ตั้งจิตไว้ชอบ ว่าไม่มีเรา

 
nattawan
วันที่  18 พ.ย. 2567
หมายเลข  48933
อ่าน  152

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระธรรมในทุกส่วนก็เพื่อเข้าใจธรรมะเดี๋ยวนี้ว่าไม่ใช่เรา ไม่มีเรา ดังนั้นการตั้งจิตไว้ชอบในการฟังพระธรรมก็คือเข้าใจว่าไม่มีเรา ซึ่งจะนำไปให้เข้าใจในสิ่งที่ปรากฏว่าไม่ใช่เราตรงตามความเป็นจริงต่อไป

ท่านอาจารย์ : ประโยชน์ของพระธรรมทุกคำไม่ว่าในพระสูตรใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งพระวินัยและพระอภิธรรมจะเห็นค่าเมื่อเราไม่ประมาทและเข้าใจจริงๆ เช่นคำว่า "ตั้งจิตไว้ชอบ" สำคัญมากนะคะ เพราะเหตุว่าตั้งจิตยังไงจึงเป็นการตั้งจิตไว้ชอบในการที่จะเข้าใจแต่ละคำเพื่อประโยชน์อะไร ที่สำคัญคือตั้งจิตไว้ชอบว่าไม่มีเราผิดหรือถูก ... แล้วเมื่อไหร่จะถูก ... ถ้าถูกก็ถูกเพียงพูดและเพียงคิด แต่ว่ากว่าจะถูก ... คิดดู เพียงแค่ตั้งจิตไว้ชอบว่าไม่มีเราถูกแค่ไหน ตั้งแต่เริ่มฟังแล้วก็รู้ว่าทำไมจึงต้องฟังมาก ... ไม่ฟังไม่ได้หรือ? ... ไม่มีทางที่จะคิดเองหรือใครมาบอกให้บอกให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้แต่ให้เห็นความลึกซึ้งว่า พระธรรมทั้งหมดเพื่อมีความเห็นที่ถูกต้องจนถึงที่สุดว่าไม่มีเรา ... เชิญชม ...

" ตั้งจิตไว้ชอบว่า ไม่มีเรา "

เนื้อหาในการดำเนินรายการสนทนาธรรมกับคณะอาจารย์ มศพ.
วันจันทร์ที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ เวลา ๑๐.๐๐-๑๑.๓๐ น.

สามารถรับฟังได้ทาง : youtu.be/RJ0fDjUOL3A

ดำเนินรายการโดยอาจารย์กุลวิไล สุทธิลักษณวน

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
nattawan
วันที่ 18 พ.ย. 2567

ความเป็นเราลึกมาก พอศึกษาธรรมก็หาทางที่จะรู้ เป็นเราที่จะทำ

ตั้งจิตอย่างไรจึงจะเป็นการตั้งจิตไว้ชอบ?! ถ้าไม่เข้าใจว่าธรรมะคือะไร ก็จบตั้งแต่แรก ธรรมะเป็นสิ่งที่มีจริงแต่ละหนึ่งที่เกิดปรากฏเดี๋ยวนี้ เกิดจากปัจจัยและดับไปอย่างรวดเร็วไม่ใช่เราเลย ถ้าไม่เข้าใจก็ไม่ได้สาระที่แท้จริง คิดว่ามีเราที่จะตั้งตนไว้ชอบ ... มีเราที่จะทำดี ... เป็นเราที่ศึกษาพระธรรม

ตั้งจิตไว้ชอบว่าไม่ใช่เราเป็นพระพุทธศาสนาที่แท้จริง จิตเกิดแล้วตั้งแล้วโดยอกุศลจิตขณะนั้นจิตเป็นอกุศล ถ้าจิตขณะนั้นมีปัญญาปรุงแต่ง จิตขณะนั้นก็มีปัญญาปรุงแต่งให้เห็นชอบจนเป็นสัมมาทิฏฐิที่รู้ตามความเป็นจริงว่า เป็นธรรมะที่กำลังปรากฏเดี๋ยวนี้ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ไปเพียรที่ไหนแต่เพียรที่จะระลึกตรงตามสิ่งที่กำลังปรากฏ ตั้งมั่นที่จะรู้สิ่งที่กำลังปรากฏทีละหนึ่งๆ ว่าไม่ใช่เรา

บุญที่ได้ทำไว้แล้วในกาลก่อนเป็นกุศลที่ประกอบด้วยปัญญา เป็นสมบัติอันประเสริฐที่ทำให้ได้ปฏิสนธิในสุคติภูมิ ได้พบพระพุทธศาสนา ได้พบและคบสัตบุรุษ ได้ฟังคำสอนและไตร่ตรองให้เข้าใจขึ้นว่าเป็นธรรมะไม่ใช่เรา

กว่าจะตั้งตนไว้ชอบว่าเห็นเป็นธรรมะเกิดขึ้นเห็นและดับไป แต่เมื่อเข้าใจขึ้นในขั้น ปริยัติ ก็จะมีความตั้งตนไว้ชอบในขั้น ปฏิบัติ จะเกิดขึ้นเป็นไปในการระลึกรู้ตรงสภาวะธรรม และอบรมเจริญต่อไปอีกยาวนานเมื่อวิปัสสนาญานเกิดขึ้นรู้ชัดในความเป็นธรรมะที่เกิดขึ้น เป็นการตั้งตนไว้ชอบในขั้น ปฏิเวธ

เป็นสมบัติอันล้ำค่าเมื่อตั้งตนไว้ชอบ ... ยิ่งบ่มบุญกุศลเพิ่มขึ้น ... สะสมไว้ในจิต เป็นอย่างนี้อีกแล้วๆ เล่าๆ จนกว่าจะรู้แจ้งอริยสัจจธรรม ประจักษ์ชัดในนิพพาน สามารถดับกิเลสได้เป็นสมุทเฉธ งามด้วยปัญญาที่ดับกิเลสได้จนหมดสิ้น

ทุกครั้งที่มีโอกาสได้ยิน ได้ฟังคำ ของ พระพุทธเจ้า เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง เกื้อกูลให้ได้สะสมความเข้าใจถูก ว่า สิ่งที่มีจริงเดี๋ยวนี้เป็นธรรมะ ไม่ใช่เรา ถ้ายังเป็นเราอยู่ ก็มากด้วยอกุศล เพราะไม่รู้ตามความเป็นจริง ความดี คือปัญญาที่เห็นถูกในความเป็นจริง

ขณะที่ฟังธรรมะเข้าใจ ขณะที่เข้าใจธรรมะ ขณะนั้นตั้งจิตไว้ชอบ

สนทนาธรรมออนไลน์
เรื่อง “ตั้งจิตไว้ชอบว่าไม่มีเรา”
กับ คณะอาจารย์ มศพ.

วันจันทร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2567
เวลา 10.00 - 11.30 น.

🟦Facebook​ : DhammahomeRadio www.facebook.com/share/v/18QuHpKzUB/?mibextid=Le6z7H

🟦Facebook​ : ชมรมบ้านธัมมะ www.facebook.com/share/v/19Rm8SKbZz/?mibextid=Le6z7H

🟥Youtube : มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา
www.youtube.com/live/NaxiLNFSR-k?si=10WJrCh3obQwAVrC

ยินดีในกุศลจิตค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
chatchai.k
วันที่ 18 พ.ย. 2567

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
เมตตา
วันที่ 21 พ.ย. 2567

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลวิริยะด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
nattawan
วันที่ 22 พ.ย. 2567

ยินดีในกุศลจิตค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ