ธรรมคืออะไร ธรรมอยู่ที่ไหน
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สุ. โดยมากคนมักจะถามว่า ธรรมคืออะไร ธรรมอยู่ที่ไหน และที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงธรรม ทั้งๆ ที่ธรรมมีอยู่ทุกแห่ง เพราะว่าไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน เป็นสิ่งที่มีจริงที่ปรากฏทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ แต่คนก็ไม่รู้ว่านั่นเป็นธรรม เพราะฉะนั้น นี่เป็นประการแรก ที่จะต้องทราบว่า ธรรมไม่ใช่อยู่ในหนังสือ แต่ธรรมคือในขณะที่กำลังเห็น
ทำไมถึงกล่าวว่าเป็นธรรม ก็เพราะว่าเป็นสภาพที่มีจริงๆ สิ่งใดที่มีจริง เมื่อไม่ใช่เรา ลักษณะนั้นเป็นอะไร ขณะที่กำลังเห็น สิ่งที่ปรากฏทางตาก็มีสภาพรู้ คือ เห็น ซึ่งเป็นนามธรรม และมีสิ่งที่ปรากฏ ซึ่งเป็นรูปธรรม แต่ทั้งๆ ที่เห็นและ พูดเรื่องเห็นมาเป็น ๑๐ ปี ๒๐ ปี ๓๐ ปี ก็ยังยากสำหรับการระลึกได้และเข้าใจจริงๆ ว่าสิ่งที่ปรากฏทางตาไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน เพราะความคุ้นเคยทันที ที่เห็น ขณะนี้ถ้าจะระลึกเพียงว่า มีสีสันวัณณะต่างๆ ที่กำลังปรากฏทางตา เราไม่ต้องเรียกอะไรเลย ไม่ต้องเรียกแดง ไม่ต้องเรียกเขียว ไม่ต้องเรียกฟ้า ไม่ต้องเรียกต้นไม้ ไม่ต้องเรียกพระสถูป แต่สภาพของสิ่งที่ปรากฏทางตานั้นเป็นสิ่งที่มีจริงแน่นอน ทั้งๆ ที่เวลานี้สีมีเยอะ เมื่อกี้นี้ก็มีคนเดินผ่านไปผ่านมาก็เพิ่มสีขึ้นมาอีก แต่ทุกคนจำเรื่องราวของสีที่ปรากฏ เช่น ขณะนี้จำว่ามีคนกำลังเดินรอบพระสถูป ซึ่งเราอาจจะกลับไปที่โรงแรมและคิดถึงเหตุการณ์ที่นี่ เราจะจำสีไม่ได้เลยทั้งหมด แต่เราจะจำเฉพาะเรื่อง เราจำแต่เรื่อง
นี่เป็นเหตุที่เมื่อเราเห็นแล้ว วันหนึ่งๆ ทั้งๆ ที่เราเห็นสีทั้งนั้น แต่เราจำ เฉพาะบางเรื่อง เช่น เมื่อเช้านี้เราไปที่แม่น้ำคงคา เห็นกองไฟ เห็นโรงพยาบาล เห็นคนอาบน้ำ เห็นคนแปรงฟัน เห็นเรือแล่นขายของ เห็นทุกอย่าง แต่ถ้าถามว่า ในเรือของคนขายของมีอะไรบ้าง ซึ่งขณะที่เราอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริงๆ เราตอบได้ว่า เขามีหม้อเล็กๆ มีหม้อขนาดกลาง และก็มีหม้อขนาดใหญ่ มีอะไรเราก็บอกได้ แต่เวลานี้ถ้าถามว่า ใครจำอะไรได้บ้างในเหตุการณ์นั้น ก็จะจำเฉพาะบางเรื่อง แสดงให้เห็นว่า เราไม่เคยแยกสิ่งที่ปรากฏทางตากับความจำเรื่องราวที่เกิด คือ ขณะที่นึกคิด กับขณะที่เห็นสิ่งนั้น สิ่งนี้พิสูจน์ได้ในความฝัน เวลาที่ฝันเราบอกว่า เมื่อคืนนี้ฝันเห็นคนนั้นคนนี้ เรื่องนั้นเรื่องนี้ แสดงว่าเราไม่สนใจในสีที่ปรากฏทางตา แต่เราจำเรื่องเอาไว้ฝัน เพราะฉะนั้น ในฝันของเรามีบุคคลกำลังทำต่างๆ แต่จะไม่เหมือนกับสิ่งที่ปรากฏ ทางตาและเรานึกเป็นเรื่อง เพราะว่าในฝันนั้นไม่มีสิ่งที่ปรากฏทางตาเยอะๆ มีแต่ เฉพาะเรื่องที่เราจำไว้และคิดขึ้น นี่เป็นการเปรียบเทียบ ในขณะที่กำลังเห็นขณะนี้ยังสามารถรู้ได้ว่า ขณะที่สีสันวัณณะปรากฏ เป็นสภาพธรรมอย่างหนึ่งที่มีจริง แต่เรื่องที่เราจำออกมาจากสิ่งที่ปรากฏทางตา เป็นเฉพาะเรื่อง ไม่ครบ ไม่มีใครจำกิ่งไม้อ่อนๆ มีใบ ๑๐ ใบ ๒๐ ใบทางโน้น เสาอยู่ทางนี้ และประตูอยู่ทางโน้น อักษรเขียนลงมาว่าอย่างนี้ ไม่มีใครจำเลย สิ่งต่างๆ เหล่านี้ปรากฏ แต่เราจำเพียงเฉพาะเรื่องที่เราคิดเท่านั้น
ที่มา และ รับฟังเพิ่มเติม ...
แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ 2011
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง