ยังต้องเดินทางต่อไปในสังสารวัฏฏ์
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาค อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ตราบใดที่ยังไม่ได้อบรมเจริญปัญญาถึงขั้นที่จะสามารถดับกิเลสทั้งปวงได้อย่างเด็ดขาดถึงความเป็นพระอรหันต์ ก็ยังต้องเกิดอีกในภพภูมิต่างๆ อย่างแน่นอน ยังไม่พ้นจากทุกข์ในสังสารวัฏฏ์ไปได้
ยังต้องเดินทางต่อไปในสังสารวัฏฏ์
ทั้งในสุคติภูมิ และอบายภูมิอีกอย่างนับชาติไม่ถ้วน, เป็นที่น่าพิจารณาว่า เป็นเรื่องที่ยากจริงๆ กับการที่จะได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ซึ่งก็น่าพิจารณาว่า ชาตินี้ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ชาติหน้าอาจจะไปเกิดในอบายภูมิก็ได้ เป็นไปได้ทั้งนั้น ซึ่งจะประมาทในชีวิตไม่ได้เลย เพราะถ้าหากอาศัยความประมาทเพียงนิดเดียว อาจจะนำพาเราไปสู่อบายภูมิ ซึ่งเป็นภูมิที่ปราศจากความเจริญในกุศลธรรม หมดโอกาสที่จะได้เจริญกุศลยิ่งขึ้น ก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นแล้ว ดีแล้วที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ แม้ว่าจะมีชีวิตที่ยากลำบากเพียงใด ชีวิตยังมีค่า ที่จะได้สะสมความดีและอบรมเจริญปัญญาต่อไป
🌱พระธรรมทุกคำลึกซึ้ง ประโยชน์อย่างยิ่งคือเข้าใจถูกเห็นถูก เข้าใจสิ่งที่กำลังมีกำลังปรากฏขณะนี้ ถูกต้องตามความเป็นจริง ศึกษาธรรมทีละคำ เพื่อเข้าใจสิ่งที่มีจริงแต่ละหนึ่งว่าไม่ใช่เรา เป็นธรรมะ เป็นอนัตตา ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใคร
🍃ถ้ามีจิต เจตสิก ก็ต้องมีศีล
ถ้าจิตเป็นกุศล ก็เป็นกุศลศีล
ถ้าจิตเป็นอกุศล ก็เป็นอกุศลศีล
ถ้าดับกิเลสหมดแล้วก็เป็นอพยากศีล
🌿ฟังพระธรรมเพื่อนำกิเลสออก ด้วยความเข้าใจที่ถูกต้อง
🍃มีธรรมะตลอดเวลาที่สามารถเข้าใจได้ ทุกขณะเป็นธรรมะ
🌱ทุกคำไม่ใช่สั่ง ทุกคำไม่ใช่ให้ทำ แต่คำสอนของพระพุทธเจ้าทุกคำ ให้เข้าใจความจริงขณะนี้
-แค่นี้เอง เกิดมาเพื่อที่จะคิดถึงสิ่งที่ปรากฏทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ มีความติดข้อง มีความไม่รู้ แล้วก็จากโลกนี้ไปด้วยความไม่รู้และด้วยความติดข้อง ซึ่งเพิ่มขึ้นทุกขณะที่ไม่รู้ เพราะฉะนั้น การที่จะได้เข้าใจความจริงก็จะรู้ได้ว่า ถึงยังไงก็ต้องจากโลกนี้ไป แต่ว่าจะจากไปโดยไม่รู้เหมือนเดิม หรือว่าเริ่มจะเข้าใจถูกต้องในสิ่งที่มีจริง
-บริโภค คือ ใช้สอย ย่อยโดยละเอียดคือการเห็นบริโภคสี การได้ยินบริโภคเสียง ... ที่สำคัญคือ บริโภคด้วยกุศลหรืออกุศล ถ้าด้วยอกุศลก็เหมือนกับเป็นขโมย ทุกวันบริโภคกามด้วยโลภะมากกว่ากุศล ขณะฟังธรรมเข้าใจเป็นการบริโภคด้วยกุศลจิต ด้วยปัญญา ปัญญาเพิ่มขึ้นก็บริโภคพระธรรมเพิ่มขึ้น เป็นการสะสมปัญญา
บ้านธัมมะ ๑๓ ต.ค. ๕๓
-สักกายทิฏฐิ คือ ความเห็นผิดที่คิดว่าเป็นสัตว์ บุคคล ตัวตน เห็นผิดว่า ขันธ์ ๕ มีความเป็นสัตว์ บุคคล ตัวตน ถ้ามีความคิดความเห็นว่ามีคนจริงๆ มีโต๊ะ มีเก้าอี้ ไม่ใช่ธรรมะ ขณะนั้นมีความเห็นผิด เป็นสภาพธรรมอย่างหนึ่ง คือ ทิฏฐิเจตสิก ซึ่งเกิดกับจิตที่ติดข้องเป็นโลภมูลจิต
-การจะละความติดข้องในขันธ์เป็นหน้าที่ของปัญญาและโสภณธรรมต่างๆ ที่จะค่อยๆ อบรมเจริญ โดยรู้ในลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริง รู้ในความเกิดขึ้นและดับไปของสภาพธรรม ประจักษ์ชัดขึ้น นี่คือหนทางละคลายจากการยึดถือขันธ์ว่าเป็นเราโดยความเห็นผิดบ้าง โดยโลภะความติดข้องบ้าง โดยความสำคัญตนคือมานะบ้าง
-ต้องเข้าใจขันธ์โดยความเป็นขันธ์ หมายความว่า ขันธ์คือสภาพธรรมที่เกิดจากเหตุปัจจัยปรุงแต่ง เกิดปรากฏขณะนี้แล้วก็ดับไป ทีละอย่างๆ เพราะฉะนั้น จะเห็นความไร้สาระของสภาพธรรมที่เพียงเกิดและดับไปเหมือนกับเศษหญ้าที่ถูกเผา
บ้านธัมมะ ๖ ต.ค. ๕๓
🍭ความพร้อมเพรียงและความปรองดอง
#ความพร้อมเพรียง หมายถึง ความมีใจเดียวกัน พร้อมเพรียงกันประชุม พร้อมเพรียงกันเลิกประชุม พร้อมเพรียงกันทำกิจหนึ่งกิจใดให้สำเร็จ ก็ต้องอาศัยความพร้อมเพรียง เพราะฉะนั้น คือการทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดเพื่อให้สำเร็จร่วมกัน
#ความปรองดอง ต้องเป็นจิตที่เสมอกันในการศึกษาและในการประพฤติธรรม มิฉะนั้นก็ไม่เห็นมีใจไหนที่จะปรองดองกันได้ ถ้าต่างคนก็ต่างใจ เพราะฉะนั้น ความละเอียดของใจก็แสดงว่าหลากหลายมาก แต่ถ้าเป็นใจที่เสมอกันในการที่จะศึกษาและประพฤติปฏิบ้ติธรรมก็ปรองดองกันได้ (เสมอกัน คือ เสมอกันด้วยคุณธรรม ที่จะศึกษาและประพฤติปฏิบัติตามด้วย ศึกษาเพื่อให้มีการปฏิบัติที่ถูกต้อง)
บ้านธัมมะ ๒๙ ก.ย. ๕๓
ต่อไปจะไปไหน???
ทุกคนกำลังเดินทางจากโลกนี้ไปไหน ... ไปที่ๆ ต้องไป ตามเหตุตามปัจจัย
บ้านธัมมะ ๒๒ ก.ย. ๕๓
🍃ขันธ์ สภาพธรรมที่อาศัยเหตุปัจจัยเกิดขึ้น และดับไปอย่างรวดเร็ว🌿ฉะนั้น จึงเป็นสภาพที่ไม่ยั่งยืน ไม่ใช่ตัวตน เพราะเป็นสภาพธรรมที่เพียงอาศัยปัจจัยเกิดขึ้น แล้วก็ดับไปรวดเร็วมาก 🌾เพียงแต่ว่าการเกิดดับๆ สืบต่อไปอย่างรวดเร็ว จึงทำให้ดูเหมือนว่ายั่งยืน 🌱ขณะนี้ โดยความเป็นจริงแล้วเป็นสภาพธรรมที่เกิดขึ้นปรากฏทีละหนึ่งๆ 👀ขณะเห็นไม่ใช่ขณะได้ยิน ขณะเห็นสิ่งที่ปรากฏทางตา 👂ขณะได้ยินก็คือเสียงที่กำลังปรากฏ ขณะนั้นสีไม่ได้ปรากฏ หรือขณะเห็น เสียงก็ไม่ได้ปรากฏ เป็นทีละหนึ่งๆ 🌲 ขณะนี้ ไม่ได้ปรากฏตามความจริงนั้นเลย เหมือนหลายๆ อย่างรวมกัน 🌳จึงทำให้เป็นการยึดถือว่าเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด เพราะไม่รู้ในความเป็นขันธ์ตามความเป็นจริง 🌴เพราะฉะนั้น ถ้าไม่รู้ตามความเป็นจริง จะละได้อย่างไร 🌵ปัญญาเท่านั้นที่จะรู้ตามความเป็นจริง ถ้าไม่รู้ ละความติดข้อง (ฉันทราคะ/โลภะ) ในรูป เวทนา สัญญา สังขารวิญญาณไม่ได้🍃
บ้านธัมมะ ๑๕ ก.ย. ๕๓
✋พระพุทธเจ้าตรัสว่า รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ไม่ใช่ของใครทั้งสิ้น ควรละเสีย เมื่อละได้แล้วจักเป็นไปเพื่อประโยชน์ เกื้อกูล เพื่อสุข
⏰ขณะนี้ทุกคนมีเวลาไม่มาก ชีวิตของแต่ละคนสั้นมาก ชีวิตเปรียบเหมือนน้ำค้างบนยอดหญ้า พอแสงอาทิตย์ขึ้นมาก็เหือดแห้ง ชีวิตของมนุษย์ก็เช่นนั้น เพราะฉะนั้น เมื่อเวลาเหลือน้อยอย่างนี้ จะทำอย่างไรชีวิตถึงจะมีค่า ไม่ต้องไปรอฟังพระธรรมที่เทวสภาบนสวรรค์ ขณะนี้มีโอกาสแล้ว ควรตั้งใจฟังด้วยความเครรพ นอบน้อม
บ้านธัมมะ ๑ และ ๘ ก.ย. ๕๓
ธรรมะวันนี้ สี่คำ
#วิญญาณ สภาพที่รู้แจ้งอารมณ์ หรือจิต
#พุทธพจน์ พระดำรัสของพระพุทธเจ้า แบ่งเป็น ๓ ประการ คือ ปฐมพุทธพจน์ ปัจฉิมพุทธพจน์ มัชฌิมพุทธพจน์
#ลาภ การได้ สิ่งที่พึงได้ ในโลกธรรม ๘ มุ่งถึงการได้มาซึ่งสิ่งที่น่าปรารถนา (อิฏฐารมณ์)
#อนุตตริยะ สิ่งที่ยอดเยี่ยม ๖ ประการ คือ การเห็น การฟัง การได้ลาภ การบำรุง การศึกษา การระลึกที่ยอดเยี่ยม (พระสุตตันตปิฏก อังคุตรนิกาย ฉักกนิบาต อนุตตริยสูตร)
บ้านธัมมะ
สัจจะ ตรง เพื่อเข้าใจว่าไม่มีเรามีแต่ธรรมะ (อ.สุจินต์)
ท่าน อ.สุจินต์..บารมีข้อหนึ่งคือสัจจะ เป็นผู้ตรง คือ รู้ว่ามีกิเลสมาก เพราะฉะนั้นฟังแต่ละครั้งเพื่อเข้าใจว่าไม่มีเรา ค่อยๆ มั่นคงขึ้น ก็จะค่อยๆ ละคลายกิเลส จนกว่าความเป็นเราจะค่อยๆ น้อยลง
จากการสนทนาธรรมที่มูลนิธิวันนี้ 17 สิงหาคม 2562