ปฏิสนธิกาลและปวัตติกาล

 
Nanu
วันที่  27 พ.ย. 2567
หมายเลข  48999
อ่าน  82

เรียนสอบถามท่านอาจารย์ค่ะ

1. ในปวัตติกาล โอปปาติกะกำเนิดในกามภูมิมีกัมมชกลาปอีก 1 กลาปคือชีวิตนวกกลาป เกิดได้ตั้งแต่ฐีติขณะของปฏิสนธิกาล

สงสัยในปวัตติกาล ... แต่มาเกิดในปฎิสนธิกาลค่ะ

2. ในปวัตติกาลเริ่มนับตั้งแต่กรรมสร้างรูปครบ 20 รูปแล้วใช่ไหมค่ะ

กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์ค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 28 พ.ย. 2567

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ผู้ที่ปฏิสนธิเป็นโอปปาติกกำเนิดคือ การเกิดเป็นกายที่มีอวัยวะครบทันที เช่น เทวดา เปรต อสุรกาย และ ผู้ที่เกิดในนรก มีกัมมชรูปครบทั้ง ๗ กลาป (หทยทสกกลาป ๑ กายทสกกลาป ๑ ภาวทสกกลาป ๑ จักขุทสกกลาป ๑ โสตทสกกลาป ๑ ฆานทสกกลาป ๑ ชิวหาทสกกลาป ๑) โดยเกิดพร้อมกันทันทีทั้ง ๗ กลาปในขณะปฏิสนธิ แต่ถ้ากรรมประเภทใดไม่เป็นปัจจัยให้รูปประเภทใดเกิด ก็เว้นรูปกลาปนั้นๆ ทั้งในปฏิสนธิกาล (ขณะปฏิสนธิจิตเกิด) และในปวัตติกาลคือ ขณะหลังปฏิสนธิ

ผู้ที่ปฏิสนธิเป็นพรหมบุคคลในรูปพรหมภูมิเป็นโอปปาติกกําเนิด มีกัมมชรูป ๔ กลาปเท่านั้น คือ หทยทสกกลาป จักขุทสกกลาป โสตทสกกลาป และชีวิตนวกกลาป เว้นฆานปสาทรูป ชิวหาปสาทรูป กายปสาทรูป ภาวรูป ซึ่งเป็นผลของการระงับความเพลิดเพลินยินดีในกามอารมณ์ด้วยกําลังของฌานจิตที่เป็นปัจจัยให้เกิดเป็นรูปพรหมบุคคล

ผู้ที่เป็นอสัญญสัตตาพรหม คือ พรหมที่มีแต่รูปธรรม ไม่มีนามธรรมเลยนั้น มีกัมมชกลาป ๑ กลาป คือ ชีวิตนวกกลาปกรเกิดเป็นอสัญญสัตตาพรหมนั้น เป็นผลของปัญจมฌานที่คลายความยินดีในนามธรรม เพราะเห็นโทษของนามธรรมที่เป็นไปตามกิเลส จึงปรารถนาที่จะไม่มีนามธรรม

ดังนั้น ในกามภูมิ จึงไม่มีกลุ่มของรูปที่เป็นชีวิตนวกกลาป ครับ


สำหรับชีวิตในชาติหนึ่งๆ แบ่งออกเป็น ๒ กาล คือ ปฏิสนธิกาล กาลหนึ่ง และปวัตติกาล อีกกาลหนึ่ง สำหรับปฏิสนธิกาล คือ ในขณะที่ปฏิสนธิจิตเกิดขึ้นเพียงขณะเดียวเป็นปฏิสนธิกาล หลังจากนั้นทั้งหมด คือ ตั้งแต่ปฏิสนธิจิตดับไปแล้ว ก็เป็นปวัตติกาลครับ

... ยินดีในกุศลของคุณ Nanu และทุกๆ ท่านด้วยครับ ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
chatchai.k
วันที่ 28 พ.ย. 2567

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
Nanu
วันที่ 30 พ.ย. 2567

อนุโมทนาสาธุค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ