เมตตา ๐๙ - ผู้มีปรกติอบรมเมตตา...เมตตาเกิดโดยปรกติ

 
chaiyut
วันที่  10 ต.ค. 2550
หมายเลข  5071
อ่าน  1,475

ผู้มีปรกติอบรมเมตตา...เมตตาเกิดโดยปรกติ

ช. การเจริญเมตตา ถ้าใช้ท่องจะไม่ได้ผลเลย เป็นการเข้าใจผิด การที่จะได้ผลต้องมีเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงๆ ในระยะ ๑-๒ ปีที่ผ่านมา ผมรู้สึกว่าเมตตาเพิ่มมากขึ้นกว่าแต่ก่อน เพราะคำๆ เดียวของอาจารย์ที่บรรยายและผมได้ฟังคือ การกระทำ ไม่ว่ามากหรือน้อยเพื่อประโยชน์สุขของผู้อื่น ข้อนี้ผมคิดอยู่เสมอ เช่น เมื่อกี้นี้ผมกินน้ำแข็ง คุณลุงคนหนึ่งทำท่าอยากกินน้ำแข็ง ครั้งแรกจิตก็ยังไม่อยากไปซื้อให้ ครั้งที่สองก็คิดว่าไปซื้อให้เท่านี้คุณลุงก็ได้ประโยชน์สุขแล้ว เมตตาเกิด แล้วผมวิ่งออกไปซื้อทันทีเมื่อสติเกิดรู้สึกว่าจิตเบาแล้วอ่อน ทุกครั้งไม่ว่าจะเป็นยุงหรือสัตว์ที่เราจะฆ่า หรือกำลังตกอยู่ในฐานะลำบาก ผมมักจะช่วยแม้บางทีไม่อยากจะลุกขึ้น เราเสียประโยชน์แค่นี้ แต่เป็นประโยชน์แก่สัตว์นั้น บางทีมีขอทานมาขอ ยังหนุ่มๆ มือไม้ก็ยังดีๆ ผมก็คิดว่า เขาได้เงินของเรา เขาคงมีความสุขได้ไปซื้ออาหารกิน บางครั้งมีคนมาขายของ ผมไม่อยากได้ แต่ก็ซื้อด้วยเมตตาจริงๆ ไม่ได้ซื้อเพราะความอยากได้หรือต้องการ ผมนึกถึงคำพูดของอาจารย์ที่ว่า "การกระทำไม่ว่ามากหรือน้อย แต่เพื่อประโยชน์สุขแก่ผู้อื่น" นึกอย่างนี้ครั้งใด กุศลคือเมตตาเกิดขึ้นทุกครั้ง

ส. ขออนุโมทนา นี่เป็นการประพฤติปฏิบัติธรรม เป็นการอบรมเจริญเมตตาในชีวิตประจำวันจริงๆ เป็นการอบรมให้เมตตามีกำลังเกิดขึ้นบ่อยๆ เนืองๆ ถ้าในชีวิตประจำวันไม่มีเมตตาแล้ว เวลาอยู่คนเดียวจะท่องเมตตาสักเท่าไหร่ เมื่อมีเหตุการณ์เฉพาะหน้าจริงๆ เมตตาก็ไม่เกิด เพราะฉะนั้น การเจริญเมตตาจึงเป็น การอบรม การประพฤติ การปฏิบัติจริงๆ ในขณะที่มีเหตุการณ์เฉพาะหน้าเกิดขึ้น

ท. เรื่องของการท่อง ผมก็ยังไม่หายข้องใจการท่องก็ไม่ใช่ เรื่องง่ายเช่น เรานึกให้บุคคลที่ไม่เป็นที่รักของเรา เช่น นาย ก. ทำความเจ็บใจให้แก่เราในอดีต ในเวลานี้เราจะเจริญเมตตา เราจะนึกว่าให้นาย ก. มีความสุขไม่ให้นาย ก. มีความทุกข์ ขณะท่องไม่ต้องลงทุนลงแรงเลย ยังไม่ยอม

ส. เพราะไม่ได้อบรมเจริญเมตตาเป็นปกติตามลำดับขั้น วันนี้ไม่เห็นนาย ก. แต่เห็นคนอื่น ระลึกได้ไหมว่า ขณะที่เห็นคนอื่นนั้นเมตตาหรือเปล่า ถ้าเป็นผู้อบรมเจริญเมตตาต้องรู้ว่าขณะนั้นจิตปราศจากอกุศลทั้งปวง ปราศจากมานะความสำคัญตน เพราะแม้การมอง การคิด ก็ไม่ได้มองหรือคิดอย่างดูหมิ่น แม้แต่กายคือ การกระทำ หรือวาจาที่จะพูดกับบุคคลใด ก็ประกอบด้วยเมตตา ไม่ว่าจะพบเห็นใคร สัตว์ บุคคลใดๆ ทั้งสิ้น สติสัมปชัญญะ เกิดระลึกรู้ได้ว่าขณะนั้นสภาพของจิตมีเมตตาหรือไม่มีเมตตาอบรมเจริญไปเรื่อยๆ ไม่เจาะจงจะมีเมตตาเฉพาะนาย ก.

จากหนังสือ "เมตตา" เปิดอ่าน --> คลิกที่นี่


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
wannee.s
วันที่ 10 ต.ค. 2550

ผู้มีปกติเจริญเมตตา ย่อมเป็นที่รักของมนุษย์และอมนุษย์

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
chatchai.k
วันที่ 24 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ