังขารูปธิ เจตนานั้นก็ยังเป็นกุศลบ้าง เป็นอกุศลบ้าง ตราบใดที่ยังมีกิเลสอยู่

Photo cr. Beautiful Amazing World

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
nattawan
วันที่ 26 ก.ค. 2567

วินัยคฤหัสถ์ (สิงคาลกสูตร)

โดย สุจินต์ บริหารวนเขตต์

ข้อความในพระไตรปิฎกทั้งหมดมีประโยชน์ที่จะให้ผู้ฟังได้ทราบถึงสภาพธรรมที่ปรากฏตามความเป็นจริงของแต่ละท่าน เพราะฉะนั้นขอกล่าวถึงชีวิตประจำวัน ซึ่งบางท่านอาจจะคิดว่าไม่เกี่ยวข้องกับการอบรมเจริญสติปัฏฐานเลย แต่ว่าชีวิตประจำวัน ทุกขณะนี้เป็นความจริง เป็นสภาพธรรมแท้ๆ ที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ใครจะมีกิเลสมาก มีกิเลสน้อย มีกุศลมาก มีกุศลน้อยอย่างไร ก็จะรู้ได้จากสภาพธรรมที่เป็นของจริง ที่เกิดขึ้นแต่ละวันในชีวิตประจำวันนั่นเอง

เพราะฉะนั้นธรรมที่ทรงแสดงไว้ เป็นเครื่องเทียบเคียงให้ท่านย้อนกลับมาพิจารณาด้วยสติ ถึงสภาพธรรมที่เกิดขึ้น กับท่านตามความเป็นจริงในชีวิตประจำวันด้วย เพื่อที่จะได้รู้ว่า ชีวิตประจำวันแท้ๆ เป็นเครื่องวัด เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ใครมีกิเลสมาก ใครมีกิเลสน้อย ใครมีกุศลมาก ใครมีกุศลน้อย

Photo cr. Beautiful Amazing World

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
nattawan
วันที่ 26 ก.ค. 2567

ปรมัตถธรรม หมายความถึง สภาพธรรมที่มีจริงๆ แม้ไม่เรียกชื่อสิ่งนั้นก็มี หรือแม้ว่าจะเปลี่ยนชื่ออะไรก็ตาม สภาพธรรมนั้นก็คงเป็นสภาพธรรมนั้น อย่างภาษาบาลีใช้คำว่า “โลภะ” ภาษาไทยเราบอกว่าความติดข้อง ความอยากได้ ความต้องการ ภาษาอังกฤษเรียกอีกคำหนึ่ง ภาษาอื่นก็เปลี่ยนไป แต่เปลี่ยนลักษณะของโลภะไม่ได้ จะใช้ภาษาอะไรก็ได้ ไม่เรียกก็ได้ แต่ว่าเปลี่ยนลักษณะของสภาพธรรมนั้นไม่ได้

Photo cr. Beautiful Amazing World

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
nattawan
วันที่ 26 ก.ค. 2567

ท่านผู้ฟังอยากเป็นพระโสดาบันชาตินี้ไหม อยากหรือไม่อยาก ถึงอยากก็ไม่เป็น แล้วแต่เหตุปัจจัย อบรมไป เจริญไป จนกว่าจะถึง แต่ต้องเป็นความเข้าใจถูก และการปฏิบัติถูก เป็นสัมมาสติที่ระลึกถูก ส่วนการที่จะเป็นพระโสดาบัน ขอให้ยืดออกไปอีก จนกว่าปัญญาจะค่อยๆ รู้ลักษณะของนามธรรมและรูปธรรมเพิ่มขึ้นๆ และไม่ต้องคอยหรือหวัง วันไหนจะเป็น เมื่อเหตุสมบูรณ์ วันไหนวันนั้นก็ต้องเป็น ไม่มีใครบังคับได้ แต่ว่าจะเป็นชาติไหน กัปไหนนั้น ก็ไม่ต้องห่วง ถ้าเป็นหนทางที่ถูกแล้ว

Photo cr. Beautiful Amazing World

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
nattawan
วันที่ 26 ก.ค. 2567

กุศลศีลเป็นธรรมะ เป็นอนัตตา ไม่ใช่ตัวตน บังคับให้เกิดไม่ได้ แต่ความเข้าใจพระธรรม จะเกื้อกูลอุปการะ เป็นเหตุปัจจัยปรุงแต่งให้ความดีที่เกิดพร้อมกับความเข้าใจเพิ่มขึ้นๆ เป็นกุศลศีล เมื่อเห็นโทษของอกุศลธรรมก็จะไม่ทำชั่ว ไม่ใช่การบังคับให้จิตเป็นกุศล ซึ่งเป็นตัวตน เป็นเรื่องทำทั้งสิ้น ไม่รู้เลยว่าขณะนั้นเป็นอกุศล
หมู่บ้านศีล ๕ ไม่มีในพระไตรปิฎก ทำความดีไม่ต้องลงทะเบียน หรือประกาศให้ใครรู้ ถ้าไม่มีปัญญา รักษาศีล ๕ ไม่ได้ (พระโสดาบันไม่ล่วงศีล ๕)
ถัาไม่รู้จักศีล รักษาศีลไม่ได้ คนส่วนมากรักษาศีลด้วยความเป็นตัวตน และเพื่อตน (มีแต่หมู่บ้านอกุศลศีล)

สนทนาธรรมที่ มศพ. ๒๖ ก.ค. ๕๘
ภาพประกอบ : ดอกเข้าพรรษา บูชาพระรัตนตรัย

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
nattawan
วันที่ 26 ก.ค. 2567

ขณะนี้มีศีลไหม?

ศีล คือ ปกติ ถ้าขณะนี้เป็นอกุศล ก็เป็นอกุศลศีล ถ้าเป็นกุศล ก็เป็นกุศลศีล

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
nattawan
วันที่ 26 ก.ค. 2567

ชีวิตเราเต็มไปด้วยความอยากมี อยากเป็น อยากได้อารมณ์ต่างๆ ที่มากระทบทั้งภายในและภายนอก จึงไม่คุ้นเคยกับการละ และเพราะไม่คุ้นเคยกับการละ จึงสะสมความอยากเหล่านี้ต่อๆ ไปอีก เป็นการต่อภพ ต่อชาติ ต่อสังสารวัฏยาวนานจนนับไม่ถ้วน
การศึกษาธรรมะให้เข้าใจจนคุ้นเคยกับสภาพธรรมตามความเป็นจริง จะทำให้ค่อยๆ คุ้นเคยกับการละมากขึ้น ...

ชีวิตเราเต็มไปด้วยความอยากมี อยากเป็น อยากได้

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
nattawan
วันที่ 26 ก.ค. 2567

ยินดีในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
chatchai.k
วันที่ 26 ก.ค. 2567

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ