การอุทิศบุญทันทีหลังจากให้ทาน
ผมมีเรื่องเล่าที่น่าแปลกใจ เพราะในปัจจุบันก็มีหลายกลุ่มที่เริ่มสนใจและก็เริ่มใฝ่ธรรมะกันมากขึ้นครับ เรื่องมีอยู่ว่าผมได้รู้และได้ยินมาจากพระรูปหนึ่ง (ไม่ขอเอ่ยนามนะครับ เพราะผมก็มีความเคารพท่านอยู่ เพราะท่านได้อ่านและศึกษาพระไตรปิฏกเหมือนกันและเป็นที่เคารพแก่คนทั่วไปที่เข้าไปหาครับ)
๑.เรื่องเกี่ยวกับการอุทิศบุญ โอนบุญ ท่านบอกว่าการให้ทานทำบุญแก่พระให้รีบอุทิศบุญทันที่อย่ารอช้า โดยเฉพาะอย่ารอพระกล่าว ยถา..........เพราะบุญเราจะหายไปรออยู่ที่เทวโลกครับ ไม่รู้ว่าในพระไตรปิฏกมีกล่าวไว้หรือเปล่าครับ
๒.การอุทิศบุญ โอนบุญให้แก่ญาติ เทวดาที่รักษา ก็เช่นกันท่านบอกว่าเป็นปัตติทานมัยบุญกริยาวัตถุ ๑๐ ข้อที่ 6 คือการทำบุญด้วยบุญ หรือแบ่งส่วนบุญ ที่น่าสนใจ คือท่านบอกว่าสามารถโอนบุญได้วันละหลายๆ ครั้ง เป็นพัน หรือหมื่นครั้งก็ได้ บุญไม่หมดครับ เป็นการโอนบุญที่เรามีมากมายในเทวโลกที่มีอยู่ ที่เราทำไว้แสนโกฏชาติมีมากมายเท่าขุนเขา ไม่รู้ว่าในพระไตรปิกกมีกล่าวไว้ไหมครับ เพราะผมเข้าใจว่าน่าจะเป็นวิธีที่เราทำบุญแล้วแบ่งบุญนี้น่าจะเป็นปัตติทานมัยมากกว่าครับ สงสัยครับพอดีมีเวลาอ่านพระไตรปิฏกน้อยครับ รบกวนผู้รู้ช่วยไขข้อข้องใจหน่อยนะครับ
ขอบคุณครับ
๑.ไม่พบข้อความดังกล่าวในพระไตรปิฎกและอรรถกถา ๒.ไม่พบข้อความดังกล่าวในพระไตรปิฎกและอรรถกถา
อย่างนี้แสดงว่าผู้ที่แสดงวิธีการนี้และก็สอนให้ผู้อื่นทำตามนี้เป็นมิจฉาทิฏฐิในเรื่องการอุทิศบุญ โอนบุญ ใช่ไหมครับ
บุญ บาป สั่งสมที่จิตใครก็ย่อมจะติดตามให้ผลกับผู้นั้นเท่านั้น แต่การอุทิศส่วนกุศล คือ การบอกบุญในทานที่ตนได้กระทำให้ผู้อื่นได้รู้ แล้วเขามีใจยินดีที่จะอนุโมทนาได้ เมื่อนั้นจึงจะเป็นบุญของเขาเอง โอนให้กันไม่ได้ครับ
ถ้าคุณ atom มีโอกาสที่จะสามารถเกื้อกูลผู้ที่เข้าใจผิดด้วยพระธรรม ในวิธีต่างๆ ได้ เช่นการให้ซีดีธรรม การแสดงธรรม การแนะนำให้ฟังธรรมที่ถูกต้องแล้วผู้นั้นสามารถไตร่ตรองพิจารณาธรรมอย่างป็นเหตุเป็นผล ก็ควรจะได้กระทำครับ แต่ถ้าผู้นั้นปฏิเสธก็ควรมีจิตคิดเมตตา และไม่คิดเพ่งโทษครับ ขออนุโมทนา
ตามความเข้าใจส่วนตัวครับ
๑.บุญไม่หายไปไหนครับ แต่กุศลจิตครับมีเกิดมีดับ เพราะฉะนั้น การอุทิศส่วนบุญกุศลหลังจากการเจริญกุศลสำเร็จใหม่ๆ ย่อมให้ผลดีกว่าปล่อยให้จิตตกจากุศล หรือมีอกุศลมากขั้น
๒.การอุทิศบุญนั้น ผู้ที่เราอุทิศให้จะได้รับหรืออนุโมทนาด้วยหรือเปล่าเราไม่รู้ แต่ทุกครั้งที่เราตั้งใจอุทิศบุญ ก็เท่ากับเราได้สะสมกุศลจิต เมื่อสะสมกุศลจิตบ่อยๆ มากๆ อกุศลจิตก็จะเกิดได้น้อยลง
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
๑.บุญไม่หายไปไหนนะ อกุศลก็เช่นกัน สะสมอยู่ที่จิต แต่วิบากที่เป็นกุศลที่ได้ทำย่อมสามารถให้ผล เป็นวิมานในเทวโลกครับ จึงต้องแยกระหว่างกุศลจิต กับกุศลวิบากครับ
๒.ทำกุศลบ่อยๆ อุทิศบ่อยๆ ดีกว่านะ เชิญคลิกอ่านที่นี่ครับ ... บ่อยๆ
ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์