เมตตา ๑๕ - ขณะเมตตาเกิด ไม่หลงลืมสติ
ผู้มีเมตตา...สติเกิด...ระลึกได้ทันที
ท. ผมจำได้ว่า สมัยเด็กๆ พ่อเคยให้ท่องหนังสือ ท่องได้หมดทั้งเล่ม แต่ไม่รู้ความหมาย ท่องไปอย่างนั้นเหมือนท่องเมตตา ท่องไปอย่างนั้นไม่รู้เรื่องและทุกวันนี้พระภิกษุสงฆ์ทั้งหลายทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็น ท่านก็สวดมนต์ไปจุดประสงค์ในการสวดมนต์ของท่านอยู่ที่ไหนครับ
ส. ไม่ว่าท่านจะสวดเรื่องความไม่เที่ยงของรูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์และวิญญาณขันธ์ เรื่องความไม่ใช่ตัวตนของรูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์และวิญญาณขันธ์ ก็เพื่อให้ระลึกรู้ลักษณะของรูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์และวิญญาณขันธ์ ที่กำลังปรากฏว่าไม่เที่ยง
ท. อันนี้ก็ฉันใด ผมก็คิดว่า การท่องให้นาย ก. มีความสุข เพื่อเมตตาจิตของเราต่อไปในภายหน้าจะได้มีเมตตาต่อนาย ก.
ส. ข้อความในวิสุทธิมรรค ตามหัวข้อของการอบรมเจริญเมตตาตามลำดับคือ ผู้เจริญเมตตาจำละโทสะ บรรลุขันติเพราะเหตุไร เพราะสำหรับภาวนาคือ เมตตานี้ จำละโทสะและบรรลุขันติฯ ก็แต่ว่าใครๆ ก็ไม่อาจเพื่อละโทษอะไรๆ ที่ตนยังไม่เห็นแล้ว และไม่อาจเพื่อบรรลุอานิสงส์อะไรๆ ที่ตนยังไม่ทราบแล้ว ไม่มีข้อความที่บอกให้ท่องแต่ให้รู้เหตุผล โดยข้อความต่อไป แสดงโทษของโทสะและอานิสงส์ของขันติ เพื่อเมื่อโทสะเกิด สติสัมปชัญญะก็มีปัจจัยที่จะระลึกได้ทันทีและเห็นโทษของโทสะในขณะนั้น การเริ่มอบรมเจริญเมตตานั้นจำต้องรู้บุคคลเป็นโทษ ๔ จำพวก โดยจำต้องรู้ว่า ในขั้นต้นไม่ควรเริ่มเจริญเมตตาในบุคคล ๔ จำพวกเหล่านี้ คือ
คนผู้ที่ไม่เป็นที่รัก ๑
คนที่เป็นรักยิ่ง ๑
คนพอปานกลาง ๑
คนจองเวร ๑
และไม่ควรเจริญโดยเจาะจงในคนที่ต่างเพศกัน และสำหรับคนตายแล้วไม่ควรเจริญทีเดียว แสดงว่าการเริ่มเจริญเมตตาในบุคคลเป็นโทษนั้นไม่สำเร็จ เพราะการที่จะเริ่มอบรมให้เมตตาเจริญเพิ่มขึ้นในบุคคลหนึ่งบุคคลใดเหล่านั้น ย่อมลำบาก และสำหรับคนตายแล้วนั้น ย่อมสูญสิ้นการเป็นบุคคลนั้นโดยเป็นบุคคลใหม่ทันทีที่ปฏิสนธิจิตของชาติต่อไปเกิดต่อจากจุติจิตของชาตินี้ ฉะนั้นเมื่อเป็นบุคคลใหม่แล้วจึงไม่ควรเจริญเมตตาในบุคคลที่ตายแล้ว
ข้อความต่อไปแสดงว่า การอบรมเจริญเมตตาให้ยิ่งขึ้นนั้น ควรเริ่มเจริญเมตตาในผู้เป็นที่เคารพยกย่องและมีศีล มีความรู้ และคุณความดี เช่นครูอาจารย์ผู้เป็นที่รักนับถือของตน เป็นต้น ก่อน ซึ่งยังแผ่ไปสู่คนอื่นๆ ไม่ได้เพราะเมตตายังไม่มากพอที่จะแผ่ได้ ต้องอบรมเจริญจนเมตตาเพิ่มมากยิ่งๆ ขึ้นอีก จึงแผ่กว้างออกไปจากบุคคลหนึ่งสู่อีกบุคคลหนึ่งต่อไป
..จากหนังสือ "เมตตา" เปิดอ่าน --> คลิกที่นี่