ผู้ที่ปฏิบัติธรรม...ทำไมยังกลัวผี

 
oom
วันที่  4 ต.ค. 2550
หมายเลข  5006
อ่าน  4,486

ผู้ที่ปฏิบัติธรรม แต่ยังกลัวผีอยู่ เป็นเพราะยังมีโทสะอยู่หรือใช่หรือไม่ หรือเป็นเพราะเหตุอื่น


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
study
วันที่ 4 ต.ค. 2550

ผู้ที่กลัวผี กลัวสัตว์ร้าย กลัวความเจ็บ กลัวความตาย เพราะยังละโทสะยังไม่ได้ จริงอยู่ บางท่านแม้ยังละโทสะไม่ได้ แต่เป็นผู้มีจิตใจเข้มแข็ง มีคุณธรรม มีศีลบริสุทธิ์ มีสมาธิ (ได้ฌาน) มีปัญญา เป็นต้น อาจอยู่ป่าตามลำพังโดยไม่กลัวผีหรือสัตว์ร้าย แต่ใจลึกๆ ของผู้มีกิเลสย่อมกลัวตายเป็นธรรมดา

ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่ ...

บุคคล ๒ จำพวก เมื่อฟ้าผ่าไม่สะดุ้ง

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
oom
วันที่ 4 ต.ค. 2550

ขอบพระคุณมากค่ะ จะได้ไปบอกให้เพื่อนฟังว่า ถ้ายังกลัวผีอยู่ ก็เป็นโทสะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 4 ต.ค. 2550

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

ขณะที่กลัว ขณะนั้น เวทนา ความรู้สึกเป็นโทมนัสเวทนา ซึ่งเกิดกับจิตที่เป็นโทสมูลจิต คำว่า ผู้ปฏิบัติธรรมคืออย่างไร ธรรมปฏิบัติหน้าที่ โดยอาศัยการฟังให้เข้าใจ และเมื่อเข้าใจแล้ว ธรรมนั้นเองปฏิบัติให้รู้ตามความเป็นจริงว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา นี่คือการปฏิบัติที่ถูกต้อง ไม่มีตัวตนจะพยายามไปปฏิบัติ และการดับกิเลสขั้นแรกคือ ดับความเห็นผิด ดังนั้น โทสะก็ย่อมมี ก็เป็นเหตุปัจจัยให้กลัวผี ถึงแม้บางท่านอาจจะกล่าวว่าไม่กลัวผี กลัวอย่างอื่นได้ไหม แล้วถ้าเป็นผู้ที่มีความกลัวอยู่ อบรมปัญญาได้หรือเปล่า ความกลัวก็มีจริงเป็นธรรมครับ ปัญญาต้องรู้ทั่วว่า ความกลัวเป็นธรรม ไม่ใช่เรา นี่คือหนทางการดับกิเลส มิใช่ว่าไม่ให้ความกลัวเกิด เป็นไปไม่ได้ แต่เกิดแล้วควรรู้ความจริงของสิ่งที่เกิดนั้น เพราะเราถูกความไม่รู้ยึดติดว่า เป็นเราที่กลัว เป็นเราที่จะปฏิบัติครับ ค่อยๆ ฟังไปนะ

ขออนุโมทนาครับ

ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
wannee.s
วันที่ 5 ต.ค. 2550

ในพระไตรปิฎก มีแสดงไว้ ภิกษุรูปหนึ่ง เป็นคนขี้กลัว ขี้ตกใจ พระพุทธเจ้าก็ทรงแสดงธรรม ไม่ใช่แต่ในบัดนี้ ที่ภิกษุนี้เป็นคนขี้กลัว แม้ในอดีตก็เคยขี้กลัว ขี้ตกใจ ภายหลังได้ฟังธรรมะจากพระพุทธเจ้าแล้วก็ได้บรรลุเป็นพระโสดาบันค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
Buppha
วันที่ 5 ต.ค. 2550

ขออนุโมทนา

อาการ กลัว วิตกกังวล เป็นเจ้าเรือนมีอยู่ในปุถุชนทั่วๆ ไปค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ครูโอ
วันที่ 8 ต.ค. 2550

เพราะปุถุชนยังมีความรักตัวเองมาก มีกิเลสหนา จึงไม่ปรารถนาในอารมณ์ที่ไม่น่าพึงพอใจทุกประการ ที่ต้องทุกข์ใจบ่อยๆ ก็เป็นเพราะว่าไม่มีใครที่จะได้รับกุศลวิบากตลอดเวลา เวลาที่ได้รับอกุศลวิบากทางทวารต่างๆ ที่ไม่เป็นไปตามที่ตนต้องการ จึงเกิดโทสมูลจิตอันประกอบไปด้วยโทมนัสเวทนา หวาดกลัวในภัยที่เกิด หรือแม้ยังไม่ได้รับวิบากนั้นๆ ก็เกิดความคิดปรุงแต่งจิตให้หวาดกลัวในภัยทุกๆ อย่างที่จะเกิดในภายหน้าหรือที่จะทำอันตรายให้กับขันธ์ ๕ อันเป็นที่รักของตน ที่ตนเข้าไปยึดไว้ได้เช่นกัน

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
sirijata
วันที่ 8 ต.ค. 2550

เนื่องจากอยู่ชมรมคนกลัวผี เพราะโทสะ โมหะยังมากอยู่ จึงขอเล่าเคล็ดลับจากประสบการณ์ ให้เพื่อนสมาชิกลองนำไปใช้ดูนะคะ คือ มีความอ่อนน้อม (ต่อสรรพสัตว์+ผี) ถือศีล ๕ ให้มั่นคง เจริญสติปัฏฐาน ทำกุศลมากๆ อุทิศส่วนกุศลและแผ่เมตตาเป็นประจำ พบว่าผีไม่ค่อยมายุ่งด้วยค่ะ ถ้ามาหา ก็แบบเกรงใจหรือเพราะเขาทุกข์ร้อนจริงๆ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
ครูโอ
วันที่ 8 ต.ค. 2550

ที่ร้ายเสียยิ่งกว่า ผี (อมนุษย์) เป็นมาร คืออนุสัยกิเลสที่นอนเนื่องอยู่ในจิตของเราเอง ไม่ใช่ผีที่เป็นเพียงรูปารมณ์หยาบๆ ที่มากระทบจักขุปสาท แล้วจักขุวิญญาณเกิดขึ้นเห็นแล้วก็ดับ ภวังคจิตเกิดดับ แล้วมโนทวารรู้รูปารมณ์นั้นต่อ ทำให้เกิดจิตที่คิดนึกทางใจว่าเป็นผี โดยที่แท้ จิตก็มีบัญญัติเป็นอารมณ์ไปเสียแล้วครับ เหตุนี้ ผู้ที่มีปรกติเจริญสติ ควรระวังมารที่นอนเนื่องในจิตของตน ที่จะส่งลูกสมุนให้ปะทุขึ้นมาเป็นอกุศลจิตได้ตลอดเวลาขณะที่เราตื่นดีกว่าครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
เซจาน้อย
วันที่ 11 พ.ค. 2554
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
nopwong
วันที่ 26 ธ.ค. 2555

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
ใหญ่ราชบุรี
วันที่ 2 ก.พ. 2558

สาธุ อนุโมทนา และขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
peem
วันที่ 20 ธ.ค. 2558

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
chatchai.k
วันที่ 9 ส.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
yu_da2554hotmail
วันที่ 3 มี.ค. 2566

ยินดีในกุศลจิตค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
Jarunee.A
วันที่ 2 ธ.ค. 2566

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ