ฟังธรรมด้วยดี

 
nattawan
วันที่  16 ส.ค. 2567
หมายเลข  48294
อ่าน  139

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ฟังธรรมด้วยดี ด้วยความเคารพ โดยแยบคาย ฟังธรรมเพื่อเข้าใจธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว ไม่ใช่ฟังแล้วคิดเอง

บ้านธัมมะ ๑๐ ส.ค. ๕๙

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
nattawan
วันที่ 16 ส.ค. 2567

-อายตนะภายนอก ๖ หรืออารมณ์ ๖ ที่เป็นสิ่งที่ปรากฏทางทวาร ๖ พระพุทธเจ้าทรงเปรียบเหมือนกับ "โจรปล้นชาวบ้าน" เช่น เห็นสีที่ไม่ชอบใจทีไรก็ถูกโจรปล้นกุศลคือ เกิดโทสะขึ้น ผู้ที่มีกิเลสและสะสมที่จะไม่ชอบหรือติดข้องในอารมณ์นั้น เมื่อเห็นเมื่อใด อกุศลที่เคยสะสมมาก็เกิดขึ้นทันที นี่ก็ถูกปล้นรัตนะ คือ กุศลทั้งหลายแล้ว

-โลภะเปรียบเหมือนเพชรฆาตที่มาทางอากาศ เกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ทำศีรษะ คือ ปัญญาให้ตกไป ไม่เหลือ

บ้านธัมมะ ๒๕ ส.ค. ๕๓

Photo cr Num Sitdhiraksa

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
nattawan
วันที่ 16 ส.ค. 2567

-ประโยชน์ที่สำคัญที่แท้จริงของการศึกษาธรรมะ คือ เพื่อความเข้าใจพระธรรมตามความเป็นจริง เพื่อขัดเกลากิเลส ที่สะสมมานานในสังสารวัฏฏ์ให้เบาบางลง จนกว่าจะถึงความเป็นผู้หมดจดจากกิเลสในที่สุด ไม่ใช่เพื่อลาภ ยศ สรรเสริญ สุข แต่เพื่อความเข้าใจจริงๆ

-ยกศีรษะไม่ขึ้น คือ ปัญญามีกำลังไม่พอที่จะยกขึ้นรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ใกล้พระธรรม ไม่ใช่ใกล้เพียงแค่ได้ยินเสียง แต่ขณะนี้เป็นธรรมะซึ่งไม่ไกลเลย เห็นก็ไม่ไกล คิดนึกก็ไม่ไกล ใกล้ที่สุด เพราะฉะนั้นเมื่อสามารถเข้าใจก็ค่อยๆ เข้าใกล้ คือ เข้าใจความจริงได้

-เข้าใกล้ธรรมะที่มี ด้วยความเข้าใจที่ถูกต้อง

บ้านธัมมะ ๑๘ ส.ค. ๕๓

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
nattawan
วันที่ 16 ส.ค. 2567

ถ. ทุกคนมีอกุศลจิตเกิด สะสมอกุศลกรรมไว้มาก ขณะอกุศลกรรมให้ผล จะมีการพิจารณาเพื่อบรรเทาได้อย่างไร

ต. ต้องขึ้นกับเหตุ ถ้าไม่มีปัญญาจะบรรเทาในลักษณะไหน เพราะฉะนั้นปัญญาเป็นที่พึ่ง เมื่อมี แต่ยังไม่มีก็อบรมให้เกิดขึ้น ไม่ว่าในสถานการณ์ใดๆ ปัญญาก็เกิดได้เมื่อมีปัจจัยที่ปัญญาจะเกิด แต่ไม่ใช่เป็นวิธีว่าให้ทำอย่างนี้ ให้คิดอย่างนี้ แต่ปัญญาเกิดช้า จึงเป็นทุกข์กันทั้งนั้น แล้วจะให้เกิดปัญญา เป็นไปไม่ได้ เมื่อได้กุศลวิบาก น่าพอใจ ไม่คิดให้ปัญญาเกิดขณะนั้น แต่คิดให้ปัญญาเกิดขณะได้รับอกุศลวิบาก

-เมื่อมีกิเลสอกุศลเกิดมาก จะป้องกันอย่างไร มีทางเดียว คือ การเจริญขึ้นของกุศลธรรมทั้งหลาย คือ มีศรัทธา หิริ โอตตัปปะ มีการศึกษาพระธรรมให้ปัญญาเจริญขึ้น ขณะกุศลจิตเกิด ขณะนั้นป้องกันอกุศล

-ถ้ายังมีกิเลส ก็ยังเป็นปัจจัยให้ทำกรรม และเมื่อทำกรรมแล้ว ก็ต้องรับผลของกรรม ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง สำคัญที่ขณะทำกรรม ขณะนั้นรู้หรือเปล่าว่าเป็นสิ่งที่มีโทษ ทุกคนคงไม่ชอบอกุศลธรรม แต่เราลืมไปว่าเป็นธรรมนั่นเอง เพราะฉะนั้นความเข้าใจถูกเห็นถูกในธรรมะขณะนี้เป็นสิ่งที่ควรรู้ยิ่ง

บ้านธัมมะ ๑๑ ส.ค. ๕๓

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
nattawan
วันที่ 16 ส.ค. 2567

พระพุทธองค์ทรงแสดงโทษของอกุศลกรรม แม้เพียงเล็กน้อยว่า จะเป็นเชื้อให้เกิดอกุศลกรรมใหญ่ๆ ตามมาได้ ในชีวิตประจำวัน กิเลสอย่างกลางที่เกิดกับจิต แม้ไม่ล่วงออกมา ก็ยังมีการสั่งสม และหมักดองมากขึ้นๆ อยู่ในจิตได้ ไม่หายไปไหน ไม่ต้องกล่าวถึงวาจาเท็จที่ล่วงออกมาในที่แจ้งแล้ว เพราะสามารถกล่าวกับผู้อื่นโดยไม่ละอายใจได้ นั่นเป็นกิเลสอย่างหยาบที่หลายคนมองข้าม ส่วนจะไปทำในที่ลับอีกหรือไม่ ก็แล้วแต่กุศลเหตุของผู้นั้นว่า จะสั่งสมคุณธรรมมาพอที่จะเกิดวิรัติงดเว้นคำพูดอย่างนั้นได้จริงๆ และได้ทุกครั้งตลอดไปไหม อย่าลืมว่าผู้ที่ไม่เห็นโทษของอกุศลไม่มั่นคงในธรรมะ ย่อมตั้งอยู่บนความประมาท

โทษของอกุศลกรรมแม้เพียงเล็กน้อย

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
nattawan
วันที่ 16 ส.ค. 2567

ธรรมะวันนี้ สี่คำ

#อภัยทาน การให้ความปลอดภัย ให้ความไม่มีภัยแก่ผู้อื่น

#สังขตธรรม ธรรมอันเป็นปัจจัยปรุงแต่ง จึงเกิดขึ้นและดับไป ได้แก่ จิต เจตสิก รูป (สังขารธรรม)

#ปรมัตถธรรม ธรรมที่มีเนื้อความประเสริฐยิ่ง เพราะมีอยู่โดยแท้จริง ได้แก่ จิต เจตสิก รูป นิพพาน

#ปฏิสนธิจิต จิตที่ทำกิจเชื่อมต่อภพใหม่ หรือจิตขณะแรกของชาติหนึ่ง ซึ่งทำกิจเกิดขึ้นในภพใหม่

บ้านธัมมะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
nattawan
วันที่ 16 ส.ค. 2567

ศึกษาธรรมะเพื่อชำระอกุศลธรรม ขณะฟังธรรมเป็นความสะอาดชั่วคราวแต่ยังไม่หมดจด เพราะยังมีอนุสัยกิเลสอยู่

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
nattawan
วันที่ 16 ส.ค. 2567

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาค
อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ข้อความโดยสรุป

ชราสูตร

เทวดา ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้า และพระองค์ได้ตรัสตอบ ดังนี้

อะไรหนอ ยังประโยชน์ให้สำเร็จจนกระทั่งชรา [ศีล]

อะไรหนอ ตั้งมั่นแล้วยังประโยชน์ให้สำเร็จ [ศรัทธา]

อะไรหนอ เป็นรัตนะของคนทั้งหลาย [ปัญญา]

อะไรหนอ โจรลักไปไม่ได้ [บุญ]

www.dhammahome.com
Photo cr. Wanchai Poo-ngarm

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
nattawan
วันที่ 16 ส.ค. 2567

🌻ทางรอด🌻

ทุกขณะที่อกุศลจิตเกิด สะสมขยะเพิ่มขึ้น เน่าใน ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรมนับวันก็
จะเน่ามากขึ้น จิตจึงเป็นอกุศลอยู่เรื่อยๆ การเอาตัวรอดจากอกุศล จึงไม่ใช่การเห็นแก่ตัวแต่เป็นการเอาตัวรอดจากกิเลสของตน เมื่อมีอะไรเกิดขึ้นไม่ว่าจะดี หรือไม่ดี จิตมักจะหวั่นไหวไปตามเหตุการณ์เรื่องราวต่างๆ ก็ลืมอีกแล้ว ลืมว่าเป็นเพียงสิ่งที่มีจริงที่กำลังปรากฏ เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ลืมก็เป็นอกุศลเกิดขึ้นแทนกุศล ก็เอาตัวไม่รอด ทางรอดที่ปลอดภัย คือการอบรมเจริญปัญญา ปัญญาเกิดขณะใดก็รอดจากอกุศล ทางรอดที่ไม่ต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีกเลย ก็คือ การอบรมเจริญปัญญาจนถึงการดับกิเลสหมดสิ้นเป็นสมุจเฉทถึงความเป็นพระอรหันต์ จึงจะเป็นทางรอดที่ปลอดภัยที่สุด

เอาตัวรอดจากอกุศลได้ในชีวิตประจำวัน ด้วยการฟังให้เข้าใจธรรมะมีความเห็นถูกเข้าใจถูกในสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง

ทางรอด

Photo cr. Amazing World

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
chatchai.k
วันที่ 17 ส.ค. 2567

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ