สมุฏฐานที่จะให้เกิดรูป
ต้นไม้ใบหญ้าที่มองดูสด ก็เพราะ ธาตุไฟ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ซึ่งมีส่วนประกอบต่างๆ กันไป ทำให้มีการเจริญเติบโตขึ้น แต่ไม่ใช่ว่ามีชีวิตินทริยรูปที่จะทำให้เป็นรูปที่ดำรงชีวิตหรือทรงชีวิตเหมือนอย่างรูปของสิ่งที่มีชีวิต เช่น คนและสัตว์
สำหรับกลาป คือ กลุ่มของรูปที่เล็กที่สุด มีรูปรวมกันไม่น้อยกว่า ๘ รูป ไม่ว่าจะเล็กที่สุดที่มีอากาศธาตุคั่นซึ่งแยกออกไปอีกไม่ได้ก็จะต้องมีรูปรวมกัน ๘ รูป เรียกว่า สุทธัฏฐกกลาป
รูป ๘ รูป คือ ธาตุดิน ๑ ธาตุน้ำ ๑ ธาตุไฟ ๑ ธาตุลม ๑ เป็นมหาภูตรูป ๔ และอุปาทายรูปอีก ๔ คือ สี ๑ กลิ่น ๑ รส ๑ โอชา ๑ รวม ๘ รูป ไม่มีรูปอื่นเจือปนอีกเลย จึงเป็นสุทธัฏฐกกลาป
สุทธัฏฐกกลาป กลุ่มของรูปที่เล็กที่สุด ๘ รูปนี้ บางกลาปเกิดขึ้นเพราะจิต บางกลาปเกิดขึ้นเพราะอุตุ และบางกลาปเกิดขึ้นเพราะอาหาร เป็นสมุฏฐาน
สำหรับสมุฏฐานที่จะให้เกิดรูป มีเพียง ๔ เท่านั้น คือ กรรมเป็นสมุฏฐานให้เกิด รูปได้ จิตเป็นสมุฏฐานให้เกิดรูปได้ อุตุเป็นสมุฏฐานให้เกิดรูปได้ อาหารเป็นสมุฏฐานให้เกิดรูปได้ แต่สุทธัฏฐกกลาปซึ่งมีรูปรวมกัน ๘ รูปนี้ เกิดจากสมุฏฐาน ๓ เท่านั้น ได้แก่ บางกลุ่มหรือบางกลาปเกิดจากจิต บางกลุ่มหรือบางกลาปเกิดจากอุตุ บางกลุ่มหรือบางกลาปเกิดจากอาหาร เพราะถ้าเป็นรูปที่เกิดจากกรรม จะมีรูปมากกว่า ๘ รูปเสมอ คือ จะต้องเพิ่มชีวิตินทริยรูป
เพราะฉะนั้น รูปที่เกิดจากกรรม อย่างน้อยที่สุดต้องมี ๙ รูป ชื่อว่า ชีวิตนวกกลาป เพราะว่าเพิ่มชีวิตรูปอีก ๑ รูป
สำหรับสุทธัฏฐกกลาป ถ้ากล่าวอย่างนี้ก็ทราบว่า เป็นกลุ่มของรูปซึ่งมีรูปเพียง ๘ รูป สมุฏฐานยังไม่ต้องพูดถึงก็ได้ ถ้ากล่าวเพียงว่า สุทธัฏฐกกลาป เป็นกลุ่มของรูปที่มีรูปรวมกัน ๘ รูป เกิดจากจิตก็มี เกิดจากอุตุก็มี เกิดจากอาหารก็มี
ถ้าเกิดจากจิต ตัวอย่างได้แก่ ลมหายใจ น้ำตา เหงื่อ น้ำลาย น้ำมูก นี่เป็นกลุ่มของรูปเพียง ๘ รูป ซึ่งเกิดจากจิตเป็นสมุฏฐาน
สำหรับน้ำตา หรือเหงื่อ น้ำลาย น้ำมูก นอกจากเกิดจากจิตเป็นสมุฏฐานแล้ว ยังเกิดจากอุตุเป็นสมุฏฐานได้ด้วย บางครั้งรู้สึกโทมนัสเสียใจ ร้องไห้ แต่เวลานี้ น้ำตาไม่มี เพราะว่าความรู้สึกโทมนัสไม่มี จิตขณะนี้ไม่เป็นปัจจัยทำให้น้ำตาเกิดขึ้น แต่เวลาที่โทสมูลจิตเกิด มีความรู้สึกโทมนัสอย่างมาก ขณะนั้นเป็นปัจจัยให้กลุ่มของรูป คือ สุทธัฏฐกกลาปที่เป็นน้ำตาเกิดขึ้น ประกอบด้วยรูปเพียง ๘ รูป เหงื่อก็มีรูปเพียง ๘ รูปเกิดขึ้นเพราะจิต เวลาตกใจมากบางคนอาจจะเหงื่อออกมากก็ได้ หรือว่าน้ำลาย บางคนอาจจะมีน้ำลายออกบางครั้งบางคราวเพราะจิตในขณะนั้นเป็นสมุฏฐานเป็นปัจจัยให้น้ำลายเกิดขึ้น เป็นกลุ่มของรูปซึ่งประกอบด้วยรูป ๘ รูป น้ำมูกก็เกิดขึ้นเพราะจิตเป็นสมุฏฐาน หรืออุตุเป็นสมุฏฐาน
แต่สำหรับปัสสาวะ อุจจาระ หรือน้ำหนอง น้ำมูก เกิดขึ้นเพราะอุตุเป็นสมุฏฐาน ไม่มีใครไปแปรเปลี่ยนสภาพของอาหารที่ล่วงลำคอเข้าไปเป็นอาหารใหม่ และจะกลายเป็นอาหารเก่า และส่วนเกินก็อาจจะเป็นน้ำหนอง น้ำมูตร เป็นปัสสาวะ เป็นเรื่องของอุตุทั้งนั้น ที่จะเป็นสมุฏฐานให้รูปเหล่านี้เกิดขึ้น
สำหรับอาหารที่รับประทานเข้าไป ก็เป็นปัจจัยทำให้เกิดกลุ่มของรูป ๘ รูป เช่น ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง ส่วนต่างๆ ของร่างกายทั้งหมดนอกจากนี้ ก็เกิดขึ้นเพราะอาหารเป็นสมุฏฐาน
ฉะนั้น ถ้าจำแนกแยกรูปต่างๆ เหล่านั้นออกให้ละเอียดที่สุด จะมีรูปเพียง ๘ รูปเท่านั้น ชื่อว่าสุทธัฏฐกกลาป เกิดขึ้นเพราะจิตเป็นสมุฏฐานบ้าง เกิดขึ้นเพราะ อุตุเป็นสมุฏฐานบ้าง เกิดขึ้นเพราะอาหารเป็นสมุฏฐานบ้าง
แต่ถ้ากลุ่มของรูปใดเกิดเพราะกรรม ต้องมีรูปมากกว่า ๘ รูป เพราะต้องมี ชีวิตินทริยรูปเกิดร่วมด้วย ทำให้กลุ่มของรูปนั้นมีรูป ๙ รูป ชื่อว่านวกกลาป และ เพราะว่ามีชีวิตินทริยรูปเกิดร่วมด้วย จึงชื่อว่า ชีวิตนวกกลาป
เพราะฉะนั้น ต้นไม้ใบหญ้าที่มองดูสด ก็เพราะ ธาตุไฟ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ซึ่งมีส่วนประกอบต่างๆ กันไป ทำให้มีการเจริญเติบโตขึ้น แต่ไม่ใช่ว่ามีชีวิตินทริยรูปที่จะทำให้เป็นรูปที่ดำรงชีวิตหรือทรงชีวิตเหมือนอย่างรูปของสิ่งที่มีชีวิต เช่น คนและสัตว์
ขอเชิญรับฟัง