เมื่อเข้าใจถูก จะไม่เป็นทุกข์เพราะการศึกษาธรรม
ใครเลยจะรู้ว่าการได้เกิดมาในชาติหนึ่งๆ แล้วได้พบได้ฟังพระสัทธรรมที่ถูกต้องจะมีค่าสักเพียงไหน? ไม่แค่นั้น เมื่อได้พบได้ฟังแล้ว ได้มีการพิจารณาศึกษา ระลึกรู้ สังเกต สำเหนียก มากน้อยเท่าใด? มีความมั่นคงขึ้นในสภาพธรรมที่เกิดขึ้นในทุกๆ ขณะนั้นว่า ไม่ใช่ตัวตน สัตว์ บุคคล เรา-เขา แต่เข้าใจขึ้นๆ ว่าเป็นเพียงสภาพธรรมที่มีเหตุปัจจัยจึงเกิดขึ้น และดับไปเท่านั้น หาใช่ความคิดที่ว่า เมื่อได้ศึกษาธรรมแล้วจะมีตัวเราที่ศึกษา มีตัวเราที่เข้าใจ มีตัวเราที่มีกุศล และเป็นไปไม่ได้ที่ผู้ศึกษาธรรมจะมีความหมดจดจากกิเลส เพียงเพราะเป็นผู้ศึกษาธรรม หรือคิดว่าเข้าใจธรรมแล้วหาได้ไม่ ด้วยว่าทุกท่านก็ยังคงมีกิเลสและความสั่งสมอกุศลต่างๆ มามากมายต่างๆ กันในอดีตอนันตชาตินับไม่ถ้วน และคงจะไม่หมดกิเลสไปได้ในชั่วระยะเวลาอันสั้น
ดังนั้นผู้กำลังศึกษาธรรมจึงไม่มีเหตุให้ต้องวิตกกังวล เป็นทุกข์ อันเนื่องมาจากกิเลสที่เกิดขึ้น แต่ด้วยการศึกษาธรรม ทำให้เข้าใจความจริงในสภาพธรรมที่เกิดขึ้น เกิดการละคลาย และพากเพียรที่จะอบรมเจริญปัญญาที่รู้ในสภาพธรรมต่างๆ ในทุกขณะมากหรือน้อย ตามการสั่งสม จึงจะสมกับคำว่าผู้ที่ศึกษาพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นผู้ที่อาจหาญร่าเริง ถามว่าทำไม เหตุใดจึงอาจหาญร่าเริง เห็นจะตอบได้ (ตามกำลังปัญญาของผู้post) ส่วนหนึ่งว่า ก็เพราะความที่มีความมั่นคงในธรรมว่าไม่ใช่ตัวตน สัตว์ บุคคล บังคับบัญชามิได้ แต่อบรมให้มีความเข้าใจถูก เห็นถูก (สัมมาทิฏฐิ) ได้ และรู้ว่าได้เดินในหนทางที่ถูกนี้แล้ว จึงจะกังวลไปไย นอกจากความระมัดระวังในการก้าวเดิน และเก็บเงินฝากธนาคารทีละบาทสองบาท (อย่าดูถูกแม้กุศลที่มีกำลังน้อย) ด้วยความไม่ประมาทเท่านั้น (ซึ่งก็คงไม่เท่านั้นอีกนั่นแหละ) อนุโมทนาทุกท่านครับ