ในที่สุดก็ต้องถึงกาลที่จะต้องแตกสลาย
เวลาที่ได้ข่าวคนสิ้นชีวิต ทุกคนก็คงจะบางครั้งตกใจ ไม่คาดฝัน บางครั้งก็รำพัน หรือเป็นทุกข์เศร้าหมอง หม่นหมอง ขณะนั้นอโยนิโสมนสิการ เป็นอกุศล ไม่เป็นประโยชน์เลย
สิ่งที่เคยยึดถือว่าเป็นเรา หรือเป็นเขา ในที่สุดก็ต้องถึงกาลที่จะต้องแตกสลาย แล้วก็กลายสภาพเป็นกองกระดูกหรือเถ้าถ่าน ซึ่งเป็นความจริงที่ทุกคนประสบอยู่ แต่สำหรับผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ ก็ควรที่จะได้สติจากการตายซึ่งท่านได้รับทราบเวลาที่เมื่อมีการสิ้นชีวิตของบุคคลหนึ่งบุคคลใด ควรพิจารณาจิตในขณะนั้นว่า ในขณะที่กำลังได้ทราบข่าว ได้ทราบข่าวนั้น จิตเป็นกุศลหรือเป็นอกุศล
ให้ทุกอย่างเป็นเรื่องของสติปัญญาที่จะระลึกได้ ในขณะนั้นถ้าสติเกิด ก็จะรู้ว่าโยนิโสมนสิการนั้นคืออย่างไร และอโยนิโสมนสิการนั้นคืออย่างไร แต่ถ้าสติไม่เกิด ไม่สามารถที่จะรู้ได้เลย
เวลาที่ได้ข่าวคนสิ้นชีวิต ทุกคนก็คงจะบางครั้งตกใจ ไม่คาดฝัน บางครั้งก็รำพัน หรือเป็นทุกข์เศร้าหมอง หม่นหมอง ขณะนั้นอโยนิโสมนสิการ เป็นอกุศล ไม่เป็นประโยชน์เลย
เพราะฉะนั้นถ้าสติเกิดระลึกได้ในขณะนั้น ก็รู้ว่าเป็นสภาพธรรมอย่างหนึ่ง ความโศกเศร้า ความอาลัยอาวรณ์ ความเสียใจ ไม่มีประโยชน์อย่างใดทั้งสิ้น แต่ที่ควรจะเป็น คือ ควรที่จะเบิกบานใจที่มีโอกาสเข้าใจพระธรรม และได้เห็นว่าพระธรรมที่ทรงแสดงนั้นเป็นสัจจธรรม แทนที่จะเศร้าโศกเสียใจก็ควรที่จะได้รับประโยชน์จากทุกสิ่งทุกอย่างที่ไม่เที่ยง และเป็นอนัตตา
รับฟังเพิ่มเติม ...