อนตฺตภาว หมายถึง ความเป็นอนัตตา

 
nattawan
วันที่  31 ก.ค. 2567
หมายเลข  48219
อ่าน  167

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

🍀อนตฺตภาว หมายถึง ความเป็นอนัตตา🍀

พระธรรมทุกคำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง แสดงให้เข้าใจสิ่งที่มีจริง เป็นไปเพื่อละการยึดถือสภาพธรรมว่าเป็นตัวตนเป็นสัตว์บุคคล จุดประสงค์ของการศึกษาพระธรรมตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ก็เพื่อความเข้าใจธรรมซึ่งเป็นสิ่งที่มีจริงๆ ที่ไม่เคยรู้มาก่อนว่าเป็นธรรม เป็นการเข้าใจถึงสิ่งที่มีจริงตามความเป็นจริง

สิ่งที่มีจริงไม่พ้นจากขณะนี้เลย เป็นสภาพธรรมที่มีจริง ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย และทางใจ แต่ละขณะ แล้วก็ดับไป ทันทีเมื่อดับไปแล้ว ก็ไม่กลับมาอีกเลย ทั้งหมดของพระธรรม ล้วนแล้วแต่เป็นไปเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกโดยตลอด ว่าเป็นธรรม ไม่ใช่เรา ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน ไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใด

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
nattawan
วันที่ 31 ก.ค. 2567

🌼พุทฺธรตน หมายถึง สิ่งที่มีค่าหาสิ่งใดเปรียบมิได้ คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พุทธรัตนะ🌻

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอุบัติขึ้นมาในโลก เพื่อประโยชน์อย่างแท้จริง ทรงบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสัตว์โลกด้วยการแสดงพระธรรม ตลอดระยะเวลา ๔๕ พรรษาแห่งการประกาศคำสอนหลังจากที่พระองค์ทรงตรัสรู้ จนกระทั่งใกล้วาระที่พระองค์จะเสด็จดับขันธปรินิพพาน มีผู้ที่ได้รับประโยชน์จากพระธรรมเป็นจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน ซึ่งไม่มีบุคคลใดจะเป็นเหมือนอย่างพระองค์ได้

แต่เป็นที่น่าพิจารณาว่า แม้เมื่อได้ฟังพระธรรมแล้ว "ส่วนใหญ่แล้วละเลยความเข้าใจ" เมื่อไม่มีความเข้าใจจากการฟังพระธรรม ก็ย่อมจะเป็นเหตุทำให้มีการยึดถือในสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง โดยที่เข้าใจผิดว่าจะเป็นที่พึ่งได้ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่สามารถที่จะมีที่พึ่งได้เลยถ้าขาดความเข้าใจถูกเห็นถูก จึงเป็นกิจหน้าที่ที่สำคัญที่จะต้องฟังพระธรรมด้วยความละเอียดรอบคอบ ไม่ประมาทแม้ในการฟัง ค่อยๆ สะสมความเข้าใจไปทีละเล็กทีละน้อย

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
nattawan
วันที่ 31 ก.ค. 2567

ชีวิตเนื่องด้วยลมหายใจเข้าออก ตราบใดที่ยังหายใจเข้าออกโดยสม่ำเสมอ จะไม่รู้สึกเลยว่า ชีวิตทั้งชีวิตแขวนอยู่กับลมหายใจแผ่วๆ ซึ่งถ้าเกิดขัดข้อง คือเมื่อไม่หายใจเข้า ไม่หายใจออก ก็เป็นอยู่ไม่ได้ และก่อนที่จะไม่หายใจเข้า ไม่หายใจออก จะทรมานสักแค่ไหน ในขณะที่หายใจไม่ออก อย่างบางคนจะรู้สึกได้ว่า เวลาที่เป็นหวัดคัดจมูก แม้เพียงเท่านั้นก็อึดอัดมากมาย และถ้ามากกว่านั้น ซึ่งหลายชีวิตก็จะต้องประสบกับภาวะเช่นนั้น ขณะนั้นก็จะต้องเป็นภัยอย่างหนึ่ง ซึ่งแสดงให้เห็นได้ว่า ชีวิตบอบบางและเล็กน้อยมาก เพียงมีชีวิตดำรงอยู่ได้ด้วยลมหายใจที่เข้าออกเท่านั้น

"เกิดมาแล้ว จะทำอะไรกับชีวิตที่น้อยๆ นี้"

ปัจจัยที่ ๑ ชีวิตเนื่องด้วยลมหายใจเข้าออก

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
nattawan
วันที่ 31 ก.ค. 2567

ผู้ที่อบรมเจริญปัญญาต้องตรงต่อสภาพธรรมที่กำลังปรากฎ ที่สามารถที่จะรู้ในลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฎว่าขณะนี้จิตเป็นกุศล หรืออกุศล เช่น ขณะติดข้องก็รู้ตามความเป็นจริงว่าติดข้องเป็นโลภ ไม่ใช่ เมตตา ขณะโกรธหรือขุ่นเคืองใจก็เป็นอกุศลเป็นโทสะ ไม่ว่าสภาพธรรมที่กำลังปรากฎนั้นเป็นกุศล หรืออกุศลเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยไม่มีผู้ใดบังคับให้เกิดหรือไม่ให้เกิดได้ อาจหาญ ร่าเริง ที่จะรู้ว่านั่นเป็นเพียงสภาพธรรม ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน

ธรรมทัศนะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
nattawan
วันที่ 31 ก.ค. 2567

ทุกเวลาและทุกที่ เพื่อเกื้อกูลให้ได้เข้าใจความจริงขณะนี้

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
nattawan
วันที่ 31 ก.ค. 2567

การสนทนาธรรมเป็นมงคล

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
chatchai.k
วันที่ 31 ก.ค. 2567

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ