โดดเดี่ยวในหนทางนี้แต่.......

 
แล้วเจอกัน
วันที่  13 ต.ค. 2550
หมายเลข  5115
อ่าน  1,386

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

ท่ามกลางความโดดเดี่ยว ลำพังในหนทาง ไม่มีใครมาร่วมเข้าใจในหนทางนี้


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 13 ต.ค. 2550

เหงาที่ต้องเดินลำพังในหนทาง

การระลึกรู้ลักษณะสภาพธัมมะที่กำลังปรากฎ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 13 ต.ค. 2550

ถูกคลื่น คือกิเลสถาโถม ซัดเข้ามาในชีวิตประจำวัน

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 13 ต.ค. 2550

โดนคุมขังในความไม่รู้ลักษณะของสภาพธัมมะ ที่กำลังปรากฏว่าเป็นธรรม ไม่ใช่สัตว์ บุคคล

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 13 ต.ค. 2550

แต่แล้ว เมื่อปัญญาเกิดจึงเข้าใจว่า..คุ้มค่ากับการเดินลำพัง ในหนทางที ถูกเพราะหมู่สัตว์ส่วนมากย่อมไม่ยินดีในพระธรรมและเข้าใจหนทางที่ผิด จึงมีส่วนน้อย ที่จะเข้าใจหนทางนี้ ทางเพื่อละ ที่สำคัญทางนี้มีไว้สำหรับผู้สะสมความเห็นถูกเท่านั้น จึงภูมิใจที่เดินลำพังแต่เดินมาถูกทางแล้วแต่ในท่ามกลางความลำพังนั้นก็ยังมีบุคคลที่สะสมความเห็นถูกมาเป็นเพื่อนในพระธรรม

ขออนุโมทนาครับ

ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ajarnkruo
วันที่ 14 ต.ค. 2550

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

[เล่มที่ 59] ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม ๓ ภาค ๕ - หน้าที่ ๘๕๒

[๑๓๙๕] กรรมที่บุคคลทำในอสัตบุรุษ ย่อมฉิบหายไม่งอกงาม เหมือนพืชที่บุคคลหว่านลงในไฟย่อมถูกไฟไหม้ไม่งอกงาม ฉะนั้น

[๑๓๙๖] ส่วนกรรมที่บุคคลทำในคนกตัญญู มีศีล มีความประพฤติประเสริฐ ย่อมไม่ฉิบหายไป เหมือนพืชที่บุคคลหว่านลงในนาดี ฉะนั้น

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
medulla
วันที่ 14 ต.ค. 2550
ขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
pornchai.s
วันที่ 14 ต.ค. 2550

พุทธองค์ทรงแสดงธรรม งามทั้งเบื้องต้น ท่ามกลางและที่สุด เปรียบเหมือน บุคคลผู้หงายของที่คว่ำอยู่ เปิดของที่ปิดอยู่ บอกทางแก่คนหลงทาง หรือส่องประทีปในที่มืดเพื่อผู้มีจักษุจะพึงเห็นรูปได้ ฉะนั้น ข้าพเจ้าขอถึงพระรัตนตรัยว่าเป็นสรณะ ตลอดชีวิต

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
อิสระ
วันที่ 15 ต.ค. 2550

ข้าพเจ้าขอเป็นโจรกลับใจ // ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
Komsan
วันที่ 16 ต.ค. 2550

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

และขออนุโมทนาครับ

ธรรมทั้งหลาย เป็น อนัตตา

แม้กุศล และ อกุศล ก็ไม่ใชเรา

มี เพียงปัญญา เท่านั้น ที่ทำให้เข้าใจและเห็นถูกได้

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
พุทธรักษา
วันที่ 16 ต.ค. 2550

เคยได้ยินว่า ผู้มีปัญญา พึงท่องเที่ยวไปผู้เดียวดุจนอแรด... โลภะคือสิ่งที่คอยติดตามไปทุกที่...

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
pornchai.s
วันที่ 18 ต.ค. 2550

ถ้าจำไม่ผิด ท่องเที่ยวไปผู้เดียวดุจนอแรด ท่านหมายถึงพระปัจเจกพุทธเจ้า นะครับ ผู้รู้กรุณา ให้ความกระจ่างด้วยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
suntarara
วันที่ 18 ต.ค. 2550

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
study
วันที่ 18 ต.ค. 2550

ตอบความเห็นที่ 11 คาถาพระปัจเจกพุพธเจ้า...

ว่าด้วยผู้เที่ยวไปคนเดียวเหมือนนอแรด [ขัคควิสาณสูตรที่ ๓]

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
พุทธรักษา
วันที่ 20 ต.ค. 2550

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
citta89121
วันที่ 20 ต.ค. 2550

พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมงามทั้งเบื้องต้น ท่ามกลางและที่สุด เปรียบเหมือนบุคคลผู้หงายของที่คว่ำอยู่ เปิดของที่ปิดอยู่ บอกทางแก่คนหลงทาง หรือส่องประทีปในที่มืดเพื่อผู้มีจักษุจะพึงเห็นรูปได้ ฉะนั้น ข้าพเจ้าขอถึงพระรัตนตรัยว่าเป็นสรณะ ตลอดชีวิต

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
Sam
วันที่ 21 ต.ค. 2550

"ชาติใดเป็นมิตรเกื้อกูลในพระธรรม ชาตินั้นก็ประเสริฐที่สุด"

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 17  
 
olive
วันที่ 22 ต.ค. 2550
ขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 18  
 
chatchai.k
วันที่ 20 พ.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 19  
 
yu_da2554hotmail
วันที่ 22 ม.ค. 2566

ยินดีในกุศลจิต

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ