ไม่มีกิเลสแล้วว้าเหว่

 
ธรรมทัศนะ
วันที่  9 ม.ค. 2568
หมายเลข  49343
อ่าน  143

ผู้ไม่มีกิเลสแล้วไม่ว้าเหว่เลย คนว้าเหว่คือคนมีกิเลส ธรรมนี้ขาดการฟังไม่ได้เลย การฟังธรรมของพระผู้มีพระภาคนั้น เป็นสิ่งที่มีประโยชน์มาก เพราะว่าได้ฟังสิ่งที่ไม่เคยฟัง พิจารณาติดตามต่อไปก็ย่อมจะได้ความเข้าใจ แล้วก็ได้เหตุผลชัดเจนยิ่งขึ้น


ถ. มนุษย์เรามุ่งละกิเลส กิเลสหมด แล้วคนในโลกก็ไม่มีสิ ไปนิพพานก็สูญกันหมด

สุ. มนุษย์น่ะคืออะไรคะ จิต เจตสิก รูป ไม่มีสาระเลย เกิดขึ้นแล้วก็ดับไปๆ ๆ เท่านั้นเอง แล้วทำไมจะมาสอนให้หลงให้เพลิน ให้ยึดมั่นถือมั่นในสิ่งที่ไม่มีสาระ

ถ. ถ้าเราละกิเลสแล้วว้าเหว่ ละคะ

สุ. ถ้าไม่มีกิเลสแล้วว้าเหว่ เข้าใจว่าที่ว้าเหว่เพราะกิเลส ผู้ไม่มีกิเลสแล้วไม่ว้าเหว่เลย คนว้าเหว่คือคนมีกิเลส ธรรมนี้ขาดการฟังไม่ได้เลย การฟังธรรมของพระผู้มีพระภาคนั้น เป็นสิ่งที่มีประโยชน์มาก เพราะว่าได้ฟังสิ่งที่ไม่เคยฟัง พิจารณาติดตามต่อไปก็ย่อมจะได้ความเข้าใจ แล้วก็ได้เหตุผลชัดเจนยิ่งขึ้น

ถ้าศึกษาพระธรรมวินัย ก็จะหวั่นกลัวต่อความเห็นผิด ความเข้าใจผิด กิเลสอกุศลทุกอย่างทุกประการไม่ว่าจะเล็กจะน้อย แม้ว่าจะเป็นการกล่าวคำไม่จริง เป็นสิ่งที่มีโทษมีภัย จะมากจะน้อยนั้นก็แล้วแต่ว่า ความเห็นผิดจะชักนำให้ประพฤติทุจริตร้ายแรงแค่ไหน ผลของกรรมก็ต้องมากมายแค่นั้นด้วย

สำหรับเรื่องของการที่จะได้รับทุกข์โทษภัยในวัฏฏะ สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้เป็นพระอริยบุคคล ก็จะเห็นได้ว่า ไม่มีใครสามารถจะล่วงรู้ไปถึงว่า การได้รับผลของกรรมแต่ละขณะนั้น เกิดขึ้นมาจากการกระทำตั้งแต่ครั้งไหน เมื่อไร ยังไง

ที่มา และ ขอเชิญรับฟัง ...

ถ้าเราละกิเลสแล้วว้าเหว่


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
talaykwang
วันที่ 11 เม.ย. 2568

"ผู้ที่รู้ว่าตนเองมีความไม่รู้ และมีความไม่ดี จึงจะเป็นผู้ที่เจริญงอกงามทางปัญญา และกุศลธรรมประการต่างๆ ที่ยิ่งขึ้นได้"


กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง
กราบขอบพระคุณและยินดียิ่งในกุศลทุกท่านทุกประการ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
chatchai.k
วันที่ 11 เม.ย. 2568

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ