กัลยาณมิตตตา.

 
พุทธรักษา
วันที่  22 ก.ย. 2550
หมายเลข  4889
อ่าน  11,074

คือ การมีกัลยาณมิตร ผู้แนะนำสั่งสอน เป็นแบบอย่างในทางที่ดี ตลอดจนเกื้อกูลกัน ให้ดำเนินก้าวหน้าในทางที่ดีงาม ทั้งการครองชีพ การศึกษาอบรมและปฏิบัติธรรมที่ถูกต้อง ตรงตามพระธรรมวินัย สมจริง ดังคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นต้น คือ "ความมีกัลยาณมิตร เท่ากับ เป็นพรหมจรรย์ (การครองชีวิตประเสริฐ) ทั้งหมดทีเดียว เพราะผู้มีกัลยาณมิตรพึงหวังสิ่งนี้ได้คือ จักเจริญ จักทำให้มากซึ่งอารยอัษฎางคิกมรรค"

"เราไม่เล็งเห็นองค์ประกอบภายนอกอื่นแม้สักอย่างเดียว ที่มีประโยชน์มาก สำหรับภิกษุผู้เป็นเสขะ เหมือนความมีกัลยาณมิตร ภิกษุผู้มีกัลยาณมิตรย่อมกำจัดอกุศลได้ และย่อมยังกุศลให้เกิดขึ้น"

"ความมีกัลยาณมิตร ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์ยิ่งใหญ่ เพื่อความดำรงมั่น ไม่เสื่อมสูญ ไม่อันตรธาน แห่งสัทธรรม"


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
study
วันที่ 23 ก.ย. 2550

[เล่มที่ 30] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ - หน้าที่ 91

ปฐมกัลยาณมิตตสูตร กัลยาณมิตรเป็นเหตุให้เกิดอริยมรรค

[๑๖๕] สาวัตถีนิทาน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรายังไม่เล็งเห็นธรรมอันอื่นแม้สักอย่างหนึ่ง ซึ่งจะเป็นเหตุให้อริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ ที่ยังไม่เกิด ย่อมเกิดขึ้น หรือที่เกิดขึ้นแล้ว ย่อมถึงความเจริญบริบูรณ์เหมือนความเป็นผู้มีมิตรดีเลย

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันภิกษุผู้มีมิตรดีพึงหวังข้อนี้ได้ว่า จักเจริญอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ จักกระทำให้มากซึ่งอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘

[๑๖๖] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้มีมิตรดี ย่อมเจริญอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ ย่อมกระทำให้มากซึ่งอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ อย่างไรเล่า

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเจริญสัมมาทิฏฐิอันอาศัยวิเวก อันอาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปในการสละ ฯลฯ ย่อมเจริญสัมมาสมาธิ อันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ น้อมไปในการสละ

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุย่อมเจริญอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ ย่อมกระทำให้มากซึ่งอริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ อย่างนี้แล

จบปฐมกัลยาณมิตตสูตรที่ ๑

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
wannee.s
วันที่ 23 ก.ย. 2550

[เล่มที่ 30] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ - หน้าที่ 220

๒. ปฐมสุริยูปมสูตร

อาศัยกัลยาณมิตรเจริญโพชฌงค์ ๗

[๔๑๑] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อพระอาทิตย์จะขึ้น สิ่งที่ขึ้นก่อนสิ่งที่เป็นนิมิตมาก่อนคือ แสงเงินแสงทอง ฉันใด สิ่งที่เป็นเบื้องต้น เป็นนิมิตมาก่อน เพื่อความบังเกิดขึ้นแห่งโพชฌงค์ ๗ แก่ภิกษุ คือ ความเป็นผู้มีมิตรดี ฉันนั้นเหมือนกัน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อันภิกษุผู้มีมิตรดี พึงหวังข้อนี้ได้ว่า จักเจริญโพชฌงค์ ๗ จักกระทำให้มากซึ่งโพชฌงค์ ๗

[๔๑๒] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุผู้มีมิตรดี ย่อมเจริญโพชฌงค์ ๗ ย่อมกระทำให้มากซึ่งโพชฌงค์ ๗ อย่างไรเล่า

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมเจริญสติสัมโพชฌงค์ อันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ ฯลฯ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 23 ก.ย. 2550

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

สำหรับการที่ทุกท่าน เกิดมาพบกันในแต่ละชาติในสังสารวัฏฏ์ โดยสถานต่างๆ บางชาติก็เป็นเพื่อนฝูง มิตรสหาย บางชาติก็อาจจะเป็นศัตรู หรือบางชาติอาจจะเป็น มารดา บิดา เป็นญาติพี่น้อง แต่ว่าการพบกันในชาติที่เกิ้อกูลเป็นมิตรกันในพระธรรมหรือว่ามีส่วนร่วมกันเผยแพร่พระธรรม ชาตินั้นก็ต้องเป็นชาติที่ประเสริฐที่สุดในสังสารวัฏฏ์ ยิ่งกว่าชาติอื่นๆ ซึ่งเกิดมาในสถานอื่น

ข้อความบางตอนจาก เรื่อง บารมีในชีวิตประจำวัน

ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
อิสระ
วันที่ 23 ก.ย. 2550
ขออนุโมทนา
 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
พุทธรักษา
วันที่ 24 ก.ย. 2550

ขออนุโมทนา ท่านวิทยากร ที่กรุณานำธรรมจากพระไตรปิฏกมาแสดง และที่กล่าวกันว่า "ข้อความในพระสูตร ไพเราะ ... " ก็ไพเราะจริงๆ เพราะ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงธรรมที่สมบูรณ์ด้วยมุ่งตรงต่อความดีงาม ความเป็นประโยชน์เกื้อกูล อันเป็นสัจธรรม มิเพื่ออื่น แต่เพื่อโปรดเหล่าเวไนยสัตว์ ให้เห็นธรรมทั้งเบื้องต้น เบื้องปลาย และที่สุด ... ... ..

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
pamali
วันที่ 28 ก.ค. 2553

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
chatchai.k
วันที่ 15 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
yu_da2554hotmail
วันที่ 6 เม.ย. 2566

ยินดีในกุศลจิตค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ