เป็นเราหมดที่เข้าใจ

 
เมตตา
วันที่  28 ก.พ. 2568
หมายเลข  49550
อ่าน  209

อ.วิชัย: กราบเท้าท่านอาจารย์ครับ ที่ อ.อรรณพ ได้กราบเรียนท่านอาจารย์ในเรื่องของทั้ง กิจจญาณ ในการรู้สัจจะทั้ง ๔ ครับ ก็ทราบว่า ขณะที่สติระลึกรู้ในลักษณะของสภาพธรรมครับ ขณะนั้นก้เป็นการรู้ในลักษณะของธรรมซึ่งเป็นทุกข์ครับ แล้วก็เป็นการที่จะค่อยๆ ละคลายความติดข้อง และก็ความเห็นผิดในสิ่งนั้น ด้วยครับ

ส่วนใน นิโรธสัจจะ นี่ครับ คือฟังท่านอาจารย์เมื่อสักครู่นี้ตามความคิดตามความเข้าใจว่า ขณะที่สติเกิดระลึกรู้ในลักษณะ ก็เป็นการค่อยๆ ละความติดข้อง ละความเห็นผิดในสิ่งที่ปรากฏ ซึ่งจะ เป็นเหตุให้ค่อยๆ รู้ถึงความสิ้นไปของธรรมที่เป็นเหตุทำให้ทุกข์เกิด ครับ กราบเท้าท่านอาจารย์เพิ่มเติมครับ

ท่านอาจารย์: เป็นเวลายาวนานแค่ไหนกว่าจะรู้อย่างนี้?

อ.วิชัย: นานมากครับ

ท่านอาจารย์: แล้วก็พูดไปถึงนานแสนนานกว่าจะเป็นอย่างนี้ แต่ต้องมีการเริ่มต้นเดี๋ยวนี้

เพราะฉะนั้น เรายังไม่ไปถึงไหนเลยนะ แต่ต้องรู้ความจริงว่า ความต่างของอริยสัจจธรรม ๓ รอบ เรายังระลึกแล้วจะรู้ความเป็นทุกข์ทันทีไม่ได้หรอก เห็นไหม? กว่าจะถึงที่เป็นทุกข์นี่.. วิปัสสนาขั้นไหน? เห็นไหม? ไม่ใช่แค่พูดแล้วก็ไปเป็นวิปัสสนาขั้นนั้นได้ แม้แต่นามรูปปริจเฉทญาณ ก็ยังไม่มี

อ.วิชัย: ครับ

ท่านอาจารย์: แต่ได้ฟังแล้วว่า ไม่ใช่เรา เป็นอะไร เป็นนามบ้าง เป็นรูปบ้างเดี๋ยวนี้ แต่สภาพธรรมก็เกิดดับจนกระทั่ง.. เอาล่ะ จิตเห็นเป็นนามธรรม สิ่งที่ถูกเห็นเป็นรูปธรรม อย่างที่เหมือนไม่ลืม จำได้ ถามทีไรก็เหมือนเข้าใจสิ่งนั้นแล้ว แต่ความจริงหาเป็นอย่างนั้นไม่ ไหนล่ะ นามธรรม เดี๋ยวนี้? ได้แค่ชื่อใช่ไหม?

อ.วิชัย: ครับ ดูเหมือนลวงว่า เข้าใจมากครับ

ท่านอาจารย์: มากเท่าใด ก็แค่ชื่อใช่ไหม?

อ.วิชัย: ใช่ครับ

ท่านอาจารย์: กว่าจะถึง แต่ละคำ ที่กล่าวว่า เข้าใจโน่นเข้าใจนี่ อีกนานเท่าไหร่? เพราะสะสมความไม่รู้ และความติดข้องมาแสนนาน จะให้หมดไป จะให้ประจักษ์แจ้งญาณที่เป็นระดับไม่ใช่ปริยัติ ไม่ใช่ปฏิบัติ แต่ถึงปฏิเวธะ คิดดู

เพราะฉะนั้น ประมาทไม่ได้เลยว่า ขณะที่ปัญญาถึงแต่ละระดับนี่ สภาพธรรมยังไม่ได้ปรากฏถึงขั้นรอบที่ ๓ เลย

อ.วิชัย: ครับ ดูเหมือนกับเป็นหนทางที่ไกลมากครับ แต่ก็เป็นการค่อยๆ ศึกษาที่จะรู้ในปัญญาที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ในระดับต่างๆ แต่ก็รู้ว่า เป็นกาลเป็นการอบรมที่ยาวนานครับ

ท่านอาจารย์: พูดอย่างนี้รู้ไหมว่า เกินคิดว่ามากแค่ไหน นานแค่ไหน เพราะต้องตรง สภาพธรรมทีละหนึ่งต่างกัน รู้แล้วยัง?

อ.วิชัย: ยังครับ เพียงฟังเรื่องราวของธรรมครับ

ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น ก็ต้องไม่ประมาทในความต่างของอริยสัจจะ ๓ รอบ ปัญญาระดับไหนกว่าจะถึงความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กว่าสาวกแต่ละท่านจะเป็นปัญญาที่สามารถเข้าใจ รู้ความจริง ในระดับของสาวก ไม่ใช่ถึงระดับของพระปัจเจกพระพุทธเจ้า หรือระดับของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ต่างกันมาก

เพราะฉะนั้น การฟังธรรมต้องไม่ประมาทเลย เพราะแฝงลึกด้วยความไม่รู้ และความต้องการ ตราบใดที่สิ่งนั้นยังไม่ปรากฏ เช่น เห็น เดี๋ยวนี้ เร็วแค่ไหน? เพราะทันทีที่ลืมตา เห็นสิ่งที่ปรากฏเป็นโน่นเป็นนี่แล้ว แล้วก็ความจริงก็คือ เห็น ต้องกี่ขณะกว่าจะเป็นโน่นเป็นนี่ และแต่ละขณะไม่รู้ความจริงของเห็น เพราะฉะนั้น ขณะนั้นก็เป็น อาสวะ ทำให้รู้ว่า เป็นเหมือนเราเห็น

กำลังพูดนี่ ก็มีเห็นตลอด แต่ก็มีสิ่งที่ปรากฏให้เห็นตลอด ความไม่รู้ในสิ่งนั้นที่ไม่ใช่สิ่งนั้นเลยที่ปรากฏ แล้วความไม่รู้ว่า ไม่ใช่เราเห็นออกไปบ้างหรือยัง? ไม่มีการคิดถึง แล้วจะออกไปได้อย่างไร? สะสมมานานเกิดแสนโกฏกัปป์ ยิ่งกว่าแสนโกฏกัปป์ของแสนโกฏกัปป์ ไม่รู้มานานแค่นั้น แล้วจะให้เดี๋ยวนี้รู้ว่า เห็นนี่ไม่ใช่เรา เป็นเพียงสภาพรู้ ที่ต่างกับสภาพรู้อื่นโดยนิมิตเท่านั้น ไม่สามารถจะรู้เพียงหนึ่ง

เพราะฉะนั้น การฟังพระธรรมด้วยความเข้าใจในความลึกซึ้งเท่านั้นที่จะเป็นอุปนิสยโคจระ อารมณ์ของบิดา และบุตรสาวกทั้งหลาย ถ้าไม่มีความเข้าใจความละเอียดลึกซึ้ง จะไม่สามารถรู้ความจริงเลย เป็นเราหมดที่เข้าใจ พูดได้ แต่ว่าสภาพธรรมกำลังปรากฏแต่ละหนึ่ง ไม่ได้รู้ขณะหนึ่งๆ ตามความเป็นจริง

เพราะฉะนั้น ธรรมเป็นสิ่งที่มีจริง ที่เคยติดข้องมานานเพราะไม่รู้ เมื่อรู้ก็ค่อยๆ ละความไม่รู้ เพื่อมีความไม่รู้น้อยลงๆ ก็ละความติดข้องในความไม่รู้นั้นทีละเล็กทีละน้อย ไม่ต้องไปทำอะไรเลย เป็นหน้าที่ของธรรมแต่ละหนึ่งทั้งหมด จึงรู้ว่า นั่นคือสัจจญาณรอบที่ ๑ ไม่ใช่ให้ไปทำโน่นทำนี่ด้วยความเป็นเรา

แต่ต้องรู้ความละเอียดอย่างยิ่ง เพื่อที่ขณะใดที่สภาพธรรมเกิดขึ้นปรากฏ สติที่รู้ตรงลักษณะ นั่นคือไม่ใช่เรา แต่เป็นสภาพธรรมที่ระลึกตรงนั้น

อ.วิชัย: ไพเราะอย่างยิ่งครับท่านอาจารย์ ก็กราบเท้าท่านอาจารย์ครับ

ขอเชิญฟังได้ที่..

อารมณ์ของบิดา

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่งค่ะ

กราบยินดีในกุศลจิตของ อ.วิชัย ด้วยความเคารพค่ะ


เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ