จะตัดสินอย่างไร โดยไม่มี อคติ

 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่  3 ต.ค. 2567
หมายเลข  48612
อ่าน  257

“..บุคคลใดประพฤติล่วงธรรม เพราะความชอบกัน เพราะความชังกัน เพราะความกลัว เพราะความเขลา ยศของบุคคลนั้นย่อมเสื่อม เหมือนดวงจันทร์ข้างแรม ฉะนั้น…”

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒ - หน้า 48

๗. ปฐมอคติสูตร

ว่าด้วยความลำเอียง ๔

[๑๗] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความลำเอียง ๔ ประการนี้ ความลำเอียง ๔ คืออะไร คือลำเอียงเพราะชอบกัน ลำเอียงเพราะชังกัน ลำเอียงเพราะเขลา ลำเอียงเพราะกลัว ภิกษุทั้งหลาย นี้แลความลำเอียง ๔ ประการ

บุคคลใดประพฤติล่วงธรรม เพราะความชอบกัน เพราะความชังกัน เพราะความกลัว เพราะความเขลา ยศของบุคคลนั้นย่อมเสื่อม เหมือนดวงจันทร์ข้างแรม ฉะนั้น.

จบปฐมอคติสูตรที่ ๗


อรรถกาปฐมอคติสูตร

พึงทราบวินิจฉัยในปฐมอคติสูตรที่ ๗ ดังต่อไปนี้ :-

บทว่า อคติคมนานิ ได้แก่ ความลำเอียง. บทว่า ฉนฺทาคตึ คจฺฉติ ความว่า บุคคลลำเอียงเพราะชอบกัน คือทำสิ่งที่ไม่ควรทำ. แม้ในบทที่เหลือก็นัยนี้แล.

บทว่า ฉนฺทา โทสา ภยา โมหา ความว่า บุคคลลำเอียงเพราะชอบกัน เพราะชังกัน เพราะกลัว เพราะเขลา. บทว่า อติวตฺตติ ได้แก่ ละเมิดธรรม.

จบอรรถกถาปฐมอคติสูตรที่ ๗


- เหตุใดพระโสดาบันจึงไม่ล่วงอคติ 4


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 3 ต.ค. 2567

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ