ก่อนตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า (ข้อสงสัย)

 
Kuat639
วันที่  4 ส.ค. 2567
หมายเลข  48237
อ่าน  129

ผมขออนุญาตสอบถามเป็นข้อๆ ดังนี้โดยใช้ภาษาแบบปุถุชน

1.ก่อนตรัสรู้พระพุทธองค์ทรงบำเพ็ญเพียรเป็นระยะเวลานานเท่าไหร่?กว่าจะรู้ความจริง

2.ก่อนตรัสรู้พระองค์มีเข้าใจ (ผิด) ว่าเป็นเรา.เป็นคนเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดด้วยหรือไม่?

3.สิ่งที่พระองค์ตรัสรู้คือแท้จริงแล้วไม่มีคนไม่มีเรา.ไม่มีสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างที่ปุถุชนเข้าใจกัน.ใช่หรือไม่?

4.คำสอนของพระองค์ถูกบันทึกลงในพระไตรปิฎกหลังจากพระองค์ปรินิพพานแล้วใช่หรือไม่?

5.ผู้ที่นำคำสอนในพระไตรปิฎกมาเผยแพร่.นำมาถ่ายทอดต่อๆ กันมาจากภิกษุ อุบาสกอุบาสิกา..จนกลายเป็นการให้ความหมายจากการสื่อสารของแต่ละแห่งแต่ละสำนักไม่เหมือนกันเลย.แต่คำสอนต่อๆ กันมาส่วนใหญ่ยังมีเรามีสิ่งหนึ่งสิ่งใด.แต่ของบ้านธัมมะ.ไม่มีเราไม่ใช่เราหรือสิ่งหนึ่งสิ่งใด.นั่นแสดงว่ามีทั้งคำสอนผิดและคำสอนถูกแน่ๆ .ตกลงว่าแท้จริงแล้วคนมีจริงหรือเปล่า??

6.เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสว่า.คน.ไม่มีจริง.แต่ทำไมคนส่วนใหญ่ไม่เชื่ออย่างนั้น?

ขอความอนุเคราะห์ตอบคำถามเป็นข้อๆ นะครับ.เพื่อเป็นวิทยาทานแก่บุคคลที่เข้ามาอ่านเจอข้อสงสัยเหล่านี้ (แต่โดยส่วนตัวของผมเองพอเข้าใจเห็นด้วยตามคำสอนของบ้านธัมมะครับ) กราบขอบพระคุณอย่างสูงครับ ... ในสังคมนี้มีคำสอนผิดอยู่มากโดยเฉพาะในวงการพระสงฆ์..


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 6 ส.ค. 2567

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

1. ก่อนตรัสรู้พระพุทธองค์ทรงบำเพ็ญเพียรเป็นระยะเวลานานเท่าไหร่?กว่าจะรู้ความจริง

ก่อนการตรัสรู้ ในชาติสุดท้ายพระองค์ทรงบำเพ็ญเพียรเป็นระยะเวลา ๖ ปี จึงได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ถ้ากล่าวถึงการทรงอบรมเจริญพระบารมีเมื่อครั้งที่ทรงเป็นพระโพธิสัตว์ นานถึงสี่อสงไขยแสนกัปป์


2.ก่อนตรัสรู้พระองค์มีเข้าใจ (ผิด) ว่าเป็นเรา.เป็นคนเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดด้วยหรือไม่?

ก่อนการตรัสรู้ กิเลสยังมีอยู่ครบทุกอย่าง ยังไม่สามารถดับกิเลสได้ รวมถึงความเห็นผิดด้วย


3.สิ่งที่พระองค์ตรัสรู้คือแท้จริงแล้วไม่มีคนไม่มีเรา.ไม่มีสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างที่ปุถุชนเข้าใจกัน.ใช่หรือไม่?

สิ่งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้คือสิ่งที่มีจริงทุกอย่างซึ่งเป็นธรรม ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใด


4.คำสอนของพระองค์ถูกบันทึกลงในพระไตรปิฎกหลังจากพระองค์ปรินิพพานแล้วใช่หรือไม่?

ก่อนที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะเสด็จดับขันธปรินิพพาน พระองค์ไม่ทรงแต่งตั้งพระภิกษุรูปใดให้เป็นศาสดาแทนพระองค์ แต่พระองค์ได้ตรัสว่า “ธรรมก็ดี วินัยก็ดีอันใดอันเราแสดงแล้ว ได้บัญญัติไว้แล้วแก่พวกเธอ ธรรมและวินัยอันนั้น จักเป็นศาสดาแห่งพวกเธอ โดยกาลล่วงไปแห่งเรา” พระธรรมวินัย จึงเป็นที่พึ่ง เป็นเครื่องพร่ำสอนแทนพระองค์ ยุคแรกๆ การแสดงธรรม การเผยแพร่พระธรรม ยังไม่มีการจดจารึกเป็นตัวอักษร แต่เป็นการสอนการสืบทอดพระธรรมวินัยด้วยปากต่อปาก การจดจารึกพระธรรมวินัยเป็นตัวอักษร มีมาในภายหลัง ซึ่งตามประวัติแล้วที่มีการจดรึกตัวอักษรพระไตรปิฎกนั้น มีขึ้นในศรีลังกา ประมาณ พ.ศ. ๔๕๐ แล้วก็มีการแปลเป็นภาษาต่างๆ แม้กระทั่งในประเทศไทย ก็มีการแปลพระไตรปิฎกและอรรถกถา เป็นภาษาไทย ครบถ้วนทั้งหมด พร้อมที่จะให้ประโยชน์สูงสุดสำหรับผู้ที่เห็นประโยชน์เห็นคุณค่าที่จะเข้าใจความจริง


5.ผู้ที่นำคำสอนในพระไตรปิฎกมาเผยแพร่.นำมาถ่ายทอดต่อๆ กันมาจากภิกษุ อุบาสกอุบาสิกา..จนกลายเป็นการให้ความหมายจากการสื่อสารของแต่ละแห่งแต่ละสำนักไม่เหมือนกันเลย.แต่คำสอนต่อๆ กันมาส่วนใหญ่ยังมีเรามีสิ่งหนึ่งสิ่งใด.แต่ของบ้านธัมมะ.ไม่มีเราไม่ใช่เราหรือสิ่งหนึ่งสิ่งใด.นั่นแสดงว่ามีทั้งคำสอนผิดและคำสอนถูกแน่ๆ .ตกลงว่าแท้จริงแล้วคนมีจริงหรือเปล่า?

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงว่า ธรรมทั้งหลายทั้งปวง เป็นอนัตตา (สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตา) นั่นแสดงว่า เป็นแต่เพียงธรรมซึ่งเป็นสิ่งที่มีจริงแต่ละหนึ่งๆ ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น เมื่อเป็นธรรมแต่ละหนึ่งๆ แล้ว จะเป็นสัตว์ เป็นบุคคล เป็นตัวตนหรือเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดได้อย่างไร ที่จะมีความเข้าใจถูกต้องตามความเป็นจริงได้ ต้องได้ฟังได้ศึกษาจากทุกคำจริงของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


6.เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสว่า.คน.ไม่มีจริง.แต่ทำไมคนส่วนใหญ่ไม่เชื่ออย่างนั้น?

เพราะส่วนใหญ่ไม่ได้ศึกษาพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ด้วยความเคารพละเอียด รอบคอบ จึงไม่มีปัญญาที่จะเข้าใจความเป็นจริงของธรรมได้


... ยินดีในกุศลของคุณ Kuat639 และทุกๆ ท่านด้วยครับ ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
Kuat639
วันที่ 6 ส.ค. 2567

กราบขอบพระคุณอย่างสูงยิ่งครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
chatchai.k
วันที่ 6 ส.ค. 2567

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
wannee.s
วันที่ 7 ก.ย. 2567

ธรรมก็ดี วินัยก็ดีอันใดอันเราแสดงแล้ว ได้บัญญัติไว้แล้วแก่พวกเธอ ธรรมและวินัยอันนั้น จักเป็นศาสดาแห่งพวกเธอ โดยกาลล่วงไปแห่งเรา

อนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
chatchai.k
วันที่ 7 ก.ย. 2567

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ