สาธุกีฬา คือ อย่างไร?

 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่  28 ม.ค. 2568
หมายเลข  49430
อ่าน  89

คัดจากกระทู้ "เทวดาเล่นกีฬา"

คำว่า "สาธุกีฬา" มาจากคำว่า สาธุ ซึ่งแปลว่า ดี หรือว่าเป็นสิ่งที่ดีงามรวมกับคำว่า กีฬา ซึ่งก็หมายถึง การละเล่น เมื่อแปลรวมกัน หมายถึงการละเล่นที่ดี ซึ่งข้อความในพระไตรปิฎก หรือว่าจากอรรถกถาก็ดี มีแสดงไว้มากมาย หลายที่เป็นการละเล่น ที่เป็นไปเพื่อบูชาบุคคลที่ควรแก่การบูชา สูงสุดเลย คือ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ตลอดจนถึง แม้การปรินิพพานของพระปัจเจกพุทธเจ้าก็มีการละเล่นที่ว่า สาธุกีฬา หรือบุคคลที่เป็นพระราชา พระมหากษัตริย์ เวลาที่สิ้นพระชนม์ ก็จะมีการละเล่น ที่เรียกว่า สาธุกีฬา ที่เป็นข้อความที่แสดงถึงความไม่เที่ยง ความเป็นทุกข์ ความเป็นอนัตตาของสภาพธรรม เป็นต้น หรือเป็นการละเล่นที่บูชา บุคคลที่ควรแก่การบูชา เพราะฉะนั้น ที่เป็นสาธุกีฬา จะต้องเป็นการละเล่นที่เป็นไปกับด้วยประโยชน์ เป็นไปกับด้วยสาระ ได้ข้อคิดดีๆ จากการละเล่นดังกล่าว

[เล่มที่ 11] พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ หน้าที่ ๗๖

ครั้งนั้น พุทธบริษัทได้บูชาพระพุทธสรีระซึ่งมีสีเหมือนทอง ด้วยของหอม และดอกไม้เป็นต้นตลอด ๗ วัน วันสาธุกีฬ ได้มีเป็นเวลา ๗ วันเหมือนกัน ต่อจากนั้นไฟที่จิตกาธารยังไม่ดับตลอด ๗ วัน

[เล่มที่ 13] พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒ ภาค ๑ หน้าที่ ๔๖๔

ทรงให้ล้อมพระบรมธาตุที่บรรจุไว้ในรางทองคำ ด้วยลูกกรงหอก ให้ผู้คนชุมนุมกันเป็นปริมณฑล ๕๐๐ โยชน์ ในแคว้นของพระองค์ ผู้คนเหล่านั้นรับพระบรมธาตุ เล่นสาธุกีฬา ออกจากกรุงกุสินารา พบเห็นดอกไม้มีสีดั่งทองคำในที่ใดๆ ก็เก็บดอกไม้เหล่านั้นในที่นั้นๆ บูชาพระบรมธาตุในระหว่างทาง เวลาดอกไม้เหล่านั้นหมดแล้วก็เดินต่อไป เมื่อถึงฐานแอกแห่งรถในคันหลัง ก็พากันเล่น สาธุกีฬา แห่งละ ๗ วันๆ เมื่อผู้คนรับพระบรมธาตุมากันด้วยอาการอย่างนี้ เวลาก็ล่วงไป ๗ ปี ๗ เดือน ๗ วัน

การเล่นกีฬาทั้งหลาย ก็มีทั้งเพื่อความบันเทิง สนุกสนานอย่างเดียว อันไม่ประกอบด้วยประโยชน์ คือ ความเจริญขึ้นของกุศลธรรม และการละเล่นของเทวดาที่เป็น กีฬา ที่เรียกว่า สาธุกีฬา ที่เป็นการละเล่น แม้จะมีอกุศล แต่ ก็มีการเจริญขึ้นของกุศลธรรมด้วย เช่น การละเล่น ที่กล่าวธรรม อันแสดงถึงเนื้อหา ถึงธรรม มีความไม่เที่ยง เป็นต้น

ชีวิตของสัตว์ทั้งหลาย ทั้งเทวดา และ มนุษย์ก็ยังมีกิเลสเป็นธรรมดา ชีวิตก็เป็นไปตามการสะสม ที่เกิดกิเลส ก็มีการละเล่น มีการสนุก บันเทิง ตามอำนาจของกิเลส หากแต่ว่า การเจริญอบรมปัญญา คือ การเข้าใจความจริงในสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ในชีวิตที่เป็นปกติ แม้อกุศลที่เกิดขึ้นว่าเป็นแต่เพียงธรรมไม่ใช่เรา ก็เป็นผู้มีปรกติเจริญสติปัฏฐาน แม้จะมีชีวิตอย่างไร ก็สามารถอบรมปัญญาได้ ขอเพียงมีความเข้าใจถูกเป็นสำคัญ


เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ