การรับประทานมังสวิรัติ
ถาม : การรับประทานมังสวิรัติ และการกินเจนั้นจำเป็นแค่ไหน ถ้าไม่รับประทานอาหารมังสวิรัติ จะทำให้ศีลบริสุทธิ์ได้หรือไม่
ตอบ : พระผู้มีพระภาคทรงเสวยเนื้อ เพราะว่ากลิ่นดิบ ไม่ใช่กลิ่นเนื้อ กลิ่นปลา แต่กลิ่นดิบเป็นกลิ่นของกิเลส ขณะนี้ทุกคนไม่ได้กลิ่นกิเลสเลยคือไม่รู้ว่ากิเลสเป็นสภาพธรรมที่น่ารังเกียจ ฉะนั้น ผู้ที่บริโภคเนื้อ โดยอบรมเจริญปัญญาดับกิเลสเป็นสมุจเฉท เช่น พระผู้มีพระภาคและพระอรหันต์ทั้งหลายจึงไม่มีกิเลส ไม่มีกลิ่นดิบ ดังนั้น ควรรังเกียจกลิ่นกิเลส ไม่ใช่รังเกียจกลิ่นของเนื้อสัตว์
จากหนังสือ บทบาท อ.สุจินต์ ในการเผยแผ่พุทธธรรม
โดย พระธนนาถ นิธิปญฺโญ
ที่ถามว่าการรับประทานอาหารมังสวิรัติ และการกินเจนั้น จำเป็นแค่ไหนก็ย่อมแล้วแต่บุคคลบางท่านบริโภคแล้วสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี ก็พอใจที่จะบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพร่างกาย แต่ต้องพิจารณากิเลสในขณะที่กำลังกินเจหรืออาหารมังสวิรัติว่ารู้สึกติดพอใจในรสอร่อยไหม ความติด ความพอใจนั้นแหละเป็นกลิ่นดิบแล้ว ฉะนั้น จึงต้องพิจารณาธรรมโดยละเอียดจริงๆ ไม่ใช่พิจารณาเพียงอาการที่ปรากฏภายนอกเท่านั้น
และที่ถามว่า ถ้าไม่กินเจจะทำให้ศีลบริสุทธิ์หรือไม่นั้น
ตอบว่า ได้ เมื่อพิจารณาจิตและสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ เพื่อรู้ชัดในสภาพธรรมทั้งหลายตามความเป็นจริง
บางคนกินเจ แต่ก็ยังล่วงศึล ๕ เช่น พูดเท็จ ตบยุง ฯลฯ เพราะฉะนั้น กิเลสไม่ได้ลดลงเลย กิเลสจะลดลงได้ด้วยปัญญาค่ะ
เคยพิจารณาไหมว่าทำไม ... ต้องทำอาหารเจเลียนแบบเนื้อสัตว์
เพราะสภาพที่ติดข้องเกิดกับจิตใดก็ตาม จิตนั้นก็ต้องมีชาติเป็นอกุศลครับ
การกินมังสวิรัติหรือเจนั้นเพราะเหตุและปัจจัยแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน ความมุ่งมั่นที่จะละคลายกิเลสนั้นสำคัญกว่า
ได้อ่านประวัติท่านเจ้าคุณนรแล้วทึ่ง ได้รับอานิสงส์จากการอ่านครั้งนั้น เพราะกิเลสมีมากหรือประมาณหากจะละในสิ่งที่พอละได้ น่าจะเป็นปัจจัยที่ดี การจะละตัวตนมิใช่เรื่องง่าย ถ้าเหตุปัจจัยไม่ถึงพร้อม
ศีลจะบริสุทธิ์ได้ ไม่อยู่ที่กินเนื้อสัตว์หรือกินเจ กิเลสที่อยู่ภายใน จะหมดไปได้ด้วยปัญญาเท่านั้น ไม่สามารถหมดไปได้ด้วยการกินเจ จึงต้องอบรมเจริญปัญญาเพื่อขัดเกลากิเลส
ขออนุโมทนาค่ะ