ไม่เที่ยงทุกๆ ขณะ
"ควรคิดถึงอนิจจตาเนืองๆ " ความไม่เที่ยงเป็นของจริง แล้วก็ไม่เที่ยงอยู่ทุกๆ ขณะด้วย ทุกอย่างเป็นแต่สิ่งที่เกิดขึ้นปรากฏแล้วก็หมดไป การเจริญสติปัฏฐานตั้งต้นเมื่อไร ที่ไหนได้ทุกๆ ขณะ เพราะว่าสิ่งที่หมดไปแล้วก็หมดไปแล้ว สิ่งที่กำลังมีอยู่ก็พิจารณาเดี๋ยวนี้ไม่ต้องคอย
การระลึกถึงอนิจจตาหรือความไม่เที่ยงนี้ ทำให้ผู้เจริญสติ เจริญสติตรงตามสภาพของนามและรูปที่ปรากฏในขณะนั้น เพราะเหตุว่าขณะนี้นามใดกำลังปรากฏรูปใดกำลังปรากฏ ระลึกขึ้นได้ในขณะใด ก็พิจารณารู้ลักษณะของสิ่งที่กำลังปรากฏในขณะนั้นทันที
แม้ว่าจะเป็นภาษิตเพียงสั้นๆ คือว่าควรคิดถึงอนิจจตาเนืองๆ แต่ก็มีประโยชน์สำหรับการเจริญสติปัฏฐานว่า ท่านจะเจริญในขณะไหนก็ได้ เพราะว่าไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ไหน ขณะไหนก็ตาม ก็มีนามและรูปที่กำลังปรากฏในขณะนั้น
ท่านที่ศึกษาพระไตรปิฏกน่าจะเฉลียวใจ ที่พระผู้มีพระภาคไม่เคยเว้นเลยจักษุไม่เที่ยง รูปคือสีไม่เที่ยง จักขุวิญญาณไม่เที่ยง โสตหูไม่เที่ยง เสียงไม่เที่ยง สัททหรือสัททารมณ์ไม่เที่ยง โสตวิญญาณไม่เที่ยง หมดทั้ง ๖ ทวาร ไม่ว่าจะเป็นทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ ก็ได้กล่าวซ้ำแล้วซ้ำอีกๆ
วิธีเดียวที่จะละคลายความสังสัยได้ก็คือการเจริญสติ พิจารณารู้ลักษณะของนามหรือรูปที่กำลังปรากฏ ซึ่งถ้าไม่พิจารณาสงสัยอยู่ เวลานี้ก็อาจจะไม่รู้ว่า ทางตาเห็น กับสีที่ปรากฏที่เป็นของจริงนั้น ต่างกันอย่างไรหรือว่าทางหูก็อาจจะยังสงสัย ยังไม่แน่ชัดว่าได้ยินกับเสียงที่ปรากฏทางหูนั้น ต่างกันอย่างไร แต่ถ้ามีการเจริญสติรู้ลักษณะของนามและรูปแต่ละทาง ก็จะเจริญสติบ่อยขึ้น ชินขึ้น ความไม่รู้ความสงสัยก็จะค่อยๆ คลายไปและหมดไปได้
ที่มา และ รับฟังเพิ่มเติม ...