เมตตา ๐๕ - ขณะเมตตาเกิด ไม่ก่อเวร
ผู้มีเมตตา ย่อมไม่มีเวรกับใครๆ
พระผู้มีพระภาคทรงแสดงเรื่อง คุณของการอบรมเจริญเมตตาไว้มากในพระสูตรต่างๆ ข้อความในสังยุตตนิกาย สคาถวรรค มณิภัททสูตรที่ ๔ มีข้อความว่า สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ที่เจดีย์ ชื่อ มณิมาฆกะอันเป็นที่ครอบครองของยักษ์ชื่อ มณีภัททะ ในแคว้นมคธ ครั้งนั้นแล ยักษ์ชื่อมณีภัททะเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ครั้นแล้วได้กล่าวคาถานี้ในสำนักพระผู้มีพระภาคว่า
"ความเจริญย่อมมีแก่คนที่มีสติทุกเมื่อ คนมีสติย่อมได้ความสุข ความดีย่อมมีแก่คนมีสติเป็นนิตย์ และคนมีสติย่อมหลุดพ้นจากเวร" พระผู้มีพระภาคตรัสว่า "แต่ผู้ใดมีจิตใจยินดีในความไม่เบียดเบียนตลอดวันและคืนทั้งหมด และเป็นผู้มีส่วนแห่งเมตตาในสรรพสัตว์ย่อมไม่มีเวรกับใครๆ "
มีท่านผู้หนึ่งบอกว่า เวลาที่นั่งเฉยๆ รู้สึกเลื่อนลอย ก็เลยต้องท่องเมตตายาวๆ สำหรับผู้ที่อบรมเจริญสติปัฏฐาน ไม่ควรลืมว่า ในขณะที่เลื่อนลอยหรือเข้าใจว่าไม่ได้คิดอะไรเลยนั้น ควรที่สติจะเกิดระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏในขณะนั้นทันที เพราะการที่จะรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏได้นั้นไม่ง่ายเลย ต้องอาศัยการอบรมเจริญปัญญาจริงๆ โดยรู้ว่าขณะที่สติเกิดระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏนั้นจะต้องศึกษาคือ สำเหนียกพิจารณา เพื่อรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่เป็นสภาพรู้เป็นนามธรรม หรือเป็นลักษณะของรูปธรรมซึ่งปรากฏทางหนึ่งทางใดที่สติกำลังระลึกรู้
แต่ถ้าขณะนั้นท่อง ก็จะลืมว่า ควรที่สติจะเกิดบ่อยๆ เนืองๆ เพื่ออบรมเจริญปัญญารู้สภาพธรรมที่กำลังปรากฏ เพราะสภาพธรรมเป็นสิ่งที่รู้ยาก ขณะที่ท่องก็ไม่แน่ว่าขณะนั้นเป็นกุศลจิต หรือไม่ใช่กุศลจิต และขณะที่ท่องนั้นอาจไม่รู้ว่าจุดประสงค์จริงๆ ที่ท่องนั้นคืออะไร แต่ผู้ที่จะอบรมเจริญเมตตาให้ยิ่งขึ้นนั้น ต้องเป็นผู้ที่เห็นโทษของอกุศลนานาประการ ทั้งโทสะ มานะ อิสสา และมัจฉริยะ เป็นต้น
..จากหนังสือ "เมตตา" เปิดอ่าน --> คลิกที่นี่