โทสะ ใครว่าระลึกรู้ได้ง่าย
โลภมูลจิต ที่เกิดร่วมกับอุเบกขาเวทนา รู้ได้ยาก เพราะเป็นความรู้สึก (เวทนา เจตสิก) เฉยๆ เป็นปรกติธรรมดาในชีวิตประจำวัน ขนาด โทสะ (เกิดร่วมกับโทมนัส เวทนาเท่านั้น ไม่เกิดร่วม กับอุเบกขาเวทนา และโสมนัสเวทนา) ยังรู้ได้ยาก เช่น ขณะที่ผม ๑ เส้น ตกลงมาที่ หน้าผาก และเราเอามือปัดขึ้นไป ท่านรู้หรือไม่ว่าขณะนั้น เป็นโทสมูลจิตที่รู้สึกรำคาญ หรือ ขณะที่เห็นฝุ่นเพียงเล็กน้อยอยู่ที่โต๊ะ เก้าอี้ แล้วไม่พอใจเพียงเล็กน้อยก็เป็นโทสะด้วยเหมือนกัน เป็นชีวิตประจำวันจริงๆ ครับ สติปัฏฐาน (วิปัสสนา) สามารถรู้ลักษณะของสภาวธรรมที่กำลังเกิดปรากฏขณะนี้ได้ ทั้งโลภะ โทสะ เย็น ร้อน เห็น ได้ยิน ..... ฯลฯ ถ้าปัญญาของท่าน สะสมมาเพียงพอ ท่านสามารถประจักษ์แจ้งพระนิพพานได้ ขณะที่สติปัฏฐานเกิด ขณะนี้แหละ
แต่ขอบอกครับ ว่าหนทางเจริญวิปัสสนา (มรรค ๘) ที่พระพุทธองค์ ทรงตรัสรู้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่จะเข้าใจขั้นประจักษ์แจ้ง ยากสุดๆ อัครสาวก คือท่านพระสารีบุตร และท่านพระมหาโมคคัลลานะก็ต้องสะสมปัญญาบารมีมา ๑ อสงขัย แสนกับป์ พระอรหันต์อสีติมหาสาวก ๘๐ รูปก็ต้องสะสมมา ๑ แสนกัปป์ ถึงจะ ประจักษ์แจ้งพระนิพพาน จากโสดาบัน สกทาคามี อนาคามี อรหันต์ ตามลำดับ ที่กล่าวมานี้ ไม่ใช่ ให้ ท้อใจ แต่ให้ทราบตามความเป็นจริงว่า ไม่ใช่สิ่งง่ายๆ ที่จะบรรลุเป็นพระอริยบุคคล เป็น "จิรกาลภาวนา " (จิ - ระ - กา - ละ - พา - วะ - นา) คือ การภาวนาที่ต้องใช้เวลาสะสมบารมี ๑๐ (กุศลทุกประการ) ไปในแต่ละชาติๆ เป็นกัปป์ๆ เป็นแสนกัปป์
ขออนุโมทนาทุกท่านที่สนใจศึกษาพระธรรม ครับ
พุทธัง สรณัง คัจฉามิ