พันธนสูตร - เครื่องจองจำ คือ ขันธ์ ๕ - o๖ ต.ค. ๒๕๕o

 
บ้านธัมมะ
วันที่  1 ต.ค. 2550
หมายเลข  4972
อ่าน  1,810

สนทนาธรรมที่มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา

พระสูตร ที่นำมาสนทนาที่มูลนิธิฯ

วันเสาร์ ๖ ต.ค. ๒๕๕๐

เวลา ๐๙:๐๐ - ๑๒:๐๐ น.

๕. พันธนสูตร

ว่าด้วยเครื่องจองจำ คือ ขันธ์ ๕

[เล่มที่ 27] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค เล่ม ๓ หน้าที่ ๓๗๘


  ความคิดเห็นที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 1 ต.ค. 2550

[เล่มที่ 27] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย ขันธวารวรรค เล่ม ๓ หน้าที่ ๓๗๘

๕. พันธนสูตร

ว่าด้วยเครื่องจองจำ คือขันธ์ ๕

[๓๐๔] กรุงสาวัตถี ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ปุถุชนผู้ไม่ได้สดับแล้วในโลกนี้ ไม่ได้เห็นพระอริยะทั้งหลาย ไม่ฉลาดในธรรมของพระอริยะ มิได้รับแนะนำในอริยธรรม มิได้เห็นสัตบุรุษทั้งหลาย ไม่ฉลาดในธรรมของสัตบุรุษ มิได้รับแนะนำในสัปปุริสธรรม ย่อมตามเห็นรูปโดยความเป็นอัตตา เห็นอัตตาว่ามีรูปเห็นรูปในอัตตา หรือเห็นอัตตาในรูป

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่า ปุถุชนผู้ไม่ได้สดับแล้ว เป็นผู้ถูกเครื่องจองจำคือ รูป จองจำไว้แล้ว เป็นผู้ถูกเครื่องจองจำทั้งภายในทั้งภายนอกจองจำไว้แล้ว เป็นผู้มองไม่เห็นฝั่งนี้ เป็นผู้มองไม่เห็นฝั่งโน้น ย่อมแก่ทั้งๆ ที่ถูกจองจำ ย่อมตายทั้งๆ ที่ถูกจองจำ ย่อมไปจากโลกนี้สู่โลกหน้าทั้งๆ ที่ถูกจองจำย่อมตามเห็นเวทนา ... ตามเห็นสัญญา ... ตามเห็นสังขาร ... ตามเห็นวิญญาณ โดยความเป็นอัตตา เห็นอัตตาว่ามีวิญญาณเห็นวิญญาณในอัตตา หรือเห็นอัตตาในวิญญาณ

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่า ปุถุชนผู้ไม่ได้สดับแล้ว เป็นผู้ถูกเครื่องจองจำ คือ เวทนา สัญญา สังขารวิญญาณ จองจำไว้แล้ว เป็นผู้ถูกเครื่องจองจำ ทั้งภายในทั้งภายนอกจองจำไว้แล้ว เป็นผู้มองไม่เห็นฝั่งนี้ เป็นผู้มองไม่เห็นฝั่งโน้นย่อมแก่ทั้งๆ ที่ถูกจองจำ ย่อมตายทั้งๆ ที่ถูกจองจำ ย่อมไปจากโลกนี้สู่โลกหน้าทั้งๆ ที่ถูกจองจำ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 1 ต.ค. 2550

[๓๐๕ ] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ส่วน อริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว ผู้ได้เห็นพระอริยะทั้งหลาย ผู้ฉลาดในธรรมของพระอริยะ ผู้ได้รับแนะนำในอริยธรรม ผู้ได้เห็นสัตบุรุษทั้งหลาย ผู้ฉลาดในธรรมของสัตบุรุษ ผู้ได้รับแนะนำดีแล้วในสัปปุริสธรรม ย่อมไม่พิจารณาเห็นรูป โดยความเป็นอัตตา ไม่เห็นอัตตาว่ามีรูป ไม่เห็นรูปในอัตตา หรือไม่เห็นอัตตาในรูป

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่า อริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว ไม่เป็นผู้ถูกเครื่องจองจำ คือ รูปจองจำไว้แล้ว ไม่เป็นผู้ถูกเครื่องจองจำทั้งภายในภายนอกจองจำไว้ เป็นผู้มองเห็นฝั่งนี้เป็นผู้มองเห็นฝั่งโน้นเราตถาคตกล่าวว่า ภิกษุนั้นพ้นแล้วจากทุกข์ย่อมไม่พิจารณาเห็นเวทนา ... สัญญา ... สังขาร ... วิญญาณ โดยความเป็นอัตตา ไม่เห็นอัตตาว่ามีวิญญาณไม่เห็นวิญญาณในอัตตา ไม่เห็นอัตตาในวิญญาณ

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่า อริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว ไม่เป็นผู้ถูกเครื่องจองจำคือ เวทนา สัญญา สังขารวิญญาณ จองจำไว้ ไม่เป็นผู้ถูกเครื่องจองจำทั้งภายในภายนอกจองจำไว้ เป็นผู้มองเห็นฝั่งนี้ เป็นผู้มองเห็นฝั่งโน้น เราตถาคตกล่าวว่าภิกษุนั้นพ้นแล้วจากทุกข์

จบ พันธนสูตรที่ ๕

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 1 ต.ค. 2550

อรรถกถาพันธนสูตรที่ ๕

พึงทราบวินิจฉัยในพันธนสูตรที่ ๕ ดังต่อไปนี้ :-

บทว่า อตีรทฺสสี ความว่า วัฏฏะ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเรียกว่า ฝั่ง (ใน) ปุถุชนมองไม่เห็นฝั่งนั้น.

บทว่า อปารทสฺสี ความว่า นิพพาน พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสเรียกว่า ฝั่ง (นอก) ปุถุชนมองไม่เห็นฝั่งนั้น

บทว่า พนฺโธ ความว่า (ปุถุชน) เป็นผู้ถูกผูกด้วยกิเลส จึงเกิด แก่ ตาย และจากโลกนี้ไปสู่โลกอื่น

พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสวัฏฏทุกข์ไว้ในสูตรนี้แล

จบ อรรถกถาพันธนสูตรที่ ๕

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
Anutta
วันที่ 3 ต.ค. 2550

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
chatchai.k
วันที่ 21 ก.ย. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ