จิตดับแล้วเกิดใหม่ทันที

 
Kuat639
วันที่  18 ธ.ค. 2567
หมายเลข  49123
อ่าน  46

กรณีคนตาย (จิตดับ) .แล้วเกิดใหม่ทันที.ไม่เข้าใจว่าเกิดใหม่ที่ไหนอย่างไร? หรือมันเป็นปกติธรรมดาเช่นนั้นอยู่แล้วตลอดสังสารวัฏยาวนาน..ขอความรู้ความเข้าใจด้วยครับ.


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 20 ธ.ค. 2567

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การเวียนว่ายตายเกิดจากภพหนึ่งไปอีกภพหนึ่ง แสดงถึงการที่ยังเป็นผู้มีกิเลสอยู่ จึงมีการเกิดการตายอย่างไม่จบสิ้น, การตายของสัตว์โลก คือ จุติจิตเกิดขึ้น ทำกิจเคลื่อนจากความเป็นบุคคลนี้ ในภพนี้ชาตินี้, เมื่อจุติจิตดับไปแล้ว เป็นปัจจัยให้ปฏิสนธิจิตเกิดขึ้น ทำกิจสืบต่อความเป็นบุคคลใหม่ สืบต่อทันที (สำหรับผู้ที่ยังมีกิเลส) ใหม่ คือ เป็นบุคคลใหม่ ในภพใหม่ ชาติใหม่ ไม่ใช่คนเก่าในภพเก่าอีกต่อไป เพราะฉะนั้น ผู้ที่ไม่ได้บรรลุถึงความเป็นพระอรหันต์ดับกิเลสได้ทั้งหมด เมื่อตายไป (จิตขณะสุดท้ายของชีวิตในชาตินี้ เกิดขึ้นทำกิจเคลื่อนจากความเป็นบุคคลนี้) ย่อมเกิดทันที แต่จะไปเกิดเป็นอะไร และ ที่ไหนนั้น ย่อมขึ้นอยู่กับกรรมที่กระทำแล้ว กล่าวคือ ผู้ทำกรรมดี เมื่อตายไป กรรมดีให้ผลย่อมเกิดในสุคติภูมิ ได้แก่ ภูมิมนุษย์ ภูมิสวรรค์ ตามควรแก่เหตุ (คือกรรม) ในทางตรงกันข้ามผู้ทำกรรมชั่วไว้ (ถ้ายังไม่บรรลุเป็นพระอริยบุคคล) เมื่อกรรมชั่วนั้นให้ผลย่อมเกิดในอบายภูมิ คือ นรก เปรต อสุรกาย และ สัตว์เดรัจฉาน ไม่มีคนเกิด สัตว์เกิด แต่มีความเกิดขึ้นเป็นไปของธรรม (คือจิต เจตสิก รวมถึง รูป ด้วย) ควรที่จะได้พิจารณาว่า ไม่ได้มีเฉพาะชาตินี้ชาติเดียว ชาติต่อไป ก็มีด้วย (เหมือนกับในอดีตชาติที่เคยเกิดมาแล้ว) ชีวิตของแต่ละบุคคลที่เกิดมา ไม่มีใครเหมือนใครซักคนเดียว ตั้งแต่เกิดมา ไม่ว่าจะเป็นรูปร่าง หน้าตา ฐานะ ความเป็นอยู่ เป็นต้น นอกจากนั้นเวลาที่มีชีวิตอยู่ก็ยังต่างกันไป มีความประพฤติที่แตกต่างกันออกไปตามเหตุปัจจัยที่ได้สะสมมา เป็นความหลากหลายอย่างยิ่งของธรรม ซึ่งใครก็บังคับบัญชาไม่ได้เลย ต้องเป็นอย่างนี้และกำลังเป็นอย่างนี้ทุกขณะ แต่ละคนเป็นแต่ละหนึ่งจริงๆ ไม่ปะปนกันกับคนอื่น เลย ในที่สุดแล้ว ทุกคนก็จะต้องละจากโลกนี้ไป (ตาย) เกิดมาแล้วทุกคนก็จะต้องตาย เนื่องจากว่า ชีวิตมีความเป็นเป็นที่สุด ตายแล้วเกิดใหม่เป็นบุคคลใหม่ในภพใหม่ ซึ่งก็เป็นการเกิดดับสืบต่อของจิตแต่ละขณะๆ สิ่งที่เคยสะสมแล้วไม่สูญหายไปจากจิต ทั้งกุศล และ อกุศล สะสมสืบต่อในจิตทุกขณะ และสิ่งที่ควรพิจารณา คือกว่าจะถึงวันนั้น ระหว่างที่ยังมีชีวิตอยู่ อะไรคือสิ่งที่เป็นประโยชน์ที่สุด ถึงแม้ว่าจะจากโลกนี้ไปแล้ว ก็ยังมีโลกหน้าหรือชาติหน้า ซึ่งต้องเกิดสืบต่อ เหมือนเมื่อวานนี้กับขณะนี้ และพรุ่งนี้ ซึ่งจะมีต่อจากวันนี้ เพราะฉะนั้น ก็ควรที่จะได้พิจารณาว่า ระหว่างที่มีชีวิตอยู่ในโลกนี้ ได้สาระอะไรจากการมีชีวิตอยู่? เพราะเหตุว่า ประโยชน์สูงสุดของการมีชีวิต คือ เข้าใจความจริง ความจริง คือ ธรรม ซึ่งกำลังปรากฏในขณะนี้ นั่นเอง ครับ

... ยินดีในกุศลของคุณ Kuat639 และทุกๆ ท่านด้วยครับ ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
chatchai.k
วันที่ 20 ธ.ค. 2567

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ