ฟังแล้วฟังอีก ฟังครั้งเดียวไม่พอ

 
nattawan
วันที่  29 ส.ค. 2567
หมายเลข  48374
อ่าน  98

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ฟังแล้วฟังอีก ฟังเพียงครั้งเดียวไม่สามารถรู้คุณของพระพุทธเจ้าได้ ฟังอีกๆ ๆ เพื่อจะรู้ว่าเข้าใจคำนั้นลึกซึ้งแค่ไหน และเริ่มรู้ว่านี่เป็นหนทางเดียวที่จะเข้าใจที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้แล้ว ... เมื่อมีความเข้าใจถูกต้อง ... ทุกคำสอดคล้องกัน ถ้าขัดแย้งกันคือไม่เข้าใจคำของพระองค์

จะเคารพลึกซึ้งมั่นคงขึ้นเมื่อเข้าใจตัวเองว่าเข้าใจคำของพระองค์ลึกซึ้งแค่ไหน เคารพสูงสุดเหมือนประทับที่นี่ ... ธรรมะเป็นพระธรรมกาย เคารพทุกคำจึงจะเริ่มรู้จักพระองค์ ข้ามไม่ได้แม้แต่คำเดียว เพราะทุกคำเป็นคำที่ตรัสเมื่อทรงตรัสรู้แล้ว ทุกคำลึกซึ้ง ... ต้องทีละคำ ไม่มีใครรู้ว่าทรงตรัสรู้สิ่งที่มีจริงทุกขณะ ... เปลี่ยนไม่ได้!!!

พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้สิ่งที่มีจริงซึ่งไม่มีใครสามารถรู้ได้เพราะลึกซึ้งอย่างยิ่ง เพราะฉะนั้นเริ่มฟังอีก ธรรมะลึกซึ้งลึกซึ้งจนใครภพไหนๆ ก็ไม่สามารถรู้ได้ด้วยตัวเอง

ทั้งหมดที่มีจริงเป็นธรรมะแต่ละหนึ่ง ... ไม่เคยขาดธรรมะเลยตั้งแสนโกฏกัปมาแล้ว ธรรมะก็ยังเกิดดับจนถึงขณะนี้ ถ้าไม่ฟังคำของพระองค์ จะไม่รู้เลยว่าขณะนี้สืบต่อมาจากแสนโกฏกัป

ไม่รู้มานานเท่าไหร่? ไม่สงสัยในคำว่าบรมโง่ จะไม่บรมโง่ได้ยังไง กำลังเห็นก็ไม่รู้ว่าเห็นเกิดแล้วดับ ไม่รู้ว่าไม่ต้องไปหาความจริงที่ไหน ความจริงเดี๋ยวนี้ สิ่งหนึ่งสิ่งใดมีความเกิดขึ้น สิ่งนั้นมีความดับไปเป็นธรรมดา ... รู้หรือยัง?

ถ่ายทอดสดสนทนาธรรม ภาษาไทย - เขมร
ณ The Institute of Foreign Languages (IFL)
CJCC, กรุงพนมเปญ กัมพูชา

วันพฤหัสบดีที่ 29 ส.ค. 67
ช่วงเช้า

🔵FB : www.facebook.com/share/v/BGkjfhs7HZzVpTPH

🔴YT : www.youtube.com/live/w0_pWoHeTO8

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
nattawan
วันที่ 29 ส.ค. 2567

ถ้าไม่รู้ว่าทุกคำของพระพุทธเจ้าคือสิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ ทรงไม่ได้ตรัสรู้สิ่งที่ไม่มี แต่ทรงตรัสรู้สิ่งที่มีทุกวัน เริ่มรู้จักธรรมะ เริ่มรู้ความลึกซึ้ง เริ่มเข้าใจการตรัสรู้ของพระองค์

ถ้าไม่ฟังคำของพระองค์และค่อยๆ เข้าใจขึ้น จะเป็นหนทางเข้าใจความจริงเดี๋ยวนี้ได้ไหม?? หนทางอื่นไม่มี ... ถ้าไม่ฟังคำของพระองค์เลย แล้วพยายามไปรู้ความจริง ... มีไหม??

ถ้าฟังคำของพระพุทธเจ้าแล้วไม่เห็นความลึกซึ้ง ไม่รู้ว่าเป็นธรรมะ เป็นอนัตตา ... เข้าใจคำของพระพุทธเจ้าและรู้จักพระองค์หรือเปล่า???

ถ้าไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้เป็นธรรมะเกิดแล้วดับ ... ต้องเข้าใจตั้งแต่ต้น ถ้าไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้สิ่งที่กำลังเกิดดับเป็นอะไร แล้วจะเข้าใจเดี๋ยวนี้ได้ไหม?

เริ่มเข้าใจสิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ทีละเล็กทีละน้อย เข้าใจความลึกซึ้ง ต้องอดทนที่จะฟังอีกมากกว่าจะเข้าใจทีละเล็กทีละน้อย ถ้าไม่ฟังคำของพระองค์ละเอียดขึ้น จะไม่รู้เลยว่าคืออะไร?

ทุกคนรู้ไหมว่าขณะกำลังฟังธรรมะเดี๋ยวนี้ ต้องมีความเพียรที่จะเข้าใจ ... ไม่ใช่ฟังไปเฉยๆ แต่ฟังเพื่อรู้ว่าสิ่งที่ได้ฟังกำลังมีเดี๋ยวนี้ เคยแต่ฟังเรื่องอื่นมาก คิดว่าเข้าใจทุกเรื่อง ถ้าไม่ฟังคำของพระพุทธเจ้า จะรู้ความจริงของสิ่งที่มีเดี๋ยวนี้ไหม???

เริ่มรู้จักวิริยะบารมีใช่ไหม?? ไม่ใช่เพียรทำอย่างอื่น แต่เพียรฟัง ไตร่ตรองเพื่อค่อยๆ เข้าใจขึ้น เริ่มเข้าใจความต่างกันของความเพียรในชีวิตประจำวัน และความเพียรที่เป็นวิริยะบารมี

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
nattawan
วันที่ 29 ส.ค. 2567

เริ่มรู้จักคำว่าบารมี เริ่มเข้าใจว่าถ้าไม่มีบารมีจะไม่เข้าใจธรรมะเดี๋ยวนี้ ... ถูกต้องไหม?? ถ้าถูกต้องก็เริ่มรู้ ... หนทางเดียวที่จะรู้ความจริง ถ้าไม่รู้สิ่งที่กำลังมี จะไม่สามารถรู้อะไรเลยทั้งสิ้น

พระพุทธเจ้าไม่ได้บอกให้เชื่อหรือให้ทำอะไร แต่ทุกคำที่ตรัสแล้วสามารถค่อยๆ เข้าใจให้รู้ความจริงได้ เพราะฉะนั้นเมื่อไม่เข้าใจว่าเดี๋ยวนี้เป็นธรรมะที่สามารถจะรู้ได้ ก็ไปทำอย่างอื่น มั่นคงหรือยังว่านอกจากฟังเดี๋ยวนี้ ค่อยๆ เข้าใจเดี๋ยวนี้ เป็นหนทางเดียวที่จะเข้าใจและรู้จักพระพุทธเจ้าได้!!!

เข้าใจแน่นอนจริงๆ ไหมว่า นี่คือหนทางเดียว??? ต้องฟังจนเข้าใจสิ่งที่ปรากฏเดี๋ยวนี้!!! ขณะใดที่เข้าใจมีสติเกิดร่วมด้วย เดี๋ยวนี้ที่เข้าใจไม่ใช่เรา แต่เป็นธรรมะทั้งหมดที่ดีงาม!!!

ปัญญาเท่านั้นที่ตรงต่อความเป็นจริง

ถ้าพระพุทธเจ้าไม่ได้ทรงแสดงโทษของความเห็นผิด ใครจะเห็นคุณของพระองค์ที่ทำให้พ้นจากความเห็นผิดได้ ซึ่งความเห็นผิดมีโทษมาก ... นอกจากต่อตนเองแล้ว เมื่อกล่าวให้ผู้อื่นเข้าใจผิด ... มีโทษมากแค่ไหน!!!นอกจากทำร้ายตนเองให้มืด ไม่เข้าใจความจริง ยังทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดไปด้วย

ชีวิตสั้นมาก ไม่มีใครรู้ว่าจะอยู่อีกนานเท่าไหร่ ถ้ายังมีความเห็นผิดต่อไป ... โทษแค่ไหน ... หนักหนาที่สุดคือไม่สามารถออกจากสังสารวัฏได้เลย

ต้องตรงต่อทุกคำที่พระพุทธเจ้าตรัส เพราะทรงตรัสรู้ความจริง จึงทรงพระมหากรุณาให้ผู้อื่นได้รู้ความจริงด้วย 45 พรรษา เช้า สาย บ่าย ค่ำ ดึกเทวดามาเฝ้า เพราะฉะนั้นทุกคนที่ได้รู้ความจริงเบิกบาน เพราะไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะทุกอย่างเป็นธรรมะ ... ไม่ใช่เรา!!!

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
nattawan
วันที่ 29 ส.ค. 2567

ถ้าเห็นผิดตั้งแต่ต้น เป็นเราทำทุกอย่าง ไม่ใช่เป็นธรรมะ ไม่ใช่อนัตตา ไม่ใช่ "สัพเพ ธรรมา อนัตตา" ตามที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้

ขณะกำลังฟังคำของพระพุทธเจ้าเสมือนได้ฟังธรรมจากพระโอษฐ์ขณะที่ประทับต่อหน้า ทุกครั้งที่ได้ฟังแล้วเคารพสูงสุดเหมือนพระองค์ประทับต่อหน้า

เคารพพระปัญญาคุณ พระบริสุทธิคุณ พระมหากรุณาคุณสูงสุด เมื่อฟังคำของพระองค์แล้วเข้าใจ

การฟังธรรมะคือคำของผู้ทรงตรัสรู้ ... เป็นมงคลที่ได้ฟังสิ่งที่ไม่เคยฟัง แต่กำลังมีขณะนี้ให้เข้าใจได้ถูกต้อง แต่พระธรรมลึกซึ้งสุดที่จะประมาณได้ ... เมื่อฟังแล้วประโยชน์คือมีการสนทนาธรรม เพราะธรรมะลึกซึ้งอย่างยิ่งโดยนัยต่างๆ ผู้เคารพจึงฟังเพื่อดำรงรักษาให้มั่นคงต่อไป!!!

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
chatchai.k
วันที่ 29 ส.ค. 2567

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
nattawan
วันที่ 30 ส.ค. 2567

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ