ความจริงคือความงามของพระธรรม

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เห็นเป็นธรรมะ เห็นมีจริง ไม่สงสัยแต่ไม่รู้แล้วก็ลืม!! ลืมเมื่อไหร่ ... เห็นเดี๋ยวนี้ใครรู้บ้างว่าเป็นธรรมะ??

เมื่อไหร่ที่เห็นแล้วไม่ลืม กว่าจะไม่ลืมกว่าจะเป็นธรรมะทุกวัน ทั้งวัน ทุกปีทุกชาติ ฟังเพื่อเห็นความลึกซึ้งของธรรมะที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ ธรรมะเป็นธรรมะ เปลี่ยนไม่ได้ เห็นเป็นเห็น คิดเป็นคิด ถ้าไม่รู้ว่าธรรมะไม่ใช่เรา ถ้าไม่รู้แล้วจะรู้ว่าไม่ใช่เราเป็นธรรมะได้ไหม ฟังจนกว่าทุกอย่างเป็นธรรมะทั้งหมด!!!

การจะให้ผู้อื่นรู้และเข้าใจธรรมะด้วยเป็นเรื่องยาก

ความจริงคือความงามของพระธรรม ความจริงนั้นงามเพราะตรงและเปลี่ยนไม่ได้ ขณะนี้เห็น ... งามไหม?? ไม่รู้ว่างามเลย แต่เห็นเกิดแล้วดับ ... งามไหม ... จริงที่สุด ตรงที่สุด เปลี่ยนไม่ได้ เพราะฉะนั้นตรงต่อความจริง งามมากเพราะไม่เท็จ ไม่ลวง ... งามไหม ... หลงว่าเป็นเรามาตั้งนาน ... ไม่งามเลย ... ไม่รู้ความจริงเพราะฉะนั้น ความจริงของสิ่งที่มีจริงตามความเป็นจริง ... งามที่สุดไม่หลอก ไม่ลวง ไม่ทำให้เห็นผิด!!!

พระโพธิสัตว์เห็นว่างาม!!! คนที่เห็นว่างามก็มีแต่ไม่เคยคิดว่าอะไรที่งาม!!! งามที่สุดที่แท้จริงคืออะไร?? ถูกลวง ... เมื่อรู้ความจริงของเก๊งามไหมเมื่อรู้ความจริง ... เปลี่ยนไม่ได้ สิ่งที่ลวง ที่ไม่จริงลวงให้เข้าใจผิดจะงามได้อย่างไร!!! อะไรจะงามกว่าความเป็นจริง??

ทุกคำไม่ใช่ให้เชื่อ ... งามไหม?? เมื่อรู้ความจริงว่าห่างจากความไม่จริงแสนไกล ถูกลวงให้เห็นว่างาม ว่าจริงชั่วครู่ที่ปรากฏ และความงามนั้นหายไปไหน?? เพราะฉะนั้นฟังคำจริงไม่ใช่สำหรับเชื่อ แต่สำหรับไตร่ตรองให้เข้าใจตามความเป็นจริง เห็นเป็นเห็น ... หลงเข้าใจว่าเป็นเราเห็น ... จะงามไหม!!!

การรู้ความไม่ใช่เราเป็นไปจนถึงการประจักษ์แจ้ง ใครจะรู้จักพระพุทธเจ้าถ้าไม่ฟังคำของพระองค์!! ทุกคำเป็นไปเพื่อละ ... ถ้าเป็นสิ่งที่ไม่ดีจะละไหม??

แม้แต่คำว่าน้อม ไม่ใช่เราน้อม แต่ความค่อยๆ เข้าใจต่างหากไปสู่คำว่าน้อม รู้ความจริงเบิกบานไหม? ถ้ารู้ความไม่จริง ความเท็จ ความลวงทั้งหลาย ... ไม่เบิกบานเลย!!!

ต้องเข้าใจถูกต้องในความเป็นจริงว่าสิ่งนั้นแสนสั้น ชั่วคราว เพียงเกิดแล้วดับแล้วไม่กลับมาอีกเลยในสังสารวัฏ ... งามไหม??

ตรงคือได้ฟังมานาน บ่อยๆ เนืองๆ ... รู้ว่ายังไม่รู้ว่าเห็นเป็นธาตุรู้ ไม่ใช่เรา ... แล้วใครแสดงให้รู้ตรงลักษณะนั้น รู้ได้เมื่อค่อยๆ ฟัง ค่อยๆ เข้าใจ ให้รู้ตรงขึ้น

ทุกคำของพระองค์งามในเบื้องต้นงามในท่ามกลางและงามในที่สุด ไม่มีอะไรไม่งาม เมื่อเข้าใจมั่นคงขึ้น ได้รู้ว่าความจริงเป็นอย่างไร เปลี่ยนไม่ได้และต้องเป็นอย่างนี้ แต่ไม่รู้เพราะความติดข้องและความไม่รู้ปิดบังตลอดเวลา

อาศัยอย่างเดียว กำลังฟัง ... เข้าใจสิ่งที่ฟัง ... ขณะที่เข้าใจ ... ละขณะนั้น!!! เพราะฉะนั้นต้องตรงต่อความจริง ความเข้าใจเท่านั้นที่จะละความติดข้องเพราะไม่รู้ ฟังแล้วไตร่ตรองพิจารณาให้เห็นความลึกซึ้งของพระธรรม

ไม่ไกลเลย ... เดี๋ยวนี้จริงไหม!! ใครทำให้เกิด เกิดแล้วดับแล้ว เกิดแล้วดับแล้ว เป็นอย่างนี้ตลอด ตราบใดที่ยังมีเหตุให้เกิด

พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว มีพระธรรมเป็นพระศาสดาแทนพระองค์ เสด็จดับขันธปรินิพพานเมื่อพุทธบริษัทสี่อาศัยพระธรรมแกล้วกล้าในการดำรงพระศาสนา คือกล้าพูดคำจริงที่เป็นประโยชน์

ทรงแสดงพระธรรมหลังจากทรงประจักษ์แจ้งให้ผู้อื่นเข้าใจความจริงเพราะฉะนั้นผู้รู้และเข้าใจความจริงกล้าไหมที่จะเผยแพร่ให้ผู้อื่นเข้าใจ ... เป็นประโยชน์ไหม แล้วจะกลัวอะไร!!! จึงควรสนทนาธรรมกันจึงจะเป็นมงคล เพื่อเข้าใจความถูกต้อง ไม่มีใครเป็นเจ้าของธรรมะ สิ่งที่มีจริงเป็นธรรมะ เป็นอนัตตา แต่ไม่รู้ว่าเป็นธรรมะไม่ใช่เรา และไม่เข้าใจอนัตตา ... ไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้เป็นธรรมะหรือเปล่า ... ถ้าไม่ฟังคำของพระองค์จะรู้ไหมว่าไม่รู้ ฟังเพื่อรู้แล้วละความเห็นผิด ... แกล้วกล้าไหม??

อะไรที่จะเป็นแนวทางในการศึกษา ... ประมาทคำของพระพุทธเจ้าไม่ได้ ... ต้องตั้งต้นและทรงไว้ซึ่งความถูกต้องว่า เดี๋ยวนี้เป็นธรรมะไม่ใช่เรา ศึกษาความละเอียดในทุกคำของพระองค์ ... ไตร่ตรองจนเข้าใจจริงๆ ในแต่ละคำ

เป็นคนดี เข้าใจธรรมะ แล้วให้คนอื่นได้เข้าใจพระธรรมที่ลึกซึ้งด้วย เพราะฉะนั้นจึงมี มศพ.

เชิญชม สนทนาปฏิบัติธรรม

เนื่องในวันครบรอบ ๔๐ ปี
การก่อตั้งมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา

วันพฤหัสบดีที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๖๗
สนทนาเรื่องปฏิบัติธรรม เริ่มเวลาประมาณ 13.30 น.

🔵FB วิทยุออนไลน์ : www.facebook.com/share/v/TVzus5WGgArrhcNs/?mibextid=qi2Omg

🔵FB ชมรมบ้านธัมมะ : www.facebook.com/share/v/Gv2pkyfnLNfnVwtq/?mibextid=qi2Omg

🔴YT : www.youtube.com/live/DEbi6zyO7G8?si=ZtTpcGGM1SF1CnBF

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง