อยากทราบสภาวะของผู้ที่ได้ญาณ

 
Khun
วันที่  3 ต.ค. 2550
หมายเลข  4998
อ่าน  1,866

เพราะเท่าที่ศึกษามาทั้งการฟังอ่าน วิเคราะห์และพิจารณา ยังไม่เคยเจอคำอธิบาย ถึงสภาวะของผู้ที่ได้นามรูปปริจเฉทญาณและสภาวะของสภาพธรรมในขณะที่พบ ของผู้ที่ได้ญาณนั้นๆ เพราะเท่าที่พบจะมีแต่สภาวะหรือสภาพของแต่ละขั้นที่เป็นการปฎิบัติ สมถภาวนาเท่านั้นค่ะ อาจจะมีคำอธิบายในเรื่องนี้ไว้แล้วแต่ดิฉันคงศึกษาไปไม่ถึง จึงขอความกรุณาช่วยแนะนำในส่วนนี้ ให้ดิฉันได้เข้าใจด้วยเถอะค่ะ

โดยความเคารพอย่างสูง จากคนความรู้น้อย


Tag  ญาณ  
  ความคิดเห็นที่ 1  
 
study
วันที่ 3 ต.ค. 2550

สภาวของผู้ที่ได้ญาณขั้นต่างๆ มีปรากฏในพระไตรปิฎกและอรรถกถามากมาย เพราะคำสอนทั้งหมดในพระไตรปิฎกเป็นคำสอนของท่านผู้ตรัสรู้จึงแสดงให้ผู้อื่นรู้ตาม ได้ ดังข้อความในพระสูตรว่า

ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่...

ธรรมอันไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า [สัจจวิภังคสูตร]

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 3 ต.ค. 2550

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

แม้เราจะได้คำอธิบายว่า ผู้ที่ได้ นามรูปปริจเฉทญาณ เป็นอย่างนี้ (แสดงแต่ผล) แต่ก็ต้องกลับมาเริ่มที่ความเข้าใจเบื้องต้น ซึ่งก่อนจะถึงนามรูปปริจเฉทญาณ ปัญญาต้องเป็นลำดับ ก็ต้องอบรมสติปัฏฐาน และสติปัฏฐาน ระลึกรู้อะไร ในขณะไหน และก่อนจะถึงสติปัฏฐาน ต้องเริ่มจากอะไร จากการฟังให้เข้าใจก่อนไหม และฟังเรื่องอะไร ก็เรื่องสภาพธัมมะที่มีจริง ในขณะนี้ ที่กำลังปรากฏหรือเปล่า ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นคำอธิบายในเรื่อง นามรูปปริจเฉทญาณ หรือผู้ที่เป็นพระโสดาบันที่จะมีกล่าวว่า ได้ประจักษ์ว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้น เป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งปวงล้วนมีความดับไปเป็นธรรมดา ก็ไม่พ้นจากสภาพธัมมะที่มีในขณะนี้เลยที่เป็นอย่างนั้น ดังนั้นการอบรม ปัญญาจึงควรที่จะเริ่มเข้าใจถูกตั้งแต่เบื้องต้นก่อนว่า ธรรมคืออะไร ปัญญารู้อะไร และเมื่อถึงระดับปัญญานั้น (นามรูปปริจเฉทญาณ) ก็จะไม่สงสัยเลย เพราะอบรมเหตุมา ถูกแล้วและได้ประจักษ์ เพียงแต่ว่าที่สำคัญได้เข้าใจเหตุที่ถูกต้อง ตั้งแต่เบื้องต้นหรือยังว่าคืออย่างไร สนใจที่เหตุ อบรมเหตุ ผลย่อมมาเองครับ

ขออนุโมทนาครับ

ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 3 ต.ค. 2550

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ครูโอ
วันที่ 3 ต.ค. 2550

จากหนังสือปรมัตถธรรมสังเขป หน้า ๔๖๗

ก่อนที่มัคควิถีจิตจะเกิดขึ้นได้นั้น มหากุศลญาณสัมปยุตตจิตเกิดขึ้นระลึก ศึกษา รู้ลักษณะของนามธรรมและรูปธรรมไปแต่ละชาติๆ จนกว่าปัญญาที่สังเกตรู้ลักษณะของนามธรรมและรูปธรรมจะเพิ่มขึ้น เมื่อปัญญาสมบูรณ์มั่นคงถึงขั้นใด มหากุศลญาณสัมปยุตตจิตที่เป็นวิปัสสนาญาณก็เกิดขึ้นประจักษ์แจ้งลักษณะของนามธรรมและรูปธรรม ตามลำดับขั้นของวิปัสสนาญาณทางมโนทวาร คือ วิปัสสนาญาณที่ ๑

นามรูปปริจเฉทญาณ

มหากุศลญาณสัมปยุตตจิต เกิดขึ้นประจักษ์แจ้งลักษณะของนามธรรมและรูปธรรมที่แยกขาดจากกันทีละอารมณ์ โลกปรากฏสภาพที่สูญเปล่าจากตัวตน ขณะนั้นไม่มีอัตตสัญญา ที่เคยทรงจำสภาพธรรมรวมกันเป็นโลก เมื่อสภาพธรรมขณะนั้นปรากฏลักษณะที่เป็นอนัตตา สัญญาจำลักษณะที่เป็นอนัตตาของสภาพธรรมนั้นๆ จึงจะเริ่มมีได้ และสติปัฏฐานก็จะต้องระลึกถึงอนัตตสัญญา ที่ได้ประจักษ์แล้ว เมื่อพิจารณาลักษณะของนามธรรม และรูปธรรมอื่นๆ ต่อไป เพราะถ้าไม่ระลึกถึงอนัตตสัญญาที่ได้ประจักษ์แล้วในนามรูปปริจเฉทญาณเพิ่มขึ้นอีก อัตตสัญญาที่สะสมพอกพูนมาเนิ่นนานในสังสารวัฏฏ์ก็หมดสิ้นไปไม่ได้

ข้อความบางตอนจาก
อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต เล่ม ๓

ปฐมสันทิฏฐิกสูตร

ว่าด้วยการเห็นธรรมด้วยตนเอง

ธรรมอันผู้บรรลุจะพึงเห็นเอง ไม่ประกอบด้วยกาล ควรเรียกให้มาดู ควรน้อมเข้ามา อันวิญญูชนพึงรู้เฉพาะตน

ถ้าถึงแล้วก็จะหมดความสงสัยเองครับ ถ้ายังไม่ถึงก็อบรมเจริญปัญญาต่อและเป็นผู้ที่ตรง รู้สิ่งที่ควรศึกษา คือพระธรรมตัวจริงๆ ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ด้วยพระปัญญาคุณโดยละเอียดขึ้นๆ เพื่อจะเป็นปัจจัยต่อการเจริญปัญญา ให้รู้สภาพธรรมที่ปรากฏได้โดยสติเกิดระลึกรู้สภาพธรรมนั้นในขณะนี้อย่างค่อยเป็นค่อยไปตามกำลังที่สั่งสมครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
Khun
วันที่ 3 พ.ย. 2551

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
Khun
วันที่ 17 พ.ค. 2554

มาอ่านอีกรอบ

สาธุ... อนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
chatchai.k
วันที่ 30 พ.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
yu_da2554hotmail
วันที่ 8 มี.ค. 2566

ยินดีในกุศลจิตค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ