Thai-Hindi-Nepali 12 October 2024

 
prinwut
วันที่  12 ต.ค. 2567
หมายเลข  48691
อ่าน  203

Thai-Hindi-Nepali 12 October 2024


- ขณะที่มีความดีเกิดขึ้นเป็นอะไร ใครจะเริ่มก่อนถามเป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาฮินดีก็ได้ (คุณปายาลอยากรู้จักบารมี) คุณความดีทุกอย่างเป็นบารมีไหม (คุณโซฮานตอบว่า เป็นบารมี) ถ้าปราศจากความเข้าใจถูกเป็นบารมีไหม (ไม่เป็น) เพราะฉะนั้นต้องเข้าใจก่อนว่า บารมีคืออะไร

- ถ้าไม่มีปัญญา ความดีทุกอย่างไม่ใช่บารมี ต้องเข้าใจบารมีว่าคืออะไรและเพื่ออะไร ถ้าปราศจากความเข้าใจความจริงเดี๋ยวนี้ เริ่มเข้าใจความจริงที่มีขณะนี้ ถ้าเห็นไม่เกิดจะมีเห็นขณะนี้ไหม (ไม่มี) เห็นเกิดขึ้นไม่มีใครทำให้เกิดได้เลย ทันทีที่มีปัจจัยให้เห็นเกิด เห็นก็ดับไปทันที

- เห็นไม่ได้เกิดขึ้นตลอดเวลา แต่มีเห็นเมื่อเห็นเกิดขึ้น จริงไหม (จริง) รู้เห็นได้ไหม (สามารถรู้ได้) ใครรู้ (พระอรหันต์ ปัญญา) คำตอบแรกคือพระอรหันต์ และมีผู้ตอบว่า ปัญญา

- อะไรคือความต่างของปัญญาและพระอรหันต์ มิฉะนั้นก็เป็นการกล่าวโดยที่ไม่เข้าใจอะไรเลย เมื่อกล่าวว่า พระอรหันต์เกิดขึ้นแล้วดับไปและกล่าวว่า ปัญญาเข้าใจความจริง (ปัญญารู้ทุกอย่างเพราะปัญญาเข้าใจทุกอย่าง เพราะฉะนั้นถ้าไม่มีปัญญาก็ไม่มีพระอรหันต์ ไม่มีพระโสดาบัน ไม่มีพระสกทาคามี)

- เพราะฉะนั้นสามารถประจักษ์แจ้งเห็นที่กำลังมีขณะนี้ได้ไหม (ยังไม่สามารถ) ยังแต่รู้ได้ไหม (สามารถรู้ได้) ถ้าไม่มีความเข้าใจความจริงทีละเล็กทีละน้อยจะประจักษ์แจ้งได้ไหม (ไม่ได้) แน่ใจไหม (แน่ใจ) นั่นคือ สัจจบารมี มีความมั่นคงในความจริงว่า สิ่งที่มีจริงสามารถรู้ได้ ไม่ว่าจะนานแค่ไหน แต่ความเข้าใจถูกทีละน้อยค่อยๆ สะสมไป ค่อยๆ ละความเห็นผิดว่า เป็นเราเห็น จนประจักษ์แจ้งจนกระทั่งเป็นบารมี ไม่ใช่เพียงขณะเดียวและไม่สนใจว่าจะกี่ขณะแต่ปัญญาเจริญขึ้นจนถึงระดับนั้น เพราะฉะนั้นถ้าไม่มีความเข้าใจถูกจะเป็นบารมีได้อย่างไร

- ไม่มีใครสามารถมีบารมีได้โดยไม่มีปัญญา อกุศลเข้าใจความจริงได้ไหม มีความเข้าใจเห็นขณะนี้เพียงเล็กน้อยจะสามารถประจักษ์แจ้งความจริงของสภาพธรรมที่เกิดดับได้ไหม

- เพราะฉะนั้นไม่เพียงสัจจะบารมีแต่ต้องมีความเพียรเป็นวิริยะบารมีด้วย ไม่ว่าจะอยู่สถานการณ์ใดๆ ก็ตาม ก็สามารถเป็นปัจจัยให้เกิดปัญญาที่จะเข้าใจความจริงได้ว่า ไม่มีใคร ไม่มีอะไร มีเพียงเห็น ๑ ขณะเท่านั้น

- เพราะฉะนั้นในขณะที่มีความเข้าใจสภาพธรรมเป็นความมั่นคงที่เป็นอธิษฐานบารมีที่มั่นคงในความจริง เพราะฉะนั้นมีข้อสงสัยหรือมีคำถามเกี่ยวกับบารมีไหม

- บารมีมีเท่าไหร่ (มี ๑๐) อะไรเป็นบารมีแรก (ทาน) ทานบารมีหมายความว่าอะไร (หมายถึงกุศลที่เป็นทาน) ไม่ใช่ เพราะว่าต้องมีความเข้าใจถูกด้วย

- ตราบใดที่ยังมีความยึดถือในความเป็นตัวตนหรือยืดถือสิ่งหนึ่งสิ่งใดจะไม่มีการสละให้ได้เลย แต่ขณะที่คิดเห็นใจผู้อื่นที่ต้องการความช่วยเหลือ สามารถสละความติดข้อง สละวัตถุสิ่งของให้ผู้อื่นได้

- เพราะฉะนั้นสามารถสละสิ่งของให้ผู้อื่นได้ไหม (คุณปรียาตอบว่า อะไรที่ติดข้องมากเราก็ไม่สามารถสละสิ่งนั้นได้ เช่น อาหาร เมื่อทำอาหารที่ชอบมาก ก็ไม่สามารถแบ่งให้คนอื่นได้แม้จะมีมาก) ไม่มีเรา ไม่มีใคร มีเพียงกุศลที่เป็นปัจจัยให้สละได้ในขณะนั้น ใช่ไหม เพราะฉะนั้นฟังเพื่อเข้าใจว่า ขณะใดเป็นกุศล ขณะใดเป็นอกุศล ตามเหตุตามปัจจัย


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
prinwut
วันที่ 12 ต.ค. 2567

- ต้องเป็นปัจจัยที่จะเป็นไปในขณะที่ให้หรือขณะที่ไม่ให้ ถ้าไม่เข้าใจความจริงว่าให้อะไร สิ่งที่ถูกให้คืออะไร เป็นไปตามเหตุปัจจัย เป็นไปตามกรรมที่เป็นปัจจัยให้บางคนร่ำรวย บางคนมีสิ่งของมากมายที่จะให้ ทั้งหมดเป็นไปตามการสะสม

- มีทาน ๓ อย่าง ให้วัตถุสิ่งที่เป็นประโยชน์กับผู้อื่นเป็น “อามิสทาน” เพราะฉะนั้นวัตถุสิ่งของที่ให้คนอื่นเป็นอามิสทาน (คุณปรียาเข้าใจเพียงเล็กน้อย ขอความเข้าใจเพิ่ม) เพราะฉะนั้นมีการสละวัตถุสิ่งของให้ไป ขณะที่ให้ไม่มีความเข้าใจว่าอะไรมีจริงในขณะที่ให้ ก่อนสภาพธรรมจะปรากฏดีต้องมีการอบรมเจริญขึ้นของปัญญาที่เข้าใจสภาพธรรมแต่ละหนึ่งแต่ละขณะ

- จิตเกิดขึ้นแล้วดับไปอย่างรวดเร็ว ถ้าไม่มีความเข้าใจที่ค่อยๆ เข้าใจขึ้นในสภาพธรรมที่มีตามความเป็นจริง ไม่มีใครสามารถรู้ได้ว่าขณะนั้นเป็นกุศลหรือเป็นอกุศล

- ความจริงสามารถรู้ได้ขณะนี้ เดี๋ยวนี้เป็นกุศลหรือเป็นอกุศล (คุณปายาลตอบว่า (เป็นกุศลเพราะกำลังสนทนาธรรมกับท่านอาจารย์) ไม่มีอกุศลเลยหรือ (มีอกุศลด้วยเพราะยังมีความติดในคำของพระพุทธเจ้าดังนั้นการติดข้องจึงเป็นอกุศล)

- ความเข้าใจขั้นนี้ซึ่งเป็นความเข้าใจอริยสัจจะรอบที่ ๑ ที่เริ่มเข้าใจอริยสัจจะเริ่มเป็นบารมี ถ้าไม่ฟัง ไม่ไตร่ตรองก็จะไม่มีความเข้าใจพระคุณสูงสุดของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

- ถ้ามีคนให้เงินมากมายแลกกับไม่ให้ศึกษาธรรม จะทำอย่างไร (คุณปรียากล่าวว่า ถ้ามีความเข้าใจก็ไม่รับเงินและบอกคนที่เสนอเงินให้ว่า คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นคำที่ทำให้เข้าความจริง) นี่เป็นบารมี ไม่สงสัยในความเป็นบารมี

- และถ้ามีคนบอกว่า ถ้าไม่เลิกศึกษาธรรมจะถูกฆ่า จะเลิกศึกษาธรรมไหม (แม้จะมีความเข้าใจบ้างแต่ยังมั่นคงว่าเป็นธรรม ยังต้องเข้าใจเพิ่ม) เพราะฉะนั้นจะศึกษาธรรมต่อหรือเลิกศึกษา (ไม่เลิกศึกษา) แม้มีคนบอกว่าจะฆ่า (ใช่) นั่นเป็นบารมี เป็นบารมีขั้นสูงสุด

- การอบรมบารมีต้องเป็นไปตามลำดับ อุปบารมีก็ยังไม่ใช่ขั้นสูงสุด เพราะฉะนั้นเข้าใจคุณค่าของปัญญาเพราะอยู่ในโลกมานานแสนนานด้วยความไม่รู้ในสิ่งที่กำลังมีและยิ่งกว่านั้นต้องอยู่ต่อไปอีกนานแสนนานในสังสารวัฏฏ์ตามเหตุตามปัจจัยเหมือนที่แล้วมา

- มีบารมีที่เกิดพร้อมกันอีกไหมนอกจากวิริยะบารมี ขันติบารมี เนกขัมมะบารมี สัจจะบารมี อธิษฐานบารมี มีเกิดพร้อมกันทั้งหมดค่อยๆ สะสมอบรมต่อไปเพื่อเข้าใจความจริงเดี๋ยวนี้

- เพราะฉะนั้น บารมีไม่ใช่มีไว้เพียงเพื่อเข้าใจคำและความหมายแต่เพื่อสะสมอบรมให้มีเพิ่มขึ้นเพราะขณะที่มีค่ายิ่งเป็นบารมี มีข้อสงสัยเกี่ยวกับทานบารมีที่เป็นอามิสทานไหม (คุณปายาลยังสงสัยอธิษฐานบารมี)

- ขณะนี้เราสนทนาบารมีแรกคือ ทานบารมี มีข้อสงสัยไหม (ไม่มี) เพราะฉะนั้นเราสนทนาทานบารมีต่อที่เป็นอภัยทาน อภัยทานคืออะไร คือการให้อภัย ให้ความไม่เป็นภัยกับผู้อื่น เป็นการให้ความไม่มีภัยกับผู้ที่ทำไม่ดี ไม่มีความมุ่งร้ายใดๆ เลย ไม่ว่าทางกาย ทางวาจา หรือทางใจ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
prinwut
วันที่ 12 ต.ค. 2567

- ยากไหมที่จะให้อภัย (ยากมากที่จะให้อภัยผู้อื่นเมื่อเราโกรธ) แต่เข้าใจว่า มีโทษมาก ไม่มีใครทำร้ายใครได้แต่เป็นกิเลส เป็นความไม่รู้ของผู้นั้นเองที่ทำร้ายตน ยากกว่าบารมีแรกที่ให้สิ่งของไหม และสิ่งนี้มีค่าอย่างยิ่งเพราะเป็นคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งไม่ทำร้ายหรือเป็นโทษกับผู้ใดเลย

- และการที่จะเคารพพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสูงสุดคือ เข้าใจคำของพระองค์และประพฤติตาม มิฉะนั้นคำของพระองค์ก็ไร้ประโยชน์ เพราะไม่มีใครเข้าใจและประพฤติตามได้

- เพราะฉะนั้นคุณความดีทุกประการที่เกิดขึ้นเป็นพยานว่า คำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้ามีจริง ใช่ไหม (ใช่) มีใครประพฤติตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไหม เพราะฉะนั้น ไม่มีใคร มีเพียงความเข้าใจถูกที่เป็นหนทาง ไม่มีวันที่จะเห็นผิดหรือประพฤติผิดเมื่อมีความเข้าใจถูกว่า ไม่มีเรา ไม่มีใคร มีเพียงธรรมต่างๆ กันที่เกิดขึ้นตามเหตุปัจจัย

- เริ่มไตร่ตรองว่าอะไรดีกว่ากัน ไม่ให้อภัยหรือให้อภัย (ให้อภัย) ไม่ใช่ให้อภัยด้วยความเป็นตัวตนแต่ให้อภัยเพราะเข้าใจถูกเท่านั้น และนี่เป็นรอบแรก ทานอีกประการหนึ่งคือ ธรรมทาน การให้ที่ดีที่สุดคือให้ความเข้าใจธรรม ไม่ว่าจะร่ำรวยแค่ไหน มีชื่อเสียง มีฐานะสูงส่งอย่างไร แต่ละขณะก็เกิดดับไม่กลับมาอีกเลย แต่ความเข้าใจสะสมอบรมจนกระทั่งถึงขั้นที่สามารถที่จะละอกุศลทุกประการได้

- ความเข้าใจธรรมเป็นบารมี เมื่อเข้าใจแล้วก็ช่วยเหลือแบ่งปันให้ผู้อื่นได้เข้าใจด้วยก็เป็นบารมี เป็นธรรมทาน เพราะฉะนั้นทุกคนสามารถแบ่งปันธรรมให้ผู้อื่นได้เมื่อถึงเวลาที่สมควร ดำเนินตามหนทางที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงดำเนินมาแล้วคือ ตั้งแต่ตรัสรู้ความจริงจนถึงปรินิพพาน มิฉะนั้นแล้วผู้นั้นจะข้ามพ้นจากเหวลึกของอกุศลได้อย่างไร

- เพราะฉะนั้นบารมีไม่ใช่เพียงเข้าใจว่า ขณะนั้นเป็นอะไรแต่เป็นขณะที่บารมีทั้งหมดสามารถเกิดขึ้นไปเมื่อมีปัญญา เพราะฉะนั้นบารมีทุกประการจะเกิดขึ้นได้เมื่อถึงเวลาที่ปัญญาเป็นปัจจัยให้ขณะนั้นเป็นบารมี

- เพราะฉะนั้นขณะนี้เป็นบารมีไหม (เป็นบารมี) เป็นบารมีอะไรในบารมี ๑๐ (ดิพยาตอบว่า วิริยะบารมี) และ (สัจจะบารมี) และ (ขันติบารมี) และ (ปัญญาบารมี เมตตาบารมี) เห็นไหม ขึ้นอยู่กับขณะนั้นเอง เพราะฉะนั้นปัญญาบารมีเข้าใจถูกในความจริงที่กำลังมีเพื่อละความไม่รู้และความติดข้องและละอกุศลทุกประการ และมีการแบ่งปันธรรมให้กับผู้อื่นเป็นธรรมทานบารมี

- ขณะที่เข้าใจถูกความจริงของบารมีเป็นความเข้าใจทุกๆ บารมีด้วย มีคำถามไหม (สับสนในคำว่า อามิสทานกับอธิษฐาน) อธิษฐานคือ มั่นคงมั่นคงไหมในผลของอภัยทานการให้อภัย (มั่นคง) เพราะฉะนั้นเป็นอธิษฐานบารมีเป็นความมั่นคงในความเป็นธรรมที่จะเป็นปัจจัยปรุงแต่งให้เกิดการให้อภัยได้ต่อไป

- เพราะฉะนั้นขณะที่โกรธเกิด มั่นคงไหมที่จะให้อภัย เพราะสะสมที่จะโกรธนานไม่ลืม จะมีขณะที่ปัญญาเกิดขึ้นให้อภัยได้ไหม เพราะฉะนั้นต้องอาศัยความมั่นคงอธิษฐานบารมี ไม่ลืมเลย

- เห็นพระมหากรุณาคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ทรงแสดงธรรม ๔๕​ พรรษาทุกนัยทุกประการของธรรมเพื่อใครก็ตามที่ได้ฟังสามารถที่จะไตร่ตรองพิจารณาจนกระทั่งมีความเข้าใจมั่นคงขึ้น ไม่เพียงแต่เข้าใจแต่เป็นปัจจัยปรุงแต่งให้ประพฤติตามเป็นสัจจะบารมี ไม่ใช่เพียงเข้าใจแต่ประพฤติตามด้วยความเข้าใจเท่าที่จะเข้าใจได้และนั่นเป็นสัจจะ เป็นความมั่นคง อธิษฐาน ไม่เปลี่ยนเลย ประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมคำสอนด้วยความเคารพเพราะเห็นประโยชน์สูงสุดในทุกคำของพระองค์

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 12 ต.ค. 2567

ความเข้าใจธรรมเป็นบารมี เมื่อเข้าใจแล้วก็ช่วยเหลือแบ่งปันให้ผู้อื่นได้เข้าใจด้วยก็เป็นบารมี เป็นธรรมทาน เพราะฉะนั้นทุกคนสามารถแบ่งปันธรรมให้ผู้อื่นได้เมื่อถึงเวลาที่สมควร ดำเนินตามหนทางที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงดำเนินมาแล้วคือ ตั้งแต่ตรัสรู้ความจริงจนถึงปรินิพพาน มิฉะนั้นแล้วผู้นั้นจะข้ามพ้นจากเหวลึกของอกุศลได้อย่างไร


กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ที่เคารพยิ่ง
ยินดีในกุศลของน้องๆ ชาวเนปาลทุกๆ ท่านที่ร่วมสนทนา

ขอบพระคุณและยินดีในกุศลวิริยะของพี่ตู่ ปริญญ์วุฒิ อย่างยิ่ง
ที่แปลคำสนทนาของท่านอาจารย์ซึ่งเป็นประโยชน์ที่สุดครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
prinwut
วันที่ 12 ต.ค. 2567

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ที่เคารพอย่างสูง

กราบขอบพระคุณอาจารย์คำปั่นในความอนุเคราะห์ตรวจทานคำแปล

ยินดีในกุศลของน้องๆ ชาวเนปาลและผู้ร่วมสนทนาทุกท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
chatchai.k
วันที่ 13 ต.ค. 2567

พระมหากรุณาคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ทรงแสดงธรรม ๔๕​ พรรษาทุกนัยทุกประการของธรรม เพื่อใครก็ตามที่ได้ฟัง สามารถที่จะไตร่ตรองพิจารณาจนกระทั่งมีความเข้าใจมั่นคงขึ้น

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ