เมื่ออยากแล้วก็รู้ไม่ได้เลย ตราบใดที่ยังอยาก
เมื่ออยากแล้วก็รู้ไม่ได้เลย ตราบใดที่ยังอยาก ไม่สามารถที่จะละ แล้วเห็นสภาพธรรมตามความเป็นจริง เพราะขณะใดที่อยาก ขณะนั้น “อวิชชา”เพราะไม่รู้ความจริงของสภาพธรรมที่ปรากฎ เพราะฉะนั้น ก็สามารถที่จะเข้าใจถึงการสะสมปัญญา และบารมีอื่นๆ ที่จะทำให้ดับกิเลสได้จริงๆ ไม่เกิดอีกเลย แต่กิเลสมีตั้งหลายระดับ มีอย่างหยาบปรากฎทุกคนก็รู้และอย่างกลางคนอื่นไม่เห็นไม่รู้ แต่เกิดแล้วคนนั้นรู้ และก็อย่างที่ไม่รู้เลยว่ามี เช่น ในขณะที่นอนหลับสนิท ตื่นขึ้นมา มีแล้ว กิเลสมาจากไหน ถ้าไม่มีการสะสม เป็นอนุสัยอยู่ แต่ว่าปัญญาสามารถที่จะดับอนุสัยซึ่งเป็นปัจจัยที่จะให้เกิดอกุศลทุกระดับ
ปปัญจธรรม คือ ตัณหา มานะ ทิฏฐิ เป็นธรรมเครื่องเนิ่นช้า
ขออนุโมทนา
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
การจะรู้ธรรมไม่ใช่ด้วยความอยาก ขณะที่อยาก ขณะนั้นไม่รู้ความจริง แต่เมื่อความ
อยากเกิดขึ้นและดับไปแล้ว สามารถรู้ความจริงได้ว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา แม้ความอยากที่เกิดขึ้นเพราะความอยากก็เป็นธรรม ขออนุโมทนา ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์