ธรรมมีจริงๆ

 
nattawan
วันที่  11 ส.ค. 2567
หมายเลข  48273
อ่าน  277

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ธรรมมีจริงๆ ขณะกำลังปรากฏขณะนี้
แต่ไม่รู้เลย ฟังธรรม ไตร่ตรอง สะสมความเข้าใจ มั่นคง ด้วยความอดทน จนกว่าจะเข้าใจขึ้นๆ ตามลำดับ จนประจักษ์แจ้งตามที่ได้ฟังจากการตรัสรู้และทรงแสดงธรรม 45 พรรษาของพระพุทธเจ้า

ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา ไม่ใช่เรา ไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใด บังคับบัญชาไม่ได้ เกิดเพราะเหตุปัจจัย และดับไป ไม่กลับมาอีกเลย


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
nattawan
วันที่ 11 ส.ค. 2567

กัลยาณมิตรเหนือกว่ามิตรธรรมดา เพราะให้สิ่งที่คนอื่นให้ไม่ได้ คือ ปัญญา กัลยาณมิตรสูงสุด คือ พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า นอกจากให้ปัญญา ก็ยังให้ทุกอย่างด้วย เวลามีปัญญาความเห็นถูก ความคิดต่างๆ ก็ดี ถูกต้องตามปัญญา และค่อยๆ คลาย ค่อยๆ ละอกุศล

บ้านธัมมะ ๒๓ ธ.ค. ๕๒

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
nattawan
วันที่ 11 ส.ค. 2567

-บัญญัติก็เป็นอารมณ์ของจิตในขณะที่จิตไม่มีปรมัตถ์เป็นอารมณ์ สภาพธรรมเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น เปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่สะสมปัญญาให้รู้ตามความเป็นจริงได้ตามระดับของปัญญา
-ขณะนี้เห็นเป็นสัตว์ บุคคล ตัวตน เพราะอวิชชาความไม่รู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นกิเลสละเอียด ที่นอนเนื่องในจิต ขณะนั้นจิตเป็นอกุศล
-ใครรู้ว่าใครสติเกิด?
-จากการเข้าใจธรรมะ ทำให้มีกายและใจที่ดีงามขึ้น

บ้านธัมมะ ๑๖ ธ.ค. ๕๒

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
nattawan
วันที่ 11 ส.ค. 2567

-คนพาล คือ ขณะที่อกุศลจิตเกิดขึ้นเป็นคนพาล ผู้ไม่รู้ประโยชน์ในโลกนี้และโลกหน้า ผู้ตัดประโยชน์ตน ผู้เบียดเบียนทำร้ายตนเอง
-จิตของใครเป็นกุศลขณะไหนก็เป็นมิตร ไม่ใช่ศัตรู อกุศลธรรมเกิดเมื่อไหร่ เป็นมิตรไม่ได้เลย
-กุศลธรรมที่ประกอบด้วยปัญญาเป็นเกาะ เป็นที่พึ่งที่แท้จริง
-โลภะ โทสะ โมหะ เป็นอกุศลธรรม เป็นศัตรูภายใน เป็นอมิตร เป็นเพชรฆาต ตามเบียดเบียนทั้งภพนี้และภพหน้า
-ขณะใดที่ทำประโยชน์ให้คนอื่น ขณะนั้นเป็นประโยชน์ตน เพราะขณะนั้นเป็นกุศลจิตอย่างแท้จริง

บ้านธัมมะ ๒ ธ.ค. ๕๒

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
nattawan
วันที่ 11 ส.ค. 2567

-ธาตุรู้ (จิต) เกิดขึ้นเพื่อรู้สิ่งที่กำลังปรากฏให้รู้เท่านั้นเอง
-รูปไม่รู้อะไร เพียงแต่มีปัจจัยให้เกิดขึ้น เมื่อมีธาตุรู้ และไม่รู้ความจริงว่าเพียงเกิดดับ จึงยึดถือติดข้องทั้งนามและรูป
-รูปเป็นที่ตั้งของความยึดถือซึ่งเป็นที่ยินดีพอใจอย่างยิ่ง
-ไม่มีใครไม่อยากได้รูป แต่ที่พอใจที่สุดคือ "ตัวเอง" ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า
-รูปมีจริงๆ ถ้าไม่มีธาตุรู้ รูปนั้นก็ไม่ปรากฏ
-ถัาไม่มีการตรัสรู้ของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า โลกอยู่ในความมืดของความไม่รู้ ไม่สามารถรู้อะไรได้เลยทั้งสิ้น ตั้งแต่เกิดจนตาย ไม่ว่าจะพูด ทำ คิด สุข ทุกข์ อยู่ในความมืด คือ ไม่รู้ความจริงว่าเป็นธรรมะแต่ละอย่างเกิดขึ้นและดับไป แล้วยังต้องมีต่อไปเรื่อยๆ ในสังสารวัฏฏ์ไม่สิ้นสุด โดยไม่รู้อะไรเลย

บ้านธัมมะ ๒๕ พ.ย. ๕๒

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
nattawan
วันที่ 11 ส.ค. 2567

การได้ฟังพระธรรมเป็นโอกาสที่ดียิ่ง ที่จะได้สะสมความเข้าใจเพื่อการขัดเกลาและข้ามพ้นกิเลส แต่ต้องเป็นปกติและค่อยเป็นค่อยไป นั่นคือ ความอดทนที่จะข้ามพ้นจากฝั่งคือกิเลส

ฟังเพิ่มเติม www.dhammahome.com/audio/topic/10317

Photo cr. Amazing World

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
nattawan
วันที่ 11 ส.ค. 2567

ยินดีในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ